• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#3901



นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี (Hydro-floating Solar Hybrid) หรือ โรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร ขนาดกำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กับทุ่นลอยน้ำในเขื่อนสิรินธรครบทั้งหมด 7 ชุด พร้อมติดตั้งทุ่นคอนกรีตของระบบยึดโยงใต้น้ำและก่อสร้างอาคารสวิตช์เกียร์แล้วเสร็จ

โดยจะเตรียมทดสอบขนานเครื่องกําเนิดไฟฟ้าเข้ากับระบบโครงข่ายไฟฟ้าครั้งแรก (First Synchronization) ในวันพรุ่งนี้ คาดจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) ได้ในเดือนตุลาคม 2564

 
พร้อมกันนี้ กฟผ. ยังเร่งมือสร้าง "เส้นทางเดินชมธรรมชาติ หรือ Nature Walkway" เพื่อเป็นจุดเช็คอินและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งใหม่ของ จ.อุบลราชธานี สามารถชมโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดใหญ่ที่สุดในโลกในมุมสูงอย่างใกล้ชิด อยู่ระหว่างปรับภูมิทัศน์รอบพื้นที่

รวมถึงก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์สำหรับให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวก่อนเดินชม เตรียมเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ในเดือนมกราคม 2565 คาดว่าจะช่วยเสริมให้ธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัดกลับมาคึกคัก ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งในช่วงของการก่อสร้าง กฟผ. ได้จ้างผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว เรือ และเจ็ตสกีจากชุมชนรอบพื้นที่มาใช้ในงานก่อสร้าง

รวมถึงเช่าแพเพื่อเป็นที่พักให้กับคนงาน ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนในช่วงที่นักท่องเที่ยวลดลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมแล้วคิดเป็นมูลค่าการจ้างงานในพื้นที่ทั้งหมดกว่า 30 ล้านบาท สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของจังหวัดได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร ถือเป็นโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำที่ไฮบริดกับพลังน้ำจากเขื่อน ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดร่วมกันระหว่าง "พลังงานแสงอาทิตย์" และ "พลังน้ำ" โดยโซลาร์เซลล์จะผลิตไฟฟ้าในช่วงกลางวันที่มีปริมาณความเข้มของแสงเพียงพอ และนำพลังน้ำมาผลิตไฟฟ้าเสริมในช่วงที่ความเข้มแสงไม่เพียงพอหรือในช่วงกลางคืน ช่วยลดความไม่แน่นอนของพลังงานหมุนเวียนที่ปกติแล้วจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้ต่อเนื่องยาวนาน

โดยโรงไฟฟ้าฯ ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนทุ่นลอยน้ำและอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยใช้พื้นที่ผิวน้ำประมาณ 450 ไร่ คิดเป็นสัดส่วนพื้นที่ผิวน้ำไม่ถึงร้อยละ 1 ของพื้นที่อ่างเก็บน้ำทั้งหมด ใช้แผงโซลาร์เซลล์ชนิดกระจกทั้งสองด้าน (Double Glass) สามารถทนต่อความชื้นสูงได้ดี ไม่มีสิ่งปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ นอกจากนี้ ได้ติดตั้งทุ่นลอยน้ำชนิด HDPE (High Density Polyethylene) ซึ่งเป็นวัสดุชนิดเดียวกับท่อส่งน้ำประปา จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำ ที่สำคัญ การผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธร จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) ได้ประมาณ 47,000 ตัน/ปี ซึ่งมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาภาวะโลกรวน ให้กับโลก

กฟผ. ยังเตรียมพัฒนาโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในพื้นที่เขื่อนของ กฟผ. อีกหลายแห่งทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมกำลังผลิตทั้งหมด 2,725 เมกะวัตต์ รวมทั้งอยู่ในช่วงพิจารณาศักยภาพเพิ่มเติมอีกกว่า 5,000 เมกะวัตต์ นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของ กฟผ. ในการก้าวเข้าสู่สังคมไร้คาร์บอนอย่างแท้จริงในอนาคต
#3902


บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 16,954.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,572.42 ล้านบาท หรือ 17.89% โดยมีกำไรสุทธิ 1,432.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 489.91 ล้านบาท หรือ 51.97% โดยมีปัจจัยจากจำนวนวันในการเปิดให้บริการที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ได้ถูกปิดสาขาชั่วคราว ตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 2563 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ โดยโฮมโปร ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น กิจกรรม HomePro Super Expo และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ทั้งบนช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์จึงทำให้สามารถสร้างยอดขายได้เพิ่ม

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับไตรมา 2 ปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2564 เท่ากับ 1,432.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 489.91 ล้านบาท หรือ 51.97% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 16,954.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,572.42 ล้านบาท หรือ 17.89% ซึ่งประกอบไปด้วย รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งเป็นรายได้ที่ประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 16,154.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,330.14 ล้านบาท หรือ 16.86% เป็นผลจาก จำนวนวันในการเปิดให้บริการมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งปิดสาขาชั่วคราวตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น กิจกรรม HomePro Super Expo เป็นต้น สำหรับยอดขาย "โฮมโปรมาเลเซีย" ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา จากคำสั่ง Lockdown ของรัฐบาลมาเลเซีย ในช่วงเดือน พฤษภาคม และเดือนมิถุนายน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้ค่าเช่า 302.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.70 ล้านบาท หรือ 42.17% เป็นผลจากจำนวนวันในการเปิดให้บริการมากกว่าช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ยังคงมีการปรับลดค่าเช่า เพื่อช่วยเหลือผู้เช่า ที่ยังได้รับผลกระทบจากระบาดของ COVID-19 และบริษัทฯ ยังมีรายได้อื่นอีก 497.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152.58 ล้านบาท หรือ 44.23% โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าในสาขา

ทั้งนี้ บริษัทฯ มี กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า และการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 4,065.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 778.03 ล้านบาท หรือ 23.67% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 23.78% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.17% เป็นผลมาจากการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากาไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงมีการเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนจัดซื้อสินค้าเช่นกัน

"สำหรับผลกำไรสุทธิในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีผลกำไร 2,795.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 585.86 ล้านบาท หรือ 26.52% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 32,786.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,080.08 ล้านบาท หรือ 10.37% และ ณ ปัจจุบัน โฮมโปร มีสาขารวมทั้งสิ้น 86 สาขา โฮมโปรเอส 8 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซียอีก 7 สาขา" นายคุณวุฒิ กล่าวต่อไปอีกว่า

แม้สถานการณ์ยอดขายในไตรมาส 2 โดยรวมจะได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ยอดขายสาขาเดิมของทั้งธุรกิจโฮมโปรในประเทศ และธุรกิจเมกาโฮม ยังสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนหน้า เนื่องจากฐานรายได้ที่ต่ำในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมาจากการปิดบางสาขาชั่วคราว รวมถึงในช่วงต้นเดือน เมษายน บริษัทฯ มีการจัดงาน HomePro Super Expo ผ่านช่องทาง E-commerce และทุกสาขาทั่วประเทศ แทนการจัดงานในรูปแบบเดิม

นายคุณวุฒิ กล่าวอีกว่า ทางบริษัทฯ ได้ปรับตัวเปลี่ยนแผนการดำเนินงานต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่จะยังคงอยู่ต่อไปอีกระยะ จึงเพิ่มความสำคัญให้กับสินค้าเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน ที่คนยังต้องใช้ชีวิตในบ้าน หรือลดความเสี่ยงในการไปสถานที่ที่ผู้คนแออัด โดยมีการเพิ่มสินค้าในกลุ่มป้องกันและฆ่าเชื้อโรค รวมไปถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Work From Home และ Cooking at Home ที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาช่องทางขายอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้การใช้งานสะดวกและง่ายขึ้นในส่วนของช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น แอปพลิเคชั่น HomePro Application และ Home Service Application

"นอกจากนี้ โฮมโปร ได้พัฒนาการให้บริการ Chat Shop4U ที่เสมือนมีผู้ช่วยในการเลือกซื้อสินค้าและบริการในช่วงที่ลูกค้าไม่สามารถออกมาซื้อที่สาขาได้ โดยได้พัฒนาในส่วนของบริการขนส่งสินค้าภายในวันที่มีการสั่งซื้อ (Sameday Delivery) และในส่วนของการรับสินค้าที่สาขา (Click & Collect) นอกจากนี้ เนื่องจากการที่คนอยู่บ้านมากขึ้นทางบริษัทฯ ได้สร้างความน่าสนใจและสรรหาโปรโมชั่นต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านช่องทาง social media ซึ่งการพัฒนา Omni Channel ในช่องทางออนไลน์เหล่านี้ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่ยังมีความกังวลเรื่องการระบาดของ COVID-19 และเป็นตัวช่วยเสริมรายได้ไตรมาส 2 ให้ยังสามารถเติบโตได้เช่นกัน".
#3903



นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัท เอ็กโก ลินเดน ทู ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เอ็กโกถือหุ้นทั้งหมด ที่ได้ลงทุนในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ (Linden Topco) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น "ลินเดน โคเจน" ในสหรัฐอเมริกา ได้บรรลุข้อตกลงในการรับก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจนจากบริษัท ฟิลิปส์ 66 (Phillips 66) โรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้า

บริษัท ลินเดน ทอปโก้ จะปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซของโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ให้สามารถรองรับก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจน จากโรงกลั่นน้ำมันเบย์เวย์ (Bayway Oil Refinery) ของบริษัท ฟิลิปส์ 66 ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อนำมาผสมเป็นเชื้อเพลิงร่วมกับก๊าซธรรมชาติที่ใช้อยู่เดิม การปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 ส่งผลให้โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 สามารถรองรับการเผาไหม้เชื้อเพลิงผสมที่มีไฮโดรเจนผสมอยู่ได้สูงสุดถึง 40% ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ปลดปล่อยปกติในแต่ละปี

ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมพลังงานและเชื้อเพลิง อย่างบริษัท เจร่า อเมริกา จำกัด (JERA Americas Inc.) ซึ่งเป็นพันธมิตรของบริษัท ลินเดน ทอปโก้ กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับการผลิตไฟฟ้าและการขนส่ง นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ปยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงกังดง ในเกาหลีใต้ ซึ่งใช้ไฮโดรเจนเป็นสารตั้งต้นหลักในการผลิตไฟฟ้าและความร้อน การลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ทั้งโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน และโรงไฟฟ้ากังดงนั้น เอ็กโก กรุ๊ปมีเป้าหมายที่จะสั่งสมความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจนเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศของบริษัทในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีด้านนี้พัฒนาเต็มที่

"เอ็กโก กรุ๊ป เป็นบริษัทลำดับต้นๆ ของประเทศไทยที่ส่งเสริมและสนับสนุนแผนการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงสะอาดสำหรับการผลิตไฟฟ้าของประเทศ บริษัทมุ่งมั่นส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงสะอาดมาผลิตไฟฟ้าและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง" นายเทพรัตน์กล่าว
#3904

 

บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2564 รายได้จากการขาย133,555 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ โดย มีปัจจัยหลักมาจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับปริมาณขายที่ ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะมีผลกระทบจากปัญหาเรื่องการ

โดยมีกำไรสำหรับงวด เท่ากับ 17,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน ผลจากส่วนต่าง ราคาสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากส่วนต่าง ราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

ส่งผลทำให้ครึ่งปีแรกของปี 2564  มีกำไรสำหรับงวด 32,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA เท่ากับ 55,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายเท่ากับ 255,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ของปี 2564ในอัตรา 8.5 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 10,200 ล้านบาท โดยกำหนดจ่าย เงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 27 สิงหาคม 2564 กำหนดวันที่ XD ในวันที่ 13 สิงหาคม 2564 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 16 สิงหาคม 2564
#3905



นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เล็งเห็นว่าองค์กรและธุรกิจต่างๆ ล้วนให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน 

ล่าสุดพร้อมเปิดตัว " WHA Office Solutions"  จึงพร้อมเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการเช่าพื้นที่สำนักงาน ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จึงได้พัฒนาพื้นที่สำนักงานให้เข่าบนทำเลซึ่งเหมาะแก่การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์และแนวคิดใหม่ๆ สำนักงานแต่ละแห่งตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีอันทันสมัย ตอบโจทย์นักลงทุนและตลาดสำนักงานให้เช่าได้อย่างดีเยี่ยม การขยายสู่ตลาดใหม่ครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ต่อยอดจากประสบการณ์ในการทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่สั่งสมมายาวนานกว่า 30 ปี

WHA Office Solutions เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงสตาร์ทอัพ โดยมีพื้นที่สำนักงานให้เช่ากว่า 100,000 ตร.ม. ตั้งอยู่ในทำเลชั้นนำย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ เดินทางได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบายสู่สนามบินสุวรรณภูมิ และพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ตลอดจนตั้งอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงเรียน โรงพยาบาล รวมถึงพื้นที่ธุรกิจและการลงทุนอื่นๆ เพื่อการดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น


"เมื่อผู้คนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงมากขึ้น หลายๆ องค์กรจึงจะเริ่มวางแผนการกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศร่วมกันอย่างพร้อมหน้า ภายใต้มาตรการที่คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของพนักงานทุกคน แน่นอนว่าผู้ประกอบการและบริษัทต่างๆ ต้องเริ่มมองหาสถานที่ทำงานที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์วิถีนิวนอร์มอลได้อย่างแท้จริง ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป พร้อมนำเสนอพื้นที่สำนักงาน 6 แห่ง 6 ทำเลที่โดดเด่นด้านความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และความสะดวกสบายในการเดินทาง เราตั้งเป้าหมายที่จะเติมเต็มวิสัยทัศน์การเปลี่ยนออฟฟิศเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ตอบโจทย์ให้กับเจ้าของธุรกิจ ทีมผู้บริหาร และนักลงทุนยุคใหม่ทั้งในและต่างประเทศ"
#3906



"แทมมี่ ดักเวิร์ธ" ส.ว.สหรัฐฯ ลูกครึ่งไทย เผย สหรัฐอเมริกาวางแผนส่งวัคซีนโควิด-19 ช่วยไทย เพิ่มเป็น 2.5 ล้านโดส โดยล็อตแรก 1.54 ล้านโดส จะส่งถึงประเทศไทยวันศุกร์นี้

เมื่อวันอังคารที่ 27 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ นักการเมืองหญิงอเมริกันเชื้อสายไทย จากพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาวางแผนที่จะจัดหาวัคซีนโควิด-19 ทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส ให้กับประเทศไทย

ดักเวิร์ธ กล่าวระหว่างพิธีการเปิดงานเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ "U.S. and Thailand Perspectives on Geostrategic Landscape and Regional Architecture" จัดโดยสถาบัน East-West Center ในกรุงวอชิงตัน และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน หัวข้อ "โอกาสใหม่สำหรับสหรัฐฯ-ไทย ในฐานะพันธมิตรอินโด-แปซิฟิก" เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2564 ว่า แผนดังกล่าวเป็นตามคำมั่นของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จะจัดหาวัคซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศไทยจะได้รับทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส

ดักเวิร์ธ ระบุอีกว่า สหรัฐฯได้ส่งวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส ไปยังประเทศไทยแล้ว โดยวัคซีนดังกล่าวมีกำหนดจัดส่งถึงกรุงเทพฯ ในวันศุกร์นี้ (30 ก.ค.) หลังจากล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งเดือน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. วุฒิสมาชิกแทมมี่เคยประกาศแสดงความยินดีเรื่องสหรัฐฯ มอบวัคซีนให้แก่ไทย โดยดักเวิร์ธ ระบุในแถลงการณ์เมื่อครั้งนั้น ว่า ดิฉันรู้สึกยินดีที่จะประกาศวันนี้ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบวัคซีนอย่างน้อย 1.5 ล้านชุด ให้ประเทศไทย เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวไทยเอาชนะปัญหาโควิด-19 ขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยการบริจาควัคซีนของสหรัฐฯ ซึ่งมีประสิทธิผลสูงนี้ ไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีขึ้นด้วยความเข้าใจว่าจะไม่มีประเทศใดที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้อย่างสมบูรณ์จนกว่าทุกประเทศจะปลอดภัย
#3907



นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ ครึ่งปีแรก ตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2564ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีทั้งสิ้น 3,445 ราย เพิ่มขึ้น 6.07% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทุนจดทะเบียนรวม 8,146.46 ล้านบาท 68.41% สวนใหญ่อยู่ใน จ.ชลบุรี  2,357 ราย รองลงมาเป็น จ.ระยอง และ จ .ฉะเชิงเทรา

 
ประเภทธุรกิจที่มีการจดทะเบียนสูงสุด3อันดับแรก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างอาคารทั่วไป และขนส่ง ขนถ่ายสินค้า รวมถึงผู้โดยสารมีการจัดตั้งใหม่ที่ ปัจจุบันพื้นที่ 3 จังหวัด มีนิติบุคคลคงอยู่ ณ 30 มิ.ย. 2564 รวม 75,682 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 1.99 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น จ.ชลบุรี 54,829 ราย คิดเป็น 72.45% จ.ระยอง 14,638 รายคิดเป็น 19.34%และจ.ฉะเชิงเทรา 6,215 ราย คิดเป็น 8.21%

ส่วนการลงทุนของต่างชาติในนิติบุคคลที่จัดตั้งในไทยมีมูลค่า 817,810 ล้านบาท คิดเป็น 40.95%ของทุนทั้งหมด โดยญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนมากสุด 384,682 ล้านบาทคิดเป็น 47.04% รองลงมาคือ จีน97,084 ล้านบาท คิดเป็น 11.87%และสิงคโปร์44,541ล้านบาท คิดเป็น 5.45% ส่วนใหญ่อยู่ในจ.ระยองสูงสุด 430,733ล้านบาท คิดเป็น 52.66%



สำหรับปัจจัยที่ทำให้การจัดตั้งธุรกิจใหม่ในอีอีซีเพิ่มขึ้น มาจากภาคการส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวตามทิศทางของเศรษฐกิจโลก โดยในเดือนม.ค. -7 มิ.ย.2564 มีมูลค่า 4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.59 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ประกอบกับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ลดลง คาดว่าครึ่งปีหลัง การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในพื้นที่อีอีซีจะอยู่ที่ประมาณ 2,900 – 3,000 ราย และตลอดทั้งปี อยู่ที่ 6,300 – 6,500 ราย

                
"ความชัดเจนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี จะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้มากยิ่งขึ้น เช่น การส่งมอบพื้นที่ทั้งหมดของการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงในเดือนก.ย. และแผนการขยายท่าอากาศยานอู่ตะเภาที่มีความก้าวหน้าอย่างมากและจะสร้างงานได้มากกว่า 3,000 ตำแหน่งในอนาคต "
#3908



"มาร์ก กูดดิ้ง" ว่าที่เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย ทวีตข้อความในค่ำวานนี้ (28 ก.ค.) @markgooding ระบุว่า  สหราชอาณาจักรประกาศบริจาควัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า 415,000 โดสแก่ประเทศไทย

"วันนี้ สหราชอาณาจักรมีวัคซีนบริจาคให้ประเทศไทย จำนวน 415,000 โดส ผลิตโดสบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในสหราชอาณาจักร และจัดส่งถึงประเทศไทยในอีก 1 - 2 สัปดาห์ข้างหน้า" ว่าที่ทูตกูดดิ้งกล่าว และระบุว่า ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 สหราชอาณาจักรได้หาทางนำทั่วโลกต่อสู้เพื่อป้องกันโรคร้าย กว่าหนึ่งปีมาแล้วที่เราได้ให้ทุนสนับสนุนพัฒนาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า - ออกซ์ฟอร์ด โดยยึดหลักต้องแจกจ่ายให้คนทั่วโลกในราคาทุน โดยไม่หาผลกำไร มีเป้าหมายเดียวคือ ขอให้กระจายวัคซีนนี้ไปทั่วโลกอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรม 

ว่าที่เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร กล่าวอีกว่า วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพสูง จนถึงวันนี้มีการฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 500 ล้านโดสใน 160 ประเทศทั่วโลก และเนื่องจากโครงการวัคซีนโควิด-19 ในสหราอาณาจักรประสบความสำเร็จอย่างมาก ขณะนี้เรามีวัคซีนเพียงพอส่งต่อให้กับประเทศอื่นๆ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร และไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ได้รับวัคซีนเหล่านี้ ในช่วงที่ไทยเผชิญกับการระบาดสาหัสเช่นนี้ ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าสหราชอาณาจักรอยู่เคียงข้างประเทศไทยเสมอ


ในเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศ มีข้อความระบุว่า ขอขอบคุณในไมตรีจิตของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่ประกาศมอบวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 415,000 โดส ให้แก่ประชาชนชาวไทย เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด สะท้อนถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย-สหราชอาณาจักร
#3909



นายนิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัท อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม จากปัจจุบัน ได้ลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ (CCE) กำลังการผลิต 8.63 เมกะวัตต์ ซึ่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ไปแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนธ.ค.ปี 2562 และปัจจุบันการดำเนินงานในโรงไฟฟ้าดังกล่าวก็เป็นไปด้วยดี และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีมาตรฐานยุโรป อีกทั้งยังสะอาด ไม่มีกลิ่น และบริษัท คาดหวังให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโชว์รูมต้นแบบที่ตั้งอยู่กลางนิคมฯ แล้วเป็นที่ยอมรับของชุมชนในพื้นที่

ดังนั้น หากภาครัฐมีนโยบายเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม บริษัทก็พร้อมที่จะขยายการลงทุน เนื่องจากมีความพร้อมด้านที่ดินในบริเวณใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าเดิมที่ยังสามารถขยายเพื่อรองรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมประเภทโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก หรือ VSPP ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ หรือ ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ต่อแห่ง ซึ่งจะก่อสร้างได้อีกอย่างน้อย 4 แห่ง หรือ มีกำลังการผลิตรวมไม่เกิน 40 เมกะวัตต์

บริษัทมั่นใจว่า พื้นที่ตรงนี้มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม เพราะมีระบบสาธารณูปโภค มีสายส่ง และกระแสการตอบรับจากชุมชนก็ไม่มีปัญหา อีกทั้งโครงการที่ผ่านมาก็ทำได้ดี จึงคากว่าจะพัฒนาได้อีกหลายโครงการ



"เราเตรียมที่ไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอนโยบายรัฐบาลเปิดรับซื้อเพิ่ม อย่างน้อยพื้นที่รองรับได้อีก 4 โรงแต่จะเกิดได้จริงเท่าไหร่ ยังต้องรอดูนโยบายและปริมาณขยะในพื้นที่ด้วย"


นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ภาครัฐเตรียมทบทวนอัตราเงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed-in-Tariff) หรือ FiT สำหรับเชื้อเพลิงขยะว่า ปัจจัยดังกล่าวก็จะต้องนำมาคำนวณความเป็นไปได้ในการลงทุนในอนาคตด้วย เพราะหากปรับลด FiT ลงแล้ว ต้นทุนค่าก่อสร้างเป็นอย่างไร มีความคุ้มค่าในการลงทุนหรือไม่ ซึ่งในส่วนของโรงไฟฟ้าขยะ ปกติแล้วจะมีรายได้จาก 2 ส่วน คือ รายได้จากการขายไฟฟ้า และรายได้จากค่ากำจัดขยะ โดยข้อมูลเหล่านี้ก็ต้องนำมาประกอบการพิจารณาต่อไป


"จริงๆแล้วที่ผ่านมา การใช้ FiT ของภาครัฐ ก็คำนวณมาจากการลงทุนของภาคเอกชน เฉพาะหากรัฐจะปรับ FiT ลงก็มีความเป็นไปได้ เพราะต้นทุนเทคโนโลยีก็มีแนวโน้มลดลง แต่ก็เชื่อว่ารัฐจะพิจารณาอย่างรอบครอบ เพราะหาก FiT ต่ำไปก็จะไม่เอื้อให้เกิดการลงทุน"

สำหรับเม็ดเงินลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมนั้น ปัจจุบัน คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ ซึ่งจะสูงกว่าการผลิตไฟฟ้าเชื้อเพลิงประเภทอื่น เพราะจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงเพื่อดูแลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม


ทั้งนี้ ในส่วนของโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ชลบุรี คลีน เอ็นเนอร์ยี่ (CCE) กำลังการผลิต 8.63 เมกะวัตต์ เป็นการลงทุนร่วมระหว่าง บริษัทดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (WHAUP) บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) และ บริษัทสุเอซ (SUEZ) เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2560 กำลังการผลิตขนาด 8.63 เมกะวัตต์ ตามข้อตกลงการซื้อขายพลังงาน (power purchase agreement- PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่าการลงทุนในโครงการนี้ อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท หรือประมาณ 57 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ตามแผนพัฒนากาลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580. 12. ฉบับปรับปรุงครั้งที่1 (PDP2018 Revision 1) ทางกระทรวงพลังงาน กำหนดเป้าหมายจะรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม เพิ่มเติมอีก 44 เมกะวัตต์ จากแผน PDP เดิมมีการรับซื้อไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมไปแล้ว 31 เมกะวัตต์ หรือ รวมปลายแผนปี 2580 ประเทศไทยจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม รวมอยู่ที่ 75 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันนั้น ทางกระทรวงพลังงาน ยังไม่มีการประกาศนโยบายเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม
#3910


เรื่องของโควิด-19 ภายในประเทศยังเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดการลงทุนในสัปดาห์นี้ สถานการณ์ล่าสุดในวันอาทิตย์ผู้ติดเชื้อต่อวันยังคงเห็นการพุ่งขึ้น และทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง หากอิงข้อมูลการติดเชื้อต่อวันจาก World Meter พบว่า การติดเชื้อของประเทศไทยอยู่อันดับที่ 9 ของจำนวนประเทศที่ World Meters เก็บรวบรวมทั้งหมด 222 ประเทศ

ขณะที่ปัจจุบันจำนวนการติดเชื้อของประเทศไทยเริ่มเห็นการกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น หากมาดูข้อมูลล่าสุดจาก ศบค. พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 100% มาจากต่างจังหวัดที่ไม่รวมปริมณฑลถึง 59% ซึ่งเร่งตัวขึ้นมาจากช่วงก่อนหน้าราวกลาง ก.ค. ที่ 46% บ่งชี้ว่าปัจจุบันการแพร่ระบาดไปเริ่มกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เรากังวลและตลาดยังไม่ตอบรับคือการยกระดับมาตรควบคุมมากขึ้นในต่างจังหวัดเพื่อสกัดกั้นการระบาด แต่การยกระดับจะเป็นลบกับเศรษฐกิจรวมถึงกำไรบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่ม Downside Risk ต่อประมาณการ จึงแนะนักลงทุนติดตามใกล้ชิดเกี่ยวกับการระบาดของต่างจังหวัด ดังนั้น จากการระบาดที่ยังมีความเสี่ยงทำให้ประเมิน SET ยังเสี่ยงอ่อนตัวกรอบ 1,520-1,560

สำหรับการส่งออกในเดือน มิ.ย. ขยายตัว 44%YoY นับเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี หลักๆ เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและฐานปี 20 ที่ค่อนข้างต่ำ ส่วนสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ +78%YoY เครื่องใช้ไฟฟ้า +42%YoY แผงวงจรไฟฟ้า +33%YoY เคมีภัณฑ์ +47%YoY สินค้าเกษตร +60%YoY มองเป็นบวกต่อ (AH DELTA HANA KCE NER PTTGC SAT) อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังต้องติดตามการระบาดโควิด-19 ที่หลายประเทศเผชิญการระบาดอีกครั้ง และบางประเทศที่เกิดการระบาดเป็นคู่ค้าหลักของไทย เช่น สหรัฐฯ (15%) ASEAN (13.4%) ญี่ปุ่น (9.8%)

ปัจจัยสัปดาห์นี้ (1) ประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุสัปดาห์นี้จะมี SCC PTTEP GLOBAL รายงานผลประกอบการ (2) ประชุม FED ในวันพฤหัสบดี แต่เชื่อว่าไม่มีนัยอะไรมากเนื่องจาก Policy ยังน่าจะคล้ายประชุมครั้งก่อน

กลยุทธ์การลงทุน การลงทุนระยะสั้นควรเลือกหุ้นที่ผลกระทบจากโควิด-19 จำกัด เช่น ส่งออก (ASIAN DELTA HANA KCE NER TU) สื่อสารและโรงไฟฟ้า (ADVANC BGRIM BCPG GPSC GULF) รวมถึงได้ประโยชน์จากโควิด-19 เช่น โรงพยาบาล (BCH CHG) พร้อมแนะยังคงเน้นการถือครองเงินสดมากขึ้น

KCE (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 90 บาท) คาดผลการดำเนินงาน 2Q21E ที่ 531 ล้านบาท (+644%YoY และ 6%QoQ) โดยมีปัจจัยผลักดันหลักมาจากรายได้ที่ขยายตัวสู่ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 71%YoY จากฐานที่ต่ำในปี 2020 และเพิ่มขึ้น 7%QoQ ตามจำนวนวันดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นและการปรับขึ้นราคาขาย
URL
 13
 
#3911
สำหรับการประชุมหรือ เรียนออนไลน์ โปรแกรมมีให้ใช้งานหลากหลายมากๆ ครับ แต่วันนี้ ทางผู้เขียนอยากแนะนำโปรแกรม Zoom หรือชื่อในการค้นหาคือ Zoom meeting นั่นเองครับทำไมโปรแกรม Zoom meeting ถึงมีคนนิยมใช้ทั่วโลก ..?สาเหตุส่วนใหญ่ก็คือ มันตอบโจทย์ ใช้งานง่าย แชร์สกรีนได้ทั้งภาพและมิเดีย แต่ที่ผู้เขียนชอบที่สุดก็น่าจะเป็นการใช้งานแบนด์วิทอินเตอร์เน็ตน้อยมากเมื่อเทียบกับ โปรแกรมอื่นๆ เพราะความเร็วเน็ตในแต่ละที่ก็แตกต่างกัน แล้วแต่ผู้ใช้งานด้วย อันนี้สามารถช่วยได้มากทีเดียว


 การเข้าใช้งาน zoom join ก่อนที่เราจะเข้าใช้งาน Zoom เราจะต้อง sign in เพื่อสมัครก่อนครับ โดยไปที่https://zoom.us/signin   แล้วกด Sign in อาจเลือกเป็น sign in ด้วย google หรือ Facebook ก็ได้นะครับ





 1.      ผ่านทางหน้าเว็ป https://zoom.us/signin
 2.      ผ่านโปรแกรมที่ดาวน์โหลดติดตั้งไว้ในเครื่อง (ทั้งคอมพิวเตอร์ , Notebook , Tablet , มือถือ)ในทีนี้ ผู้เขียน เลือกที่จะเข้าแบบที่ 2 นะครับ เพราะมันง่ายดี เลือกโปรแกรม zoom meeting ในคอมฯของคุณเปิดขึ้นมาจะเป็นหน้าต่างแบบนี้ครับ เข้าใช้งานด้วย Email ที่สมัครไว้ครับ ก็จะสามารถใช้งานได้แล้วครับผม
#3912



สอวช. จับมือ วช. และ มจธ. เดินหน้าพัฒนาระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และพัฒนากลไก ในการขับเคลื่อนระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้สัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรม

 นอกจากนี้ ยังเป็นการร่วมพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากรด้านการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ในการเพิ่มขีดความสามารถและการขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมของประเทศ และเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน ให้เกิดเครือข่าย การวิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ที่จะนําไปสู่การร่วมกําหนดและผลักดันนโยบาย ววน. ร่วมกันได้อย่าง มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล

โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พร้อมด้วย ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ (ระบบ ZOOM)

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวถึงการเชื่อมโยงบทบาทของ วช. กับนโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศในฐานะ PMU ด้วยว่า การมี กระทรวง อว.เกิดขึ้นในส่วนของการรวมกลไกหลักสำคัญของประเทศ ทั้งในเรื่องของการอุดม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและต้องมีความเข้าใจอย่างมาก สำหรับทีมงานของ วช.ที่ต้องเข้าไปสัมพันธ์กับรูปแบบการทำงานที่มีความเชื่อมโยงทั้งเรื่องเชิงระบบ เชิงกลไก เชิงแผนงาน และการนำส่งผลสำเร็จผลลัพธ์ของงาน อย่างไรก็ตาม การที่จะขับเคลื่อนงานให้เดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพสิ่งหนึ่งคือการเชื่อมต่อในเชิงนโยบาย

สำหรับบทบาทของ PMU ที่ วช.ให้ความสำคัญคือนโยบายและยุทธศาสตร์ อววน.ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ในส่วนของการลงนามวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตัวสมรรถนะของความเข้าใจของบุคลากร วช. ในเรื่องของการพัฒนานโยบาย ววน.มีความเข้มแข็ง สามารถเข้าไปทำความใจระบบใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ


ด้าน ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผอ.สอวช.กล่าวถึง ความสำคัญของระบบและนโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ว่า การสนับสนุนในเรื่องดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่เกิดขึ้นขณะนี้ที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ก็เพื่อให้ระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) มีความเข้มแข็งมากขึ้น ในส่วนของการจัดการนั้นจะต้องดำเนินการในเชิงระบบให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้ง ววน.จะต้องมีมากกว่างานวิจัย และต้องไปถึงการพัฒนาที่มีฐานความรู้ทั้งจากงานวิจัยและนวัตกรรม โดยจะต้องมีการถ่ายทอดให้ความรู้ลงไปถึงกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น


ขณะที่ รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึงงนวัตกรรมหลักสูตรเพื่อส่งเสริมสมรรถนะของบุคลากรในการบริหารการวิจัยของประเทศด้วยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นความสำคัญอย่างมาก ในการบริหารจัดการงานวิจัยให้ตอบสนองนโยบายของประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหลักสูตรการพัฒนาบุคลากร ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่มีการคิดอย่างตนวางระบบที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
#3913



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า  ตัวเลขการค้าชายแดนและข้ามแดนในเดือนมิ.ย. ถือว่า ดีมากโดย มีมูลค่า 146,094 ล้านบาท เพิ่ม 41.68% แยกเป็นการค้าชายแดนกับมาเลเซีย มูลค่า รวม 24,849 ล้านบาท เพิ่ม 15.33% สปป.ลาว มูลค่า 17,894 ล้านบาท เพิ่ม 18.40% เมียนมา มูลค่า 17,139 ล้านบาท เพิ่ม 31.79% กัมพูชา มูลค่า 13,494 ล้านบาท เพิ่ม 20.99% และการค้าผ่านแดนกับ   จีน มูลค่า 35,740 ล้านบาท เพิ่ม 86.56% สิงคโปร์ มูลค่า 10,158 ล้านบาท เพิ่ม 81.65% และเวียดนาม มูลค่า 6,082 ล้านบาท เพิ่ม 16.91%


นายจุรินทร์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้ขยายตัวคือ 1.การทำงานร่วมกันกับภาคเอกชนระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับเอกชนในรูป กรอ.พาณิชย์เมื่อมีปัญหาลงไปช่วยกันแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที 2.มีการทำเป้าหมายร่วมกันว่าจะเร่งเปิดจุดผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้การค้าชายแดนคล่องตัวขึ้น โดยเม.ย. 63 ถึง มิ.ย.ปีนี้ จากที่เปิดด่าน 25 ด่านเพราะติดปัญหาโควิด สามารถเปิดเป็น 44 ด่านซึ่งมีส่วนช่วยทำให้การค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนคล่องตัวขึ้น และมีเป้าหมายกับภาคเอกชนในการเปิดด่านเพิ่มอีก 11 ด่านโดยมีด่านบ้านปากแซง ที่จังหวัดอุบลราชธานีได้ลงไปกับภาคเอกชนหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้มีการลงนาม MoU ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและแขวงสาละวัน มีความเป็นไปได้สูงในการเปิดด่านร่วมกัน
#3914



นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า บทบาทหน้าที่หลักของดีพร้อม คือ การเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพภาคการผลิตให้อุตสาหกรรมไทย โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ดีพร้อมได้เร่งดำเนินการ คือ การบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน โดยมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพสถานประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายให้ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล รวมทั้งสถานประกอบการที่มีต้นทุนด้านโลจิสติกส์ค่อนข้างสูง จะต้องลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ทั้งในด้านการจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการคลังสินค้า การจัดการการขนส่ง และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งหมด


จากแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ดีพร้อมจึงได้เดินหน้าเร่งผลักดันโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจโดยมีเป้าหมายในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดรวมถึงการเพิ่มความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันขององค์กร การพัฒนาระบบมาตรฐานด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานให้เข้าสู่ระบบมาตรฐานสากลของโลก เพื่อให้มีศักยภาพและได้ผลสัมฤทธิ์ต่อการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ รวมไปถึงการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ

ซึ่งต้นทุนโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก 1. ต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลัง (Inventory Holding Cost) ได้แก่ ต้นทุนการถือครองสินค้าคงคลัง (Inventory Carrying Cost) และต้นทุนการบริหารคลังสินค้า (Warehousing Cost) 2. ต้นทุนการขนส่งสินค้า (Transportation Cost) และ 3. ต้นทุนการบริหารจัดการ (Administration Cost) นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสำหรับสถานประกอบการใน 3 มิติหลัก ๆ คือ ต้นทุน เวลา และความน่าเชื่อถือ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินธุรกิจ


ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญของโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 5 กิจกรรมหลัก คือ 1. กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อการลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 2. กิจกรรมพลิกธุรกิจด้วยโลจิสติกส์กับการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ (Business Rebirth by Logistics (BRL))  3. กิจกรรมเสริมสร้างความร่วมมือด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ดำเนินการโดยการ Coaching การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง (Supply Chain Network) และสร้างความร่วมมือในโซ่อุปทานทั้งภายในและภายนอกกลุ่มอุตสาหกรรม 4. กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) สัญจรขยายผลความรู้ด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานภาคอุตสาหกรรมสู่ภูมิภาค 5. กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน โดยการอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับบุคลากร

"ดีพร้อมตั้งเป้าในการดำเนินงานในปี 2564 คือการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการลดลงคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาทซึ่งสถานประกอบการเป้าหมายในปี 2564 อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนโลจิสติกส์สูง ประกอบด้วย อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและพลาสติก ยานยนต์และชิ้นส่วน ยางพาราและผลิตภัณฑ์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และสถานประกอบการ เช่น เกษตรแปรรูป และเครื่องจักรกลรวมถึงดำเนินการพัฒนาสถานประกอบการไม่ต่ำกว่า 170 กิจการ และพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมให้มีทักษะและองค์ความรู้ด้านจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานที่นำไปใช้ได้จริงไม่ต่ำกว่า จำนวน 100 ราย" ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
#3915



ญี่ปุ่นเผชิญการระบาดของโควิดระลอกที่ 5 ทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อรายวัน 7,629 คน เฉพาะกรุงโตเกียว 2,848 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว

ทางการกรุงโตเกียวยืนยันยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2,848 คน เป็นตัวเลขรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนในจังหวัดอื่นก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก คือ จังหวัดคานางาวะ 758 คน, จังหวัดโอซากา 741 คน, จังหวัดไซตามะ 593 คนสูงสุดเป็นประวัติการณ์, จังหวัดชิบะ 405 คน, จังหวัดโอกินาวา 354 คนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งประเทศญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อเมื่อวานนี้ 7,629 คน

นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกฯญี่ปุ่น ยอมรับว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากญี่ปุ่นเพิ่งผ่านช่วงวันหยุดยาว 4 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงวันหยุดฤดูร้อนและเทศกาล "โอบง" ที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อสักการะบรรพบุรุษ

ผู้นำญี่ปุ่นเรียกร้องให้ประชาชนชมการแข่งขัน "โตเกียวโอลิมปิก" ทางโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน และงดออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น

การระบาดระลอกใหม่นี้สร้างความกังวลมากขึ้น เมื่อมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเพิ่มมากขึ้นคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 30 ของผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด แต่ทว่าจำนวนผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตยังค่อนข้างน้อย เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย และมีผู้ป่วยหนัก 514 ราย

คณะแพทย์เตือนว่า เชื้อสายพันธุ์เดลตาติดต่อได้รวดเร็ว และลุกลามสู่ปอดได้เร็ว ทำให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มคนหนุ่มสาวก็อาจมีอาการหนักจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและใช้เครื่องช่วยหายใจ คณะแพทย์เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วย และสร้างระบบติดตามผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้าน

หนุ่มสาวยังไม่ได้วัคซีน ติดเชื้อเพียบ

การระบาดระลอกนี้ผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาววัย 20-40 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ส่วนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปพบผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 2% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด

ญี่ปุ่นเร่งการฉีดวัคซีนได้มากกว่าวันละ 1,600,000 เข็ม แต่ขณะนี้การจัดสรรวัคซีนเผชิญปัญหาหยุดชะงัก ทางการท้องถิ่นหลายแห่งระงับการฉีดวัคซีนเข็มแรก โดยฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้กับผู้สูงอายุเท่านั้น ขณะนี้ผู้สูงอายุในญี่ปุ่นได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วราว 68.2% ส่วนประชากรทั้งหมดได้รับวัคซีนครบแล้วราว 25.5% .

ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นได้รับวัคซีนแล้ว แต่กลุ่มหนุ่มสาวยังไม่ได้วัคซีน ภาพรวมทั้งประเทศมีผู้ฉีดเข็มแรก 36.9% ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว 25.5%
ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นได้รับวัคซีนแล้ว แต่กลุ่มหนุ่มสาวยังไม่ได้วัคซีน ภาพรวมทั้งประเทศมีผู้ฉีดเข็มแรก 36.9% ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว 25.5%
#3916


นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2564 โดยมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 11,250,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 45,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท

จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 113,538,062 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่เป็นจำนวน 124,788,062 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 499,152,248 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท


นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 45,000,000 หุ้นเพื่อเสนอขายในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกันให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 72/2558 เรื่อง การอนุญาตให้บริษัทจดทะเบียนเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.30 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 148,500,000 บาท ได้แก่

- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 15,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ บริษัท ไท่เว่ ไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 18,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ นางละออ ตั้งคารวคุณ

- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 6,000,000 หุ้น มูลค่ที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ นายวิชัย ด่านรัตน

- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 6,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ นางนธีรา บริรักษ์คูเจริญ

โดยวัตถุประสงค์ของการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน และเพื่อรองรับกับความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และรองรับการขยายกิจการในอนาคต โดยบริษัทมีแผนที่จะใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ในการขยายธุรกิจหลักของบริษัทและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นตามแผนการลงทุนของบริษัท และเพื่อเสริมสภาพคล่องและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อย ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในไตรมาส 4 ของปี 2564 เป็นต้นไป

ในการนี้ ที่ประชุมมีมติอนุมัติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 13 ก.ย.2564 เวลา 10.00 - 12.00 น. ประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยถ่ายทอดสด ณ ห้องประชุม สำนักงานใหญ่ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 56/9-10 ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 12/ ณนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 16 ส.ค.2564 (Record Date)
#3917
ขายอพาร์ทเม้นท์ อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 แขวงวังทองหลาง ขายถูกกู้ได้เต็ม กู้ได้สูง

ขายอพาร์ทเม้นท์ อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 รายได้ดี แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม สภาพสวย เหมือนใหม่ ขายถูกกู้ได้เต็ม กู้ได้สูง ตามเครดิตผู้กู้
ขายอพาร์ทเม้นท์ อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 วังทองหลาง กู้ได้เต็ม กู้ได้สูง 
ขายถูกกู้ได้สูงอพาร์ทเม้นท์ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 รายได้ดี ใกล้รถไฟฟ้า (กำลังก่อสร้าง) แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม ขนาด33ห้อง  เนื้อที่130ตรว.อพาร์มเม้นท์สภาพสวย เหมือนใหม่ ขายถูกกู้ได้เต็ม กู้ได้สูง ตามเครดิตผู้กู้

ขายอพาร์ทเม้นท์วังทองหลาง ลักษณะ: อพาร์ทเม้นท์ 4 ชั้น 33 ห้อง พื้นที่ทั้งหมด130ตรว (ตัวอาคาร 100ตรว ที่จอดรถ 30ตรว)

จุดเด่นทำเล: อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย 4 จากปากซอยเข้าเข้ามาในตึกประมาณ800 เมตร / ทำเลดีกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า

ที่ตั้งอพาร์ทเม้นท์
ที่อยู่: สมชัย อพาร์ทเม้นท์ 124/3 ซ.ลาดพร้าว 58 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม

อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4 ขายอพาร์ทเม้นท์ทำเลทอง| กู้ได้เต็ม กู้ได้สูง ตามเครดิต
 ราคาขายทั้งหมด: 40 ล้านบาท

สนใจติดต่อ ชญานิน 0886293244/ ก้อย 0954149923

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://thaiapartment.online/?p=12


คำค้น
ขายอพาร์ทเม้นท์วังทองหลาง, ขายอพาร์ทเม้นท์ลาดพร้าว58, ขายอพาร์ทเม้นท์อยู่ตรงข้ามตลาดโชคชัย4, ขายอพาร์ทเม้นท์แขวงวังทองหลาง, ขายอพาร์ทเม้นท์เขตวังทองหลาง,
#3918
7 อย่างต้องทำ ถ้าอยากให้เพจเปิดการมองเห็นhttps://www.chatstickmarket.com/single-post/7thingstodoifyouwantyourpagetobevisible

#3919
111-Lotto 111  ตัวแทนจำหน่าย ล็อตเตอรี่ออนไลน์ รายใหญ่ของ มังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์  ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อล็อตเตอรี่แบบใหม่  ยุค new normal




ไม่ต้องไปหน้าแผง ไม่ต้องเสียเวลาก้มหาเลข ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะมีเลขที่อยากได้มั้ย แค่แอดไลน์ หาเรา บอกเลขที่ต้องการ เลขเด็ด เลขดัง แจ้งโอนเงิน จะได้รับ SMS ยืนยัน




ถ้าถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินได้จริง ได้รับเงินจริงไม่เกิน 24 ชม โดยปกติใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงหลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเท่านั้น 

ขั้นตอนการซื้อ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ กับเรานั้น ง่ายๆ มาก มี 2 แบบให้เลือกแล้วแต่สะดวก

1. แอดไลน์ @111-lotto หรือคลิกทีนี่ เพื่อ คุยกับแอดมินโดยตรงและทำการสั่งซื้อและโอนเงินผ่านไลน์ มีเจ้าหน้าที่แนะนำทุกขั้นตอน 

111-lotto รีบแอดไลน์เพื่อเลือกเลขรางวัลก่อนใคร

Add Line : @111-lotto





2. สั่งซื้อผ่านระบบ 111-lotto ล็อตเตอรี่ของของมังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์ ด้วยตัวเอง จะทำที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ Add Line : @111-lotto


 


 
#3920



เบปเป มารอตตา ประธานฝ่ายบริหารของ อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ยืนยัน โรเมลู ลูกากู หัวหอกทีมชาติเบลเยียม ไม่ได้มีไว้ขาย และจะอยู่ล่าตาข่ายในถิ่น จูเซปเป เมอัซซา ต่อไปอย่างแน่นอนในฤดูกาลใหม่

ลูกากู ระเบิดฟอร์มยิงไปถึง 24 ประตูจากการลงเล่น 36 นัดในเซเรีย อา ฤดูกาลที่ผ่านมา และมีส่วนสำคัญในการพา "งูใหญ่" คว้า "สคูเดตโต" ไปครองได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 จนทำให้หลายสโมสรให้ความสนใจ โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ เชลซี ที่กำลังมองหากองหน้าตัวใหม่ไปเสริมคม

อย่างไรก็ตาม มารอตตา ยืนยันว่า ลูกากู คือนักเตะคนสำคัญของ อินเตอร์ และไม่ได้มีไว้ขายแต่อย่างใด โดยระบุว่า "จากมุมมองของฝั่งเรา เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ลูกากู ไม่ได้มีไว้ขาย ลูกากู เป็นนักเตะคนสำคัญสำหรับ ซิโมเน อินซากี (กุนซือคนใหม่ของอินเตอร์)".

ภาพ REUTERS... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/95841/