• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Chigaru

#3821


แอดไวซ์ (Advice) ระบุทิศทางตลาดสินค้าไอทีไทยครึ่งหลังปี 64 ประเมินยากเพราะความต้องการเกิดมากสวนทางอุปทานขาดแคลน สุดเซ็งสั่งสินค้าไป 1,000 ได้มาขายแค่ 300 โดยเฉพาะเครื่องพิมพ์ที่ขาดหนักทั้งตัวเครื่องและหมึก 

"จักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด ระบุว่าภาวะสินค้ากลุ่มเครื่องพิมพ์ขาดตลาดนี้เกิดจากระดับโรงงาน ต้นเหตุหลักไม่ได้มาจากการเปลี่ยนเกมลงมาขายออนไลน์เองของเวนเดอร์ ซึ่งดิสทริบิวเตอร์อย่างแอดไวซ์เองก็ต้องพยายามลงทุนในมิติออนไลน์ และเดินหน้าสู้ด้วยสาขาเพื่อสร้างความแตกต่าง

วันนี้ แอดไวซ์นิยามตัวเองเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์ไอทีครบวงจรที่มีสาขาครอบคลุมกว่า 350 สาขาทั่วประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาขาที่แข็งแกร่งทำให้ 'พิษล็อคดาวน์" ไม่ระคายเคืองผิวแอดไวซ์ เพราะบริษัทมีประสบการณ์เคยรับมือมาในปีก่อน บวกกับมีสาขาในห้างจำนวนไม่มาก เบื้องต้นไม่มีแผนปิดสาขาถาวรช่วงโควิด-19 มีแต่นโยบายขยายพื้นที่ รวมถึงการรับช่วงนำโชว์รูมรถมาพัฒนาเป็นสาขาที่มีศูนย์บริการและห้องอบรมสอนโซลูชันพัฒนาธุรกิจแบบครบวงจร 

***ไอทีปี 64 ยังต้องลุ้น

ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจไอที แอดไวซ์มองว่าการล็อคดาวน์จะมีผลกับตลาดครึ่งหลังปี 64 ในลักษณะคล้ายกับช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปี 63 การรับมือจึงไม่แตกต่างกันมาก แม้จะมีความท้าทายในภาพรวมเศรษฐกิจ เพราะการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกนี้ มีแนวโน้มส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจมากกว่าเดิม


"การ work หรือ learn from home นั้นต้องทำบนสินค้าไอที ทั้งเดสก์ท็อป โน้ตบุ๊ก และแท็บเล็ต สถานการณ์นี้ทำให้ปีที่แล้วตลาดเติบโตสูงจากปกติยอดขาย 2 พันล้านยูนิตกลายเป็น 3 พันกว่าล้านยูนิต ดีมานด์ที่เกิดมากเช่นนี้ทำให้ของขาดตลาด ดังนั้น อัตราเติบโตของแอดไวซ์จึงไม่สะท้อนกับความจริงเพราะติดเรื่องซัปพลาย ตอนนี้ซัปพลายขาด อะไรที่วางแผนสั่งไปก็ถูกเวนเดอร์ปรับลดหมด สั่งไป 1,000 ได้มา 300 เราเลยมองไม่ได้"



จักรกฤชย้ำว่าสถานการณ์สินค้าไอทีไทยขาดตลาดวันนี้ยังอยู่ในระดับควบคุมไม่ได้ และดิสทริบิวเตอร์ต้องรับข้อมูลจากเวนเดอร์หรือพาร์ทเนอร์เป็นรายสัปดาห์ ทั้งหมดนี้ทำให้เชื่อว่าแอดไวซ์น่าจะเติบโตกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

"ไม่ใช่เติบโตจากปีที่แล้ว ทั้งหมดเพราะซัปพลายไม่พร้อม"

หากไม่มีปัญหาสินค้าขาดตลาด จักรกฤชเชื่อว่าการเติบโตของแอดไวซ์จะมากกว่า 10% ที่ตั้งเป้าหมายไว้ สถานการณ์นี้ทำให้ทิศทางธุรกิจแอดไวซ์ในครึ่งหลังปี 2564 ต้องเปลี่ยนแปลง ทั้งการปรับรูปแบบการดำเนินงาน การทำตลาดและการให้บริการ จากเชิงรับเป็นเชิงรุกมากขึ้น พร้อมมุ่งเน้นการทำตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะส่วนของช่องทางหลักอย่างอี-คอมเมิร์ซ ที่แอดไวซ์ได้ขยายช่องทางในส่วนของมาร์เก็ตเพลส และโซเชียลคอมเมิร์ซ เพิ่มเติม


จักรกฤชประเมินว่าปี 2566 ตลาดรวมไอทีประเทศไทยอาจจะมีสัดส่วนยอดขายออนไลน์ 50% เพิ่มจากปัจจุบันที่มีราว 20% ปัจจัยผลักดันคือทุกคนถูกสถานการณ์ทำให้ต้องทำรายการต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ ทั้งหมดเกิดบนความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะระบบชำระเงินที่ปลอดภัยสูงขึ้น ทำให้คนไทยรู้ว่าการทำธุรกรรมออนไลน์ไม่ยากและน่าเชื่อถือ ความเสี่ยงได้รับสินค้าไม่มีคุณภาพนั้นลดลง เชื่อว่าตลาดออนไลน์ไทยในส่วนที่เป็นสินค้าเทคโนโลยีจะขยับขยายใหญ่ขึ้นต่อเนื่อง

ในส่วนของแอดไวซ์ สัดส่วนการขายออนไลน์ก็เติบโตมาตลอด ภาวะนี้ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้แอดไวซ์ไม่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์จังหวัดสีแดงเข้มช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดย 2 เหตุผลหลักคือจำนวนสาขาแอดไวซ์บนห้างสรรพสินค้ามีจำนวนไม่มากและการมีประสบการณ์จากปีที่แล้ว ทำให้แม้ห้างจะปิด แต่ก็ไปเปิดสาขาใหม่ได้เร็ว เบ็ดเสร็จแล้วเมื่อเทียบจำนวนสาขาที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนสาขาทั้งหมด นับว่าเป็นเพียงแค่ 10% ของสาขาทั้งหมดเท่านั้น

"ทีมแอดไวซ์มีประสบการณ์ทำ PR ให้ลูกค้ารับรู้เร็วว่ามีการเปิดสาขาใหม่ อย่างเช่น สระบุรีที่ห้างปิด เราใช้เวลา 3 วันทำการเปิดสาขาใหม่ได้เลย ประสบการณ์ปีที่แล้วทำให้เราพร้อม"

เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามสถานการณ์ปัจจุบัน แอดไวซ์ต้องปรับปรุงการดำเนินงานและบริหารจัดการหลายด้าน ที่เห็นชัดคือการเพิ่มความสะดวกที่สาขา ด้วยบริการ Advice 3D ให้ลูกค้าไดร์ฟทรูที่สาขาสแตนอโลน, เดลิเวอรี่จัดส่งถึงบ้าน และบริการดูแลหลังการขายแบบเคาะประตูบ้าน 'Advice Dee Dee Onsite Claim & Service" ที่เปิดตัวมาแล้วก่อนหน้านี้

วันนี้สาขาของแอดไวซ์ที่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติมีจำนวนกว่า 300 สาขา ส่วนใหญ่เป็นร้านสแตนอโลนที่ไม่ได้ตั้งบนห้าง ร้านสาขาทั้งหมดถูกแอดไวซ์วางจุดยืนเป็นกลยุทธ์สำคัญแบบครบวงจรในระยะยาว



***สู้ด้วยสาขา

ลูกค้าองค์กรหรือตลาดคอมเมอร์เชียลจะเป็นโฟกัสที่แอดไวซ์ให้ความสำคัญมากขึ้นในปีนี้ โดยมีสาขาเป็นเครื่องมือในการเปิดตลาดโซลูชัน ทั้งระบบ POS สำหรับติดตั้งในจุดชำระเงินของร้านกาแฟหรือร้านค้าขนาดเล็กของเอสเอ็มอี และระบบห้องเรียนอัจฉริยะซึ่งสอดคล้องกับความพยายามของแอดไวซ์ ที่เน้นเพิ่มสินค้าใหม่ตามเทรนด์ตลาด และเดินหน้าวางจำหน่ายสินค้าอื่นที่นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พีซี หรืออุปกรณ์ DIY

"แอดไวซ์ไม่มีแผนลดสาขาเพราะโควิด-19 แต่ลดสาขาเฉพาะที่ไม่สามารถทำกำไรได้ และมีแผนขยายสาขาในบางจังหวัด" จักรกฤชระบุ "เมื่อห้างปิด เราทำอะไรไม่ได้ ไม่มีการปิดถาวร แต่ปิดเพราะห้างปิดทำการและศูนย์ไอทีบางจังหวัดปิด"



หนึ่งในไฮไลท์เรื่องการขยายสาขาของแอดไวซ์คือนโยบายตั้งสาขาสแตนอโลน ซึ่งแอดไวซ์ย้ำว่าเกิดขึ้นเพราะพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ชินกับการจอดรถที่ร้านหรือการเดินทางที่ไม่ยุ่งยากเหมือนในจังหวัดใหญ่ สิ่งที่แอดไวซ์จะยังทำต่อในยุคหลังโควิด-19 คือการขยายขนาดสาขาที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ค้าปลีก 
เพื่อให้รองรับงานแสดงสินค้าได้มากขึ้น แอดไวซ์ย้ำว่าจำเป็นต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่เหมือนโชว์รูมรถ ซึ่งจะสามารถแบ่งส่วนได้ครบทั้งการแสดงสินค้าและโซลูชัน รวมถึงมีเซอร์วิสได้เต็มรูปแบบ เป็นสาขาที่ให้บริการครบวงจรที่แอดไวซ์จะขยับไปลูกค้าองค์กรและราชการมากขึ้นในจังหวัดพื้นที่ไม่ใหญ่อย่างเช่นศรีสะเกษ เพราะสาขาขนาดใหญ่จะทำให้มีพื้นที่สาธิตหรืออบรมโซลูชันโดยร่วมมือกับเวนเดอร์เพื่อให้ลูกค้าองค์กรเห็นภาพจริง ซึ่งจะตอบลูกค้ากลุ่มนี้ในพื้นที่นอกกทม. ได้

"เรารับช่วงโชว์รูมรถมาทำ เราเน้นขยายขนาดและตอนนี้ใช้เวลาปรับแก้ที่หนองคาย อุดรฯ เชียงใหม่ และศรีสะเกษ ทำไปเรื่อยๆ เร็วๆนี้คือโคราชที่สาขาเป็นไซซ์โชว์รูม" จักรกฤชเผย "สาขาจะไม่เน้นแสดงสินค้าอย่างเดียว แต่จะเป็นจุดให้ความรู้ และช่วยลูกค้าได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่การขายสินค้าไอทีจำเป็นต้องมี"

วันนี้ สัดส่วนของกลุ่มลูกค้าแอดไวซ์แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือค้าปลีก 60% และค้าส่ง 40% ตลาดคอมเมอร์เชียลมีสัดส่วนรวม 3% จากนี้ไป คอมเมอร์เชียลจะเป็นโฟกัสที่แอดไวซ์ให้ความสำคัญ หลังจากที่ผ่านมาบริษัทเพิ่งเริ่มขยายทำตลาดในกลุ่มนี้เมื่อปี 62 ถือว่ามีการเติบโตถึง 100%

การเปิดสาขาใหม่ในครึ่งแรกปี 64 ยังดำเนินการตามแผนงานที่แอดไวซ์วางไว้ สาขาที่เปิดอยู่ในจังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดชัยนาท และในกรุงเทพฯ มี 2 แห่ง ได้แก่ สาขาในไทวัสดุ บางนา และสาขาเซ็นทรัลพระรามสอง ที่วางกำหนดว่าหากสถานการณ์โควิดดีขึ้น ก็จะเปิดทำการได้ในเดือนก.ย. 64

ปีที่ผ่านมา สินค้าขายดีของแอดไวซ์ยังเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อปที่เป็นแบรนด์ รองลงมาคืออุปกรณ์ DIY โดยเฉพาะการ์ดจอที่ราคาพุ่งสูงจนทำกำไรก้าวกระโดดให้แอดไวซ์ในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งสองส่วนคิดเป็น 60% ของรายได้แอดไวซ์ นอกนั้นเป็นสินค้ากลุ่มเครื่องพิมพ์และสินค้าอื่นที่จำหน่ายได้จำนวนมากแต่มูลค่าต่อชิ้นไม่สูง เช่น เมมโมรี่การ์ด แรม และเราท์เตอร์

สำหรับอนาคต แอดไวซ์มองว่าหากวิกฤติโควิด-19 ยังไม่หมดไป บริษัทก็มั่นใจว่าจะยังมีรายได้มารองรับและจะเดินหน้าพัฒนากลยุทธ์การขายออนไลน์คู่ไปด้วย รวมถึงการขยับมาทำตลาดกับมาร์เก็ตเพลส เพื่อขยายลูกค้าในแนวกว้างให้มากขึ้น และเพิ่มสินค้าบางกลุ่มที่แอดไวซ์ยังไม่เคยเริ่มทำ

ถึงวันนั้น ขออย่าให้มีพิษ "สินค้าขาดตลาด" อีกก็แล้วกัน.
#3822


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดการประมูลสุดยอดกาแฟ รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า กาแฟเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย มีมูลค่าการค้ากว่า 33,000 ล้านบาท เมื่อพูดถึงทิศทางของตลาดกาแฟไทยในปัจจุบันพบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยมีความต้องการใช้เมล็ดกาแฟเฉลี่ยที่ 88,862 ตันต่อปี แต่สามารถผลิตเมล็ดกาแฟดิบได้เฉลี่ยเพียง 24,671 ตันต่อปี หรือประมาณ 28% ของความต้องการใช้เมล็ดกาแฟเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภคในประเทศ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมกาแฟไทยยังมีโอกาสเติบโตต่อไป หากเกษตรกรไทยสามารถเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศหลายกลุ่มที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ และพร้อมจะทดลองรสชาติใหม่ๆ

 นอกจากนี้ ด้านตลาดต่างประเทศนั้น กาแฟไทย ถือว่าเป็นกาแฟที่มีคุณภาพดี ไม่เป็นรอง ปัจจุบัน เรามีตลาดส่งออกเมล็ดกาแฟดิบที่สำคัญ คือ แคนาดา ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา และมีตลาดส่งออกกาแฟคั่วที่สำคัญ คือ กัมพูชา มาเลเซีย และฮ่องกง โดยที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันการส่งออกให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่องในทุกสินค้าที่มีศักยภาพ แม้สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้การบริโภคกาแฟในภาพรวมลดลง แต่เมื่อมองแนวโน้มและพิจารณาตลาดกาแฟในระยะยาวแล้ว ผมเชื่อว่าสินค้ากาแฟยังคงมีโอกาสทางการตลาดสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ



"ปีนี้ก็อีกเป็นปีหนึ่งที่มีการจัดงานนี้ขึ้นซึ่งผมขอถือโอกาสนี้แสดงความยินดีกับเกษตรกรทุกท่านที่ชนะการประกวดและได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณสูงสุด และเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งและขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือกให้นำเมล็ดกาแฟเข้าร่วมประมูล ซึ่งต้องบอกว่าเมล็ดกาแฟไทยทุกรายการที่นำมาประมูลมีคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์ทั้งด้านกลิ่นและรสชาติ พิเศษกว่าเมล็ดกาแฟระดับพรีเมียมทั่วไป เพราะเป็น Specialty Coffee ที่ได้รับคะแนน Cupping จากผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟทั้งของไทยและระดับโลก 80 คะแนนขึ้นไป จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน"นายจุรินทร์ กล่าว

นายกีรติ รัชโน ระบุด้วยว่า งานในวันนี้ ได้รับความสนใจจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร สมาคม โรงคั่วกาแฟ ร้านกาแฟ กลุ่มนักบริโภคกาแฟยุคใหม่ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,500 ราย โดยราคาเปิดประมูลเมล็ดกาแฟโรบัสตา จำนวน 10 รายการ เริ่มต้นที่ กิโลกรัม(กก.)ละ 150 บาท เคาะราคาประมูลสูงสุดที่ 20,000 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับเมล็ดกาแฟอะราบิกา จำนวน 30 รายการ ราคาประมูลเริ่มต้นที่ กิโลกรัมละ 200 บาท เคาะราคาสูงสุดที่ 6,400 บาทต่อกิโลกรัม ในภาพรวมสามารถสร้างมูลค่าได้สูงกว่าราคาตลาดปกติโดยเฉลี่ยถึง 60 เท่า ซึ่งรายได้ที่ได้จากการประมูลทั้งหมด จะจ่ายตรงให้กับเกษตรกรโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเมล็ดกาแฟที่ประมูลราคาสูงสุดพันธุ์อะราบิกาเป็นของนายฉิ่ง แซ่ท้าว เกษตรกรจังหวัดน่าน 6,400 บาทต่อกก. และเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสตา ของนายธนาสิทธิ์ สอนสุภา เกษตรกร จ.ชุมพร เคาะราคาประมูลที่ 20,000บาทต่อกก.
#3823


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนดังชาวเวียดนามเข้าสู่โลกแห่งธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ เซเลบสาวๆ ทั้งหลาย ที่ผันตัวไปเป็นนักธุรกิจมากพรสวรรค์ ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ตั้งแต่แฟชั่น เครื่องสำอาง และด้านบันเทิง ไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ และการเงิน

มายแทม

จากนักร้องสาวเสียงใส สู่ความเป็น 'เกิร์ลบอส' กับผลิตภัณฑ์น้ำหอม 'มายไทม์' ที่มีทั้งน้ำหอมและชาวเวอร์เจล หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เธอก็ต่อยอดด้วยการสร้างตึกในโฮจิมินห์ซิตี ชื่อว่าอาคาร 'ไนติงเกล' ที่ตั้งตามฉายาของเธอสมัยเป็นนักร้อง เปิดช็อปเสื้อผ้าแฟชัน รวมทั้ง คาเฟและร้านชาสไตล์ญี่ปุ่น กวาดรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2017, 2018 และ 2019 โดยในปีล่าสุดมีรายได้ถึง 47.8 พันล้านดอง



ลีนาคี

ทูตการท่องเที่ยวเวียดนามคนแรก ลีนาคี ก่อตั้งบริษัท ลิงค์ กรุ๊ป ของตัวเองในปี 2007 เพื่อทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เครื่องประดับ แฟชัน สื่อ และความบันเทิง รวมทั้ง การทำงานเพื่อสังคมและการกุศลด้วย ลีนาคี ยังเปิด ลิงค์ ลักซ์ชัวรี แกลเลอรี สำหรับวางขายเครื่องประดับสุดหรูไฮเอนด์ อย่าง เดอ กริสโซโกโน เปาโล โปวาน คริเวลลิ โจเอลลิ และสเตาริโน ฟราเตลลิ รวมทั้งผลงานเสื้อผ้าดีไซเนอร์ อย่าง อเล็กซิส มาบิลล์ อัลแบร์ตา แฟร์เรตติจอร์จส์ โอไบคา โทนี มาติเชฟสกี ฯลฯ นอกจากนี้ เธอยังมีแบรนด์เครื่องเพชร 'ลิงค์' เป็นของตัวเอง



โฮง็อกฮา

นางแบบสาวที่ผันตัวมาเป็นนักร้องในปี 2017 เป็นที่รู้จักในฉายา "ไคลี เจนเนอร์แห่งเวียดนาม" เธอเปิดตัวบริษัท เอ็ม.โอ.ไอ. คอสเมติกส์ แบรนด์เครื่องสำอางแบรนด์แรกของเวียดนามที่มีลิปสติก ฮอนโกฉะส์ ซีเคร็ต ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดผลิตในเกาหลีใต้ตามมาตรฐานสากล เอ็ม.โอ.ไอ. คอสเมติกส์ เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีรายรับในปี 2019 ถึง 84 พันล้านดอง



ไมพยงทุย

ไมพยงทุย มิสเวียดนาม ปี 2006 ในทุกวันนี้เป็นที่รู้จักกันดีในนาม "Miss Securities" แทน จากการลงทุนในธุรกิจของเธอ เธอซื้อร้านอาหารเวียดนามในใจกลางเมืองโฮจิมินห์ในปี 2013 รวมทั้งแฟลตสุดหรูทั้งในเวียดนามและในฮ่องกง นอกจากนี้ เธอยังลงทุนในของหรูหราจำนวนมาก โดยเฉพาะนาฬิกาแบรนด์ดัง ทั้งอูโบลต์ โรเล็กซ์ โอเดอมาร์ส ปิเกต์ ปาเต็ก ฟิลิปป์ รวมไปถึง รองเท้าและกระเป๋าระดับพรีเมียมจากแบรนด์ต่างๆ เช่น ชาเนล ลุยส์วิตตอง ดิออร์ กุชชี และแอร์เมส



ตังทันฮา

หลังจากเข้าร่วมเป็นสมาชิกครอบครัว โจนาทาน หาน เหวิน ประธานบริษัท ไอเม็กซ์ แพน แปซิฟิค กรุ๊ป ผู้นำเข้าแบรนด์ดังอย่าง ชาเนล ลุยส์วิตตอง อาร์มานี โรเล็กซ์ และอื่นๆ มาสู่เวียดนาม อดีตนักแสดงหญิง ตังทันฮา ก็บอกศาลาวงการบันเทิง มาเปิดบริษัทสื่อสารการตลาดของตัวเอง นอกจากนี้ เธอยังลงทุนในสายอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยการเปิดบาร์และร้านสาขาอาหารทะเล อย่าง เดอะ แคร็บ แช็ค ในโฮจิมินห์ซิตี้ และยังเปิด ซันนีส์ สตูดิโอ เวียดนาม ร้านแว่นกันแดดแบรนด์ฟิลิปปินส์แห่งแรกในเวียดนาม กับ ฮาตัง แบรนด์แฟชั่นสุดหรูของตัวเอง



ซรองง็อกอันห์

อดีตนางแบบสาวที่ผันตัวมาเป็นนักแสดง และประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง ทำให้มีแบรนด์ดังมากมายดาหน้าเข้ามาให้เป็นพรีเซนเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นอาดิดาส อาวดี้ ซัมซุง ชาเนล เวอร์ซาเช ลุยส์วิตตอง โบเตกา และทูมี ซรองง็อกอันห์ เป็นเจ้าของและซีอีโอของบิรษัท อันห์เวียต บริษัทตัวแทนโฆษณา และบริษัท ทีเอ็นเอ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่รับผลิตสื่อบันเทิง นอกจากนี้ เธอยังเป็นเข้าของร้านอาหารอิตาเลียนและจีนหลายแห่ง ไม่รวมการลงทุนในอสังหาที่เธอซื้อเก็บๆ ไว้มากมาย
#3824
  ข้าวออแกนิกสำหรับแม่ตั้งครรภ์
รูปภาพสำหรับข้าวอินทรีย์  การทำนาข้าวอินทรีย์   วิธีปลูกข้าวอินทรีย์   ข้าวออร์แกนิคไทยมีราคาแพง

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวออร์แกนิค)
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ  ข้าวหอมมะลิออแกนิค " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.ข้าวมะลินิลปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.  ข้าวหอมมะลิorganic, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ขายข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวกล้องผกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  ข้าวหอมมะลิออแกนิก
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์
2.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลิ
3. ข้าวปะกาอำปึลเกษตรอินทรีย์   ข้าวผกาอำปึลออร์แกนิค(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ขายข้าวสารหอมมะลิผสมหลายสายพันธุ์สุรินทร์
5.ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ 6.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลินิล
7. ข้าวไรซ์เบอรี่  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 
 
#3825


สายการบินไทยเวียตเจ็ทเดินหน้า ปักหมุดขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศ เชื่อมภูมิภาคเอเชีย กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ สิงคโปร์ และ ไทเป พร้อมเที่ยวบินตรงเชื่อมระหว่างภูเก็ต และ สิงคโปร์ เริ่ม 20 ต.ค.64

เส้นทางบินใหม่จากกรุงเทพฯ (BKK) สู่ ไทเป (TPE) และสิงคโปร์ (SIN) จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 และ 21 ตุลาคม 2564 ตามลำดับ ขณะที่เส้นทางบินตรงระหว่างภูเก็ต สู่ สิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป สายการบินฯ ยังได้ให้บริการเที่ยวบินเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ ไปยังภูเก็ต สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจากไทเปมายังกรุงเทพฯ มอบตัวเลือกการเดินทางเชื่อมต่อ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ในช่วงแรกของการให้บริการ เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ สู่ ไทเป และสิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน โดยเส้นทาง กรุงเทพฯ - ไทเป จะให้บริการทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ และเส้นทาง กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ จะให้บริการทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และอาทิตย์ ขณะที่เส้นทางบินตรงระหว่างภูเก็ต สู่ สิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ทุกวันพฤหัสบดี และอาทิตย์ โดยสายการบินฯ จะปรับเพิ่มความถี่เที่ยวบินของทั้งสามเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องในภายหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและตอบรับกับความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น

ในฐานะ "สายการบินโลว์คอสต์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งปี 2020" จากนิตยสาร โกล. บิสซิเนส เอาท์ลุค กรุงลอนดอน สายการบินไทยเวียตเจ็ทยังคงมุ่งมั่นขยายเครือข่ายเส้นทางบินอย่างต่อเนื่อง ทั้งเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ เร็ว ๆ นี้ สายการบินฯ ได้ขยายเส้นทางบินใหม่และกลับมาให้บริการเส้นทางบินข้ามภูมิภาคภายในประเทศ ได้แก่ เส้นทางบินจาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ เชียงราย และ อุดรธานี รวมทั้งเส้นทางบินระหว่าง หาดใหญ่ และ เชียงราย มอบตัวเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและสะดวกสบายและแก่ผู้โดยสาร ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบินและสำรองบัตรโดยสารในเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศของไทยเวียตเจ็ทได้ที่ www.vietjetair.com

ปัจจุบัน สายการบินฯ ยังคงให้บริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าทางอากาศและเที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ระหว่างประเทศตามปกติ สายการบินไทยเวียตเจ็ทมุ่งมั่นในการให้บริการด้วยความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสาร พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ด้วยช่องทางการติดต่อที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในช่วงการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19
#3826


"ประกันสังคม" ม.39 โอนวันนี้อีก 5,000 ใครตกหล่นโอนไม่สำเร็จ รีบเช็คสิทธิ์ www.sso.go.th ติดต่อธนาคาร ผูกพร้อมเพย์ด่วน!

คืบหน้าเงินเยียวยาประกันสังคม นายจ้าง และ ผู้ประกันตน ประกันสังคมมาตรา 33 (ม.33) ประกันสังคมมาตรา 39 (ม.39) ประกันสังคมมาตรา 40 (ม.40) ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ใน 9 ประเภทกิจการ

ในวันนี้ (27 ส.ค.) ประกันสังคมจะทำการโอนเงินเยียวยา 5,000 บาท ให้ผู้ประกันตน ม.39 กลุ่ม 16 จังหวัด  สามารถเช็กเสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th คลิกที่นี่

สรุปไทม์ไลน์ "วันโอนเงินเยียวยา" ม.33 ม.39 ม.40

29 จังหวัด แบ่งเป็น 3 กลุ่ม

10 จังหวัด : กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา

3 จังหวัด : ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา

16 จังหวัด : กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง 

วันโอน 20 สิงหาคม 2564 ผู้ประกันตน ม.33 กลุ่ม 16 จังหวัด ได้เงิน 2,500 บาท

วันโอน 23 สิงหาคม 2564 ผู้ประกันตน ม.39 กลุ่ม 13 จังหวัด ได้เงิน 5,000 บาท

วันโอน 24 - 26 สิงหาคม 2564 ผู้ประกันตน ม.40 กลุ่ม 13 จังหวัด และ ผู้ประกันตน ม.40 * สมัครและชำระเงินภายในวันที่ 3 สิงหาคม 2564 กลุ่ม 16 จังหวัด ได้เงิน 5,000 บาท

วันโอน 27 สิงหาคม 2564 ผู้ประกันตน ม.39 กลุ่ม 16 จังหวัด ได้เงิน 5,000 บาท

สำหรับผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากการโอนไม่สำเร็จ สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกันตนที่โอนไม่สำเร็จได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หน้าตรวจสอบสิทธิ กรณีไม่สามารถโอนเงินสำเร็จด้วยสาเหตุที่ผู้ประกันตนไม่ผูกพร้อมเพย์ ขอให้ติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชี ส่วนกรณีที่ไม่ได้รับสิทธิผู้ประกันตนสามารถยื่นทบทวนสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 กันยายน 2564 นี้

 

ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เน้นย้ำ ผู้ประกันตน  ม.33 ม.39 ม.40 ที่มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล ที่ตกหล่นจากรอบการโอน ที่ผ่านมา ให้ท่านเร่งตรวจสอบข้อมูลตนเอง หากเช็คแล้วว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ให้รีบไปติดต่อธนาคารด่วน ท่านที่ยังไม่ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ให้รีบไปดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน หรือเปลี่ยนจากผูกพร้อมเพย์เบอร์โทรศัพท์เป็นพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา
#3827
ฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน ฟรี! 
รับฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้านระยะสั้น และยาว : มืออาชีพ ปล่อยเร็ว





ทำไมต้องฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน?
ฝากขายบ้าน : ปล่อยบ้านไว ทีมงานพาชมบ้าน พร้อมทำสัญญา และพาโอนกรรมสิทธิ์
ฝากปล่อยเช่าบ้าน : หาผู้เช่าได้เร็ว ทีมงานพาชมบ้าน พร้อมทำสัญญา และดูแลตลอดสัญญา





ขั้นตอนการฝากขายบ้าน 
1.จัดเตรียมข้อมูล รายละเอียดบ้าน
2.ถ่ายรูปบ้าน และตกแต่งบ้านให้สวยงาม
3.จัดเตรียมเบอร์โทร, Line และอีเมล์ เจ้าของบ้านที่ติดต่อได้สะดวก (สำคัญ)
4.ลงข้อมูลบ้านด้วยตนเอง หรือ ฝากทีมงานลงข้อมูลฝากขายบ้าน
5.หลังลูกค้าสนใจ ทีมงานติดต่อเจ้าของบ้าน
6.นัดหมายเข้าชมบ้าน พร้อมทำสัญญา
7.ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน





 จุดเด่นของการ ฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน กับ Propso.com 

ปัจจุบัน การสื่อสารได้มีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จาก 2G สู่ 3G มาถึง 4G และกำลังขยับเข้าสู่ 5G ซึ่งรูปแบบการฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน นั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น ประกาศขายบ้านผ่านช่องทางส่วนตัว ประกาศปล่อยเช่าบ้านผ่านนายหน้า ประกาศขายบ้านในเวปไซต์ หรือ ประกาศเช่าบ้านผ่าน Social Media ต่างๆ ซึ่งในแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันไป ถ้ามองในมุมมองของลูกค้าที่ต้องการขายบ้าน หรือ ต้องการเช่าบ้านแล้ว ช่องทางไหนที่สะดวก หรือ มีบ้านเช่าที่ถูกใจ ตรงกับงบประมาณ รูปสวย ชัดเจนทุกมุม จะช่วยให้การฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว 

Propso.com เข้าใจและทราบถึงความยุ่งยากของฝากเจ้าของบ้าน ในการให้ข้อมูลการฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน ต้องสามารถทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และที่สำคัญคือต้องปล่อยขายบ้านให้ได้ไว ด้วยการตลาดในรูปแบบ Referral Marketing โดยให้ทีม Co-Agent ของ Propso หรือ Partner ของ Propsoช่วยหาลูกค้า ทำให้บรรดาเจ้าของบ้านเช่าทั้งหลายต่างไว้วางใจ Propso เป็นอย่างมาก 

ในมุมของลูกค้า สิ่งที่ต้องการมากที่สุด คือ ฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน ต้องเป็นรูปจริง ข้อมูลอัพเดท และมีราคาที่เหมาะสม รวมถึงถ้าได้รับการแนะนำจากคนที่เราไว้ใจอย่าง Co-Agent ของ Propso หรือ Partner ของ Propso แล้ว ยิ่งสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น 

ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยว่า ด้วยแผนการตลาดของ Propso นี้จึงทำให้เจ้าของบ้านหลายท่านมั่นใจ และยินดีที่จะ ฝากขายบ้าน ฝากปล่อยเช่าบ้าน กับทางเรา นอกจากปล่อยขายบ้าน/ปล่อยเช่าบ้านได้เร็วแล้ว ยังมีบริการเสริมต่างๆ อีกมากมายเช่น บริการทวงถามค่าเช่าบ้าน, บริการ Call Center ทุกวัน 9:00-22:00 น., บริการตรวจบ้าน และประเมินความเสียหายหลังสิ้นสุดสัญญา เป็นต้นYoutube : https://youtu.be/QGzLKZP-MUs 

สนใจบริการ Propso : ฝากขายบ้าน | ฝากขายคอนโด | ฝากขายทาวน์โฮม | ฝากขายอาคารพาณิชย์ | ฝากขายโฮมออฟฟิศ
#3828
ข้าวดีปลอดสารแท้ 100%ข้าวออแกนิคสำหรับทารก  ข้าวออร์แกนิคส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวกล้องมะลินิลอินทรีย์ คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก ข้าวกล้องปะกาอำปึลออแกนิคเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก ข้าวอินทรีย์หอมมะลิแดง เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก ข้าวกล้องหอมมะลินิลปลอดสารพิษ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ขายข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6daqhyo0am1a6t.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์
3.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิก
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิค6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคสำหรับทารก7. ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 

 
 
#3829
 ข้าวกล้องอินทรีย์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ 

 ข้าวอินทรีย์สำหรับแม่ตั้งครรภ์
'ข้าวอินทรีย์' ดีต่อสุขภาพ  เส้นทางผลิตข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ตลาดข้าวอินทรีย์  โครงการข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์ )
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ข้าวเกษตรอินทรีย์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ข้าวมะลินิลปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคคือ, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ข้าวหอมมะลิอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคสำหรับทารก, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิคสำหรับทารก, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวผกาอำปึลปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : ข้าวหอมมะลิอินทรีย์
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิออแกนิค
2.ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์  ปลูกข้าวผกาอำปึลออแกนิค(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวกล้องอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์สุรินทร์
5.  ขายข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ 6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค
7.  ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่อินทรีย์  ขายข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 
 
#3830


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 3/2564 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าที่ประชุมเห็นชอบจัดสรรเงินกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม ประจำปี 2565 จำนวน 1,224.8801 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) อยู่รอด หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 บรรเทาปัญหาและฟื้นฟูธุรกิจที่ได้รับ

ผลกระทบรวมทั้งสร้างความพร้อมให้ SME ในการเข้าสู่ การแข่งขันในบริบทใหม่ทางเศรษฐกิจ และอยู่อย่างยั่งยืนคือ การปรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้ เกิดความสะดวกแก่ SME

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เร่งพัฒนา Single sign on (SSO) ระบบฐานข้อมูลสมาชิก สสว. เพื่อเชื่อมโยงการบริการและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ย้ำการใช้เงินกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เกิดความคุ้มค่า และประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SME โดยตรง 


นอกจากนี้ ได้สั่งการในที่ประชุมให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ยังล้าสมัยให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้คำนึงถึงการประกอบธุรกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 และผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนที่จะได้รับ ซึ่งสามารถหารือร่วมกับสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง(สำนักงาน ป.ย.ป. )และคณะทำงานด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจ

เพื่อให้เกิดการต่อยอดเศรษฐกิจ ยกระดับ SME รวมถึงการส่งเสริมให้มีพี่เลี้ยงสนับสนุนพัฒนาผู้ประกอบการ เพื่อพัฒนาขึ้นเป็น SME รายใหม่ ด้วยการบูรณาการทำงานร่วมกันกับศูนย์บ่มเพาะต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เช่น ศูนย์ดิจิทัล ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้การทำงานเชื่อมโยงกันเป็นระบบและไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

พร้อมกำชับให้เร่งแก้อุปสรรคและข้อจำกัดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SME โดยจัดทำข้อมูลของ SME ให้ชัดเจนเพื่อใช้พิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อและแหล่งเงินทุนแต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งใช้ข้อมูลการบริหารงบประมาณของในส่วนของการพัฒนาจังหวัด กลุ่มจังหวัดประกอบด้วย เพื่อเร่งสร้างงานและรายได้ให้กับประชาชนได้มากขึ้นส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย 
#3831


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมมอบนโยบายและติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า รฟท.รายงานว่าจะมีการทำความตกลงกับบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของ รฟท.เร็วๆ นี้ โดยจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงหลักหรือธรรมนูญใหญ่ที่ใช้ในการดำเนินงานระหว่างกัน หรือเรียกว่า "Master Agreement" โดยในข้อตกลงดังกล่าวจะมีการระบุให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เป็นผู้ทำหน้าที่หลักในการบริหารทรัพย์สินของ รฟท. ซึ่งหมายความรวมถึงการให้สิทธิในการบริหารอสังหาริมทรัพย์หรือที่ดินของ รฟท. โดยที่ดินดังกล่าวมีมูลค่ามหาศาลและมีศักยภาพสูงมาก

การบริหารทรัพย์สินของ รฟท.ที่ดำเนินการโดย บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด จะมีการใช้วิธีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารใหม่ ทำให้บริษัทมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในยุคโลกาภิวัตน์

ขณะที่ นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการรถไฟฯ และในฐานะกรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ได้มีการดำเนินการเตรียมความพร้อม และการวางแผนการดำเนินงานในหลายเรื่อง เช่น ด้านกระบวนการทางกฎหมายได้มีการขอยกเว้นพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนในด้านการบริหารจัดการและทางด้านธุรกิจ ได้มีการวางแผนในการกำหนดการมอบสิทธิในการบริหารที่ดิน เพื่อให้บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เตรียมความพร้อมในการรับมอบสิทธิการบริการที่ดิน

นอกจากนี้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ยังได้มีการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารโครงการใหญ่ๆ โดยดำเนินการในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งไม่ได้ดำเนินการในรูปแบบการให้เช่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 


ทั้งนี้ การดำเนินการในการบริหารสิทธิในที่ดินต่างๆ คาดว่าจะถูกทำให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนได้ภายในเดือนธันวาค 2564 ซึ่งจากการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางการเงิน คาดว่าบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้โดยมีมูลค่าสูงถึง 125,175.44 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 10 ปี
@เร่งพัฒนาที่แปลงใหญ่ ย่านพระราม 9, คลองตัน, ถ.รัชดา
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติม ได้แก่ 1. รฟท.ยังมีพื้นที่แปลงใหญ่ที่มีศักยภาพ เช่น พื้นที่บริเวณถนนพระราม 9 จากแยกคลองตัน และถนนรัชดาภิเษก จึงควรนำไปพิจารณาเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม โดยในระหว่างนี้ให้เร่งนำพื้นที่แปลงขนาดกลางและขนาดเล็กมาเร่งพัฒนาให้เกิดรายได้ก่อน

2. เปรียบเทียบบริษัทลูกของบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด กับบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด เพิ่มเติม เพื่อสร้างความคล่องตัวและเสริมศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งนี้ ให้ความสำคัญต่อหลักธรรมาภิบาล 3. ให้ความสำคัญต่อการสรรหาผู้บริหาร รวมทั้งรายละเอียดของเงื่อนไขการจ้างให้มีความเป็นธรรมตามหลักธรรมาภิบาล

4. ให้พัฒนาสถานีธนบุรี เป็นต้นแบบ TOD ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม เนื่องจากอยู่ติดกับโรงพยาบาลศิริราช มีระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อถึง 3 สาย และให้บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาแบบรอบด้าน และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เข้ามาบูรณาการความร่วมมือด้วย และ 5. ให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท เข้าไปพิจารณาความเหมาะสมของการพัฒนาพื้นที่แปลงศูนย์การแพทย์บริเวณสวนจตุจักรด้วย
#3832


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ที่สมัครภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 และชำระเงินสมทบภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 และผู้ประกันตนมาตรา 40 ใน 16 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี ลพบุรี ระยอง สิงห์บุรี สระบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ และตาก ที่มีสถานะเป็นผู้ประกันตนโดยสมบูรณ์ (สมัครและชำระเงินสมทบ) ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564

จะเริ่มโอนเงินเยียวยาในวันที่ 24 – 25 สิงหาคม 2564 วันละ 2 ล้านคน และวันที่ 26 สิงหาคม 2564 โอนให้อีก จำนวน 496,381 คน รวม 3 วัน จำนวน 4,496,381 คน โดยผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้รับเงินโอนผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน คนละ 5,000 บาท ผลการโอนเงินเยียวยาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม 2564) ซึ่งเป็นวันแรก โอนสำเร็จ 1,842,343 คน คิดเป็น 92.12 % ส่วนที่ยังโอนไม่สำเร็จส่วนใหญ่เกิดจากผู้ประกันตนมาตรา 40 ยังไม่ผูกพร้อมเพย์ เลขบัตรประชาชนสูงถึง 147,286 คน ทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือทันในการโอนเมื่อวานนี้ และในส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 40 ใน 19 จังหวัดที่ขยายวันสมัครและชำระเงินถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เมื่อระบบประมวลผลข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งวันที่การโอนเงินให้ทราบต่อไป


ทางด้านเรืออากาศเอกหญิง ศุภพร อยู่วัฒนา รองโฆษกสำนักงานประกันสังคมได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เร่งประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ได้รับสิทธิในพื้นที่ 29 จังหวัด ที่จะได้รับเงินเยียวยา ในวันที 24-26 สิงหาคม 2564 และรวมถึงผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ตกหล่นจากรอบการโอน ที่ผ่านมา ให้ท่านเร่งตรวจสอบข้อมูลตนเอง หากเช็คแล้วว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ให้รีบไปติดต่อธนาคารด่วน ท่านที่ยังไม่ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ให้รีบไปดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน หรือเปลี่ยนจากผูกพร้อมเพย์เบอร์โทรศัพท์เป็นพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา


ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เปิดให้นายจ้างและผู้ประกันตนทุกมาตรา ทั้ง มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ตรวจสอบข้อมูลได้ที่ https://www.sso.go.th/eform_news/
#3833
แซนดีสุจิตราต่างหูแฮนเมด  ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์



ต่างหูแฮนเมดราคาย่อมเยาว์แซนดีสุจิตรา  ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์  แซนดีสุจิตราเครื่องประดับแฮนเมด
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ โดย แซนดีสุจิตรา แนะนำผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม เป็นผลงานศิลปะในตัวเอง และ เป็นงานฝีมืออย่างพิถีพิถันโดยศิลปินท้องถิ่น

ต่างหูแฮนเมดราคาย่อมเยาว์  ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมด ราคาย่อมเยาว์ มีของฝากมากมายให้ซื้อในประเทศไทย หัวของคุณจะหมุนแน่นอนเมื่อตัดสินใจว่าจะซื้ออะไร คุณภาพในราคาที่ไม่แพงนอกจากนี้คุณยังพบกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะทำให้คุณประหลาดใจว่าศิลปะไทยมีความพิเศษอย่างไร แนะนำ ชิ้นนี้ ต่างหูแฮนเมด-โดยแซนดีสุจิตรา Trust Pearl & Rose Quartz

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา และสินค้าอืนๆมากมาย แนะนำ สินค้าอืนๆอีกมาก https://www.sandysujittra.com/
The most beautiful product that we prod of and recommend, Handman Earing By Sandysujittrahandcrafted by local artist
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา 

Handman Earing By Sandysujittra

One of the most beautiful product that we proud of and recommend, These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.

There are a lot of souvenir items to buy in Thailand.Your head will surely spin when trying to decide on what to buy.here are selected items which is unique and will surely remind you of your wonderful time at Thailand.

Handman Earing By Sandysujittra

Recommend, product

https://www.sandysujittra.com/product/37954/trust

Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop These beautiful products are works of art in themselves and are painstakingly handcrafted by local artist.
Our products have made by thai local people who love art & have much experience
Please visit Thai Souvenirs Shop Welcome To Thai Souvenir Shop
https://www.sandysujittra.com/


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kaaiduan.com/เครื่องประดับ/ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุ/


คำค้น
ต่างหูแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, ต่างหูแฮนเมด-เครื่องประดับแฮนเมดโดยแซนดีสุจิตรา, Handman Earing By Sandysujittra

 
#3834


นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผย ว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนกรกฎาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 52,442 คัน ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.62% และลดลงจากมิ.ย. 64 คิดเป็น 15.08% เนื่องจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้กำหนดมาตรการล็อกดาวน์ช่วงกลางก.ค.ส่งผลให้ลูกค้ายกเลิกการจองรถหรือเลื่อนการรับรถออกไป รวมถึงสถาบันการเงินมีการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ และมีการชะลอการผลิตรถยนต์รุ่นที่นิยมจากการขาดแคลนชิปและชิ้นส่วนรถยนต์ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด19 ในประเทศและประเทศคู่ค้าที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ดังนั้นจึงต้องติดตามใกล้ชิดว่าศบค.จะมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์หรือไม่ซึ่งจะมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ดีขึ้น

" การล็อกดาวน์ต่อเนื่องทำให้ประชาชนระวังการใช้จ่ายเพราะมองรายได้ในอนาคตไม่แน่นอนส่งผลให้โชว์รูมรถยนต์ส่วนใหญ่ถูกลูกค้ายกเลิกการจองรถ และเลื่อนรับรถโดยส่วนใหญ่จะยกเลิกการจองมากกว่า ขณะที่ไฟแนนซ์เองก็ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อซึ่งช่วงเศรษฐกิจดีๆนั้นไฟแนนซ์จะปฏิเสธการให้สินเชื่อเพียง 5-10% แต่ช่วงนี้ปฏิเสธสูงถึง 50% สำหรับรถยนต์ราคาไม่สูงนัก แต่รถยนต์ราคาแพงรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าพบว่ายังไม่กระทบมาก หากรัฐทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ก็เชื่อว่าจะทำให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามยอดขายรถยนต์ 7 เดือน(ม.ค.-ก.ค.64) 425,633 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 9.71%แม้จะเพิ่มขึ้นแต่ก็เทียบกับปีที่แล้วที่ฐานค่อนข้างต่ำ"นายสุรพงษ์กล่าว

สำหรับการผลิตรถยนต์ในประเทศเดือนก.ค.มีทั้งสิ้น 122,852 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37.52% เพราะฐานต่ำในปีที่แล้ว และต่ำสุดรอบปีนี้หากไม่นับรวมเดือนเม.ย. 64 ที่มีวันหยุดจำนวนมาก เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่พบกับปัญหาขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญและชิ้นส่วนรถยนต์บางชิ้นในการผลิตจากผลกระทบโรงงานชิ้นส่วนทั้งในและเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จึงต้องชะลอการผลิตรถยนต์บางรุ่น โดย 7 เดือนแรกปีนี้ผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 967,453 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.11% ซึ่งหากการผลิตยังอยู่ระดับดังกล่าวผลกระทบต่างๆไม่รุนแรงขึ้นคาดว่าการผลิตรถยนต์ปี 2564 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,550,000-1,600,000 คันแบ่งเป็นผลิตเพื่อส่งออก800,000-850,000 คัน ผลิตเพื่อขายในประเทศ 750,000 คัน

ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนก.ค. 64 ส่งออกได้ 70,590 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 42.42 %เพราะฐานต่ำในปีที่แล้ว แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 จำนวน14.97% โดยส่งออกลดลงในบางทวีป อาทิ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ COVID-19 ระลอกใหม่ ทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศคู่ค้าลดลง ส่งผลให้การส่งออก 7 เดือน(ม.ค.-ก.ค.64) 544,079 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 35.98% โดยมูลค่าส่งออกรถยนต์7 เดือนแรกปี 64 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 469,509.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 51.58% ก็ยอมรับว่ากังวลว่าการส่งออกกลุ่มยานยนต์จะไม่ถึง 1 ล้านล้านบาทอย่างที่คาดหวังไว้ซึ่งคงต้องขอติดตามสถานการณ์อีก 1-2 เดือน

"เรายังกังวลปัญหาการขาดแคลนชิปจากทั่วโลกจึงไม่ปรับเป้าการผลิตเพื่อส่งออกสู่ระดับ 900,000คันโดยคาดว่าปัญหานี้จะยังคงมีไปถึงปี 2565 จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากการทำงานอยู่บ้าน(WFH)ทั่วโลกทำให้ชิปมีความต้องการสูงขึ้นในทุกภาคส่วน"นายสุรพงษ์กล่าว



นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนชิปจะส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์โดยรวมจะเห็นได้จากล่าสุดโตโยต้า ญี่ปุ่นก็ประกาศลดการผลิตลงทั่วโลก 40% ในเดือนก.ย.หรือกว่า3 แสนคันทำให้โตโยต้าในไทยจะโดนไปด้วยก็กำลังเจรจากับบ.แม่อยู่ถึงความชัดเจนซึ่งแม้จะมีนโยบายเตรียมพร้อมรับมือแต่การใช้ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมากดังนั้นจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีอาจจะมีหลายค่ายรถยนต์จะมีกำลังการผลิตที่ลดลงเพราะผลกระทบดังกล่าว

" โรงงานผลิตชิปไม่มีปัญหาจากผลกระทบโควิด-19 เพราะใช้เครื่องจกรอัตโนมัติส่วนใหญ่ แต่มีปัญหาเรื่องระบบลอจิสติกส์ การส่งมอบ แต่ที่ขาดเหตุผลหลักจากความต้องการใช้เยอะมากทั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากขึ้นตั้งแต่สมาร์ทโฟน ระบบอินเตอร์เน็ตต่างๆ รถยนต์ ฯลฯ "นายศุภรัตน์กล่าว
#3835


นายพงษกรณ์ คอวนิช หัวหน้าแผนกงานการตลาดด้านผลิตภัณฑ์และลูกค้าโพสต์เพด เอไอเอส กล่าวว่า "วันนี้วิถีชีวิตของประชากรทั่วโลก ทั้งการทำงาน หรือ การเรียน ได้ย้ายตัวมาอยู่บน Online Platform อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น ในฐานะ Digital Life Service Provider นอกเหนือจากการพัฒนาเครือข่ายทั้งไร้สาย และ เน็ตบ้าน เพื่อให้ครอบคลุม และพร้อมรองรับการใช้งานแล้ว การผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก เพื่ออำนวยความสะดวก และ สนับสนุนวิถีดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลผ่าน cloud ก็เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน"

โดยเราพบว่า หนึ่งในข้อจำกัดสำคัญระหว่างช่วง Lock Down ที่ต่างต้องทำงานจากที่บ้าน – Work From Home และเรียนอยู่ที่บ้าน – Learn From Home คือ พื้นที่ในการเก็บข้อมูล หรือ ไฟล์รูปแบบต่างๆบนอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ไม่เพียงพอ จนอาจเกิดอุปสรรคได้



ดังนั้นแทนที่จะต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ หรือ เพิ่ม memory card ให้ยุ่งยาก การนำข้อมูลดังกล่าวไปจัดเก็บบนบริการ Cloud ที่มีความเชื่อได้ในระบบรักษาความปลอดภัย และง่ายในการเข้าถึง จึงเป็นทางเลือกที่เข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างดี นี่คือที่มาของความร่วมมือระหว่าง AIS 5G และ Google One เพื่อสนับสนุน และลดความกังวลจากข้อจำกัดดังกล่าว ด้วยการเปิดให้ลูกค้ารายเดือน AIS 5G เท่านั้นสามารถใช้บริการแบบสมาชิกของ Google One ได้ง่ายๆไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มถึง 100 GB นานถึง 6 เดือน" หลังจากนั้นยังสามารถใช้บริการได้ต่อเนื่องในราคาเดือนละ 70 บาท สำหรับ 100 GB หรือสามารถดูรายละเอียดของแพ็กเกจ Google One อื่นๆได้ที่ https://www.ais.th/googleone/

Google One คือ บริการแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลแบบสมาชิก สามารถเชื่อมโยง ใช้ได้ทั้งใน Google Drive, Gmail และ Google Photos โดยสามารถเก็บรูป ,วีดีโอ และไฟล์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยในระบบคลาวด์และสามารถเข้าถึงได้จากอุปกรณ์ใดก็ได้ พร้อมทั้งยังสามารถแบ่งพื้นที่เก็บข้อมูลให้บุคคลอื่นได้สูงสุด 5 สมาชิก (รวมเจ้าของบัญชีเป็น 6 สมาชิก)


นายมาแฮร์ ซาฮิน ผู้อำนวยการ ฝ่ายพันธมิตรแพลตฟอร์มและระบบนิเวศ, Google ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "ที่ Google เราต้องการที่จะมีส่วนสนับสนุนการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนจากเทคโนโลยีของ Google โดยเราขอขอบคุณ AIS 5G ที่เดินหน้านำนวัตกรรมจาก Google One ที่เป็นบริการจัดเก็บข้อมูลบน Cloud มาสร้างสรรค์บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า จะช่วยให้ลูกค้าเอไอเอสปราศจากความกังวลอย่างแน่นอน โดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากในปัจจุบัน"

สำหรับลูกค้ารายเดือน AIS 5G ที่มีบัญชี Gmail บนแอนดรอยด์ หรือ ไอโอเอส สามารถสมัครรับสิทธิ์ได้ง่ายๆ เพียงกด *642# โทรออก รอรับ SMS แจ้งยืนยันการรับสิทธิ์ และขั้นตอนการสร้างบัญชีการใช้งาน Google One ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2565 โดยสามารถใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายนาน 6 เดือน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/googleone/
#3836


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้รับรายงานสถานการณ์ภาวะสังคมประจำไตรมาสที่2/64 จากสำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ที่ระบุถึงแนวโน้มการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะการจ้างงานในภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นตามแนวโน้มการส่งออก


อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเห็นว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังทำให้แรงงานมีความเปราะบาง จึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานร่วมกันพิจารณามาตรการการจ้างงานมาตรการพยุงการจ้างงาน ช่วยเหลือให้แรงงานยังมีรายได้เพราะในช่วงโควิด-19แพร่ระบาดซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างน้อย 3 ปีตั้งแต่ปี 2563-65 สร้างจุดเปราะบางหลายจุด เกิดทั้งผู้ว่างงาน ผู้เสมือนว่างงานคือทำงานไม่ถึง 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ที่พบว่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงต้องมีมาตรการรองรับสำหรับผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนคือกลุ่มผู้จบการศึกษาใหม่ที่มีแนวโน้มต้องใช้เวลาหางานยาวนานขึ้น

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

"นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ที่รัฐบาลจะดำเนินการคือการควบคุมการแพร่ระบาดให้เร็ว พยุงการจ้างงานและดูแลรายได้ของประชาชน โดยการเร่งการใช้จ่ายภาครัฐให้เกิดผลอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้จีดีพี พื้นตัวได้เร็วขึ้น" น.ส.ไตรศุลี กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรียังได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณามาตรการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการลักษณะร่วมจ่าย หรือ co-pay การดึงเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ทุกมาตรการและโครงการสามารถตรวจสอบการใช้จ่ายที่โปร่งใส ปรับแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้
วมถึงพิจารณามาตรการบรรเทาภาระหนี้สิน เนื่องจากรายงานของ สศช. ระบุให้เห็นภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง โดยขอให้มาตรการต่างๆ การดำเนินการอย่างระมัดระวัง เข้าถึงลูกหนี้จริง ชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียทั้งต่อตัวลูกหนี้เองกับผู้ประกอบการ ไม่ให้มีการออกไปใช้หนี้นอกระบบ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้ผู้ประกอบการต้องขาดทุนจนเกิดผลกระทบเชิงระบบการเงินในภาพรวม
#3837


พบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ Efferin ทางสื่อออนไลน์ โดยระบุสรรพคุณ "กระตุ้นการเผาผลาญได้อย่างดีเยี่ยม...ส่งเสริมการกำจัดไขมันขั้นสุด...กระตุ้นเนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาล... ช่วยลดคลอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยสลายและใช้งานไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกินจากกระแสเลือด ทำให้เนื้อเยื่อไขมันลดลง... มีประสิทธิภาพในการต้านภาวะซึมเศร้า... ช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น" เป็นต้น โดยมีการสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับแพทย์หญิงชื่อดังชาวไทยถูกไล่ออกจากประเทศชั้นนำ เนื่องจากปฏิเสธที่จะขายผลิตภัณฑ์เผาผลาญไขมันสูตรพิเศษให้แก่บริษัทยาในประเทศนั้น จึงได้กลับประเทศไทยและร่วมกับผู้ทรงอิทธิพลผลิตผลิตภัณฑ์เอฟเฟอร์รินขายเฉพาะในประเทศไทย

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เป็นข้อมูลลวง โดยผลิตภัณฑ์ Efferin ขออนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในชื่อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอฟเฟอร์ริน/Efferin Dietary Supplement Product เลขสารบบอาหาร 10-1-03958-5-0272 โฆษณาดังกล่าวแสดงข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นเท็จและแสดงคุณประโยชน์หรือสรรพคุณของอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากในการยื่นขออนุญาตไม่มีการยื่นข้อมูลเพื่อประเมินประสิทธิผลตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใดอีกทั้งผลิตภัณฑ์อาหารไม่มีผลในการบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรค นอกจากนี้ ยังพบมีการแอบอ้างชื่อบุคลากรทางการแพทย์ในตำแหน่ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพต่อมไร้ท่อเป็นผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวานและนักโภชนาการเป็นผู้รับรองผลิตภัณฑ์แต่แท้จริงแล้วนั้น ไม่มีตำแหน่งดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง และภาพหญิง-ชายที่อ้างว่าเป็นผู้คิดค้นและรับรองผลิตภัณฑ์นั้น เป็นภาพหญิง-ชายที่เผยแพร่ทั่วไปอยู่บนอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว

ข้อแนะนำ

ขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์ที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง หรือสร้างเรื่องราวดึงดูดความสนใจที่เป็นไปไม่ได้ หากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวควรปรับพฤติกรรมการบริโภค ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ไม่ควรหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาโอ้อวดเกินจริงทางสื่อออนไลน์ เพราะอาจมีสารที่เป็นอันตราย มีผลข้างเคียงรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากผู้บริโภคพบเห็นเบาะแสการโฆษณา การผลิต/จำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556 หรือ Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
#3838
ข้าวฮอร์   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารก ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100% ปลูกข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย
  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค  ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ข้าวหอมสุรินทร์ ข้าวหอมอินทรีย์ คัดพิเศษ 100%
"ข้าวฮอร์ ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์"  ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ เป็นผลิตผลจากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ด้วยการปลูกข้าวแบบปลอดสารพิษในทุกขั้นตอน ณ ดินแดนสุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของประเทศไทย ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งดินและน้ำ เหมาะแก่การปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพสูง ประกอบกับกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การเตรียมพันธุ์ข้าว การหว่าน การดูแลแปลงนา และการเก็บเกี่ยว โดยครอบครัวชาวนาที่มีประสบการณ์และร่ำรวยความสุขจากการทำนาอินทรีย์แบบปลอดสารพิษ เพื่อให้เมล็ดข้าว ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ ที่ได้นั้น มีความหอม นุ่ม อร่อย ดีต่อสุขภาพและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบครัน การมีสุขภาพดี คือ ความสุขที่อยู่ใกล้ตัวเรา นอกจากตนเองแล้ว เราควรแบ่งปันความสุขให้กับคนที่เรารักด้วยข้าวหอมมะลิ   ข้าวกล้องหอมมะลิorganic ขัดสีไม่ขาวเพื่อคงคุณค่าและใยอาหาร มีกลิ่นหอม นุ่ม ตามเอกลักษณ์ของ ข้าวออร์แกนิคหอมมะลิสุรินทร์ 100%




  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค ได้รับมาตราฐานเกษตรอินทรีย์ -มีวิตามินและสารอาหารจากข้าวสูง -สะอาด..บริสุทธิ์..จากธรรมชาติ ทุกขั้นตอน"ข้าวอินทรีย์ (  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์  )" ที่ผ่านกระบวนการเพาะปลูก และบำรุงรักษาทุกขั้นตอน ด้วยวิถีของเกษตรอินทรีย์ -ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนการผลิต"เมล็ดพันธุ์" คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ แต่ละชนิด ด้วยความรัก ใส่ใจ ในรายละเอียดทุกเมล็ด -ด้วยกระบวนการปักดำ..อย่างพิถีพิถันจากธรรมชาติ"พื้นที่เพาะปลูก" ในจังหวัดสุรินทร์ - ทำการเพาะปลูก และควบคุมเองทุกขั้นตอน"แหล่งน้ำ"   ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์อาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติที่ตกตามฤดูกาล"ปุ๋ยที่ใช้" ไถกลบตอซังหลังเก็บเกี่ยวทุกครั้ง และปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน, -  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ,ปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน"การกำจัดศัตรูพืช" ควบคุมด้วยระบบนิเวศน์หรือใส่สารสกัดจากพืชสมุนไพรแทนการฉีดสารฆ่าแมลง

  ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา
ข้าวฮอร์ (HOR) ได้รับมาตรฐาน
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้" จากกรมการข้าว จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเภทของ
2.1 ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)
2.2 ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)
2.3 ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิค
Facebook : www.facebook.com/Surin.Hommali.Rice
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @ Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.ข้าวหอมสุรินทร์
2.ข้าวกล้องหอมสุรินทร์
3.ข้าวปกาอำปึลอินทรีย์ (#ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์)
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์สุรินทร์
6. ข้าวกล้องหอมมะลินิลเพื่อสุขภาพ
7. ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวหอมมะลิ #ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ #ข้าวหอมมะลิปลอดสาร #ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิก #ข้าวหอมสุรินทร์ #ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค
#3839


ในช่วงที่ตลาดผันผวนแบบนี้ จะ Long ซื้อถือระยะยาว หรือ Short ขายเก็งกำไรระยะสั้น ถึงเวลาที่ผู้ลงทุนในตลาดอาจต้องเลือกข้างแล้ว

ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า TFEX ได้จัดงานเวิร์กชอปออนไลน์ TFEX Trading Space 2021 #Workshop From Home ขึ้นมา พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล. โนมูระ พัฒนสิน,  จรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายแนะนำการลงทุน บลป. คลาสสิก ออสสิริส และ  ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล. หยวนต้า มาร่วมกันแชร์มุมมองและเทคนิคการเทรดในสภาวะตลาดช่วงนี้ ในหัวข้อ "Trend & Trading Strategy: ถึงเวลาเลือกข้าง Long or Short?"

โดยงานเวิร์กชอปออนไลน์ครั้งนี้เริ่มจากการร่วมแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวมุมมองโดยรวมของตลาด ซึ่งทั้ง 3 ท่านมีความเห็นตรงกันว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยตอนนี้เป็น Sideway คือไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน หุ้นใหญ่ในตลาดไทย Underperform มาสักพักใหญ่ แต่ยังมีหุ้นขนาดกลางและเล็กคอยหนุนอยู่ จึงส่งผลให้ค่อนข้างเป็น Sideway ด้าน Downside ก็มีกรอบค่อนข้างจำกัด ส่วนตลาดทองคำที่แม้จะมีการฟื้นตัวกลับมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่ต้องระมัดระวังและควรจับตาดูเป็นพิเศษ เพราะหากมีการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อาจส่งผลกับเรื่องสภาพคล่องได้ ปริมาณเงินที่อัดฉีดเข้ามาจะทยอยหายไป ซึ่งทั้ง 3 ท่านให้จับตาไปที่ 2 ปัจจัยใกล้ ๆ นี้ ที่จะส่งผลกระทบกับตลาดอนุพันธ์ในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีก็คือ งานสัมมนา Jackson Hole Symposium ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนสิงหาคมนี้ และการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

กลยุทธ์รับมือกับภาวะผันผวนของตลาดในช่วงนี้ ด้วย 3 สินค้าอนุพันธ์ใน TFEX

1. SET50 Futures : "Sideway" ภาพในปัจจุบันมีปัจจัยลบค่อนข้างมากตามภาวะตลาดโลก แต่การที่ยังไม่หลุดแนวรับสำคัญทำให้มีแรงซื้อกลับมาบ้างท่ามกลางข่าวด้านลบในระยะสั้น แต่ทิศทางตลาดทุนโลกจะมีแรงกดดันมากขึ้นในช่วงอีก 1 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ในมุมมองนโยบายการเงินช่วงถัดไปของ Fed, ความเสี่ยง Regulatory Risk ของตลาดหุ้นจีน และปัจจัยภายในสำคัญอย่างเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เราได้ผ่านช่วงพีคของตัวเลขผู้ติดเชื้อมาหรือยัง รวมทั้งอัตราการฉีดวัคซีนที่โดยรวมอาจจะยังไม่ค่อยได้ตามเป้าที่วางไว้ จะสามารถเปิดประเทศได้ตามแผนหรือไม่ ซึ่งคาดว่าผลประกอบการรายไตรมาส 3 ของแต่ละบริษัทก็น่าจะออกมาไม่ดีเช่นกัน ในด้านราคาตอนนี้ตลาดอยู่ในช่วงค้นหาฐาน ลุ้นแนวรับหลักที่ 900 จุดเอาอยู่ไหม ถ้าไม่อยู่ตลาดจะปรับลึก

กลยุทธ์แนะนำ Trading ช่วงนี้คือ - หาจังหวะ Short ได้

2. Gold Online Futures และ Gold Futures : "Sideway Down" ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำฟื้นตัว Rebound ขึ้นมา เกิดจากแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่ ท่ามกลางการทยอยขายของกองทุน SPDR มาตลอดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว การที่ผู้เล่นรายใหญ่เริ่มถอน Position ประกอบกับ USD Dollar ยังแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้ทองคำยังมีปัจจัยเชิงลบกดดันมากกว่า คาดการณ์ว่าการปรับตัวขึ้นของทองคำจะเริ่มจำกัด อยู่ที่บริเวณกรอบ Sideway อีกทั้งยังมีเรื่องของ Inflation ที่ต้องจับตาด้วย ส่วนปัจจัยเรื่องสงครามตอนนี้ยังอยู่ในวงค่อนข้างเล็กไม่น่าจะสร้างความผันผวนด้านราคาเท่าไรนัก ความชัดเจนจะเกิดขึ้นหลังงานประชุม Jackson Hole Symposium วันที่ 26-28 สิงหาคมนี้ ซึ่งการที่ราคาทองคำหลุดแนวรับ $1,780-$1,800 ลงมาทำให้การเคลื่อนไหวของภาพใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลงแล้ว

กลยุทธ์แนะนำ Trading ช่วงนี้คือ - เลือกฝั่ง Short

3. USD Futures : "Sideways Up" ค่าเงินบาทอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า มีโอกาสอ่อนค่าเหนือ 33.50 บาท จากปัจจัยภายในที่ยังกดดันจากเรื่องโควิด-19 ส่วนตัวเลข GDP ยังคงไม่ฟื้นตัวทำให้ไม่ได้เป็นปัจจัยหนุนเรื่องเงินบาทนัก โดยมีอัตราอ่อนค่ามากสุดในภูมิภาคทีเดียว ซึ่งเงินบาทที่อ่อนค่าลงนี้ช่วยพยุงหรือหนุนราคาทองคำในไทยไว้อยู่ ตามทิศทาง Dollar Index ที่ยังค่อนข้างแข็งค่า ซึ่งยังคงต้องจับตาดูในงานสัมมนา Jackson Hole Symposium ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ว่าจะมีทิศทางเรื่องนโยบายอย่างไร ประกอบกับ Fed อาจจะประกาศทำ QE Tapering หรือการปรับลดเม็ดเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE ในการประชุมปลายปีนี้ด้วย นอกจากนี้ตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2022 ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินดอลลาร์

กลยุทธ์แนะนำ Trading ช่วงนี้คือ - เลือกฝั่ง Long

นอกจากนี้ แนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติ ยังเป็นทิศทางไหลออกอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีประเด็นหรือปัญหาทางการเมือง มักจะทำให้เกิด Flow ไหลออกจากประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินบาทยิ่งอ่อนค่า ดังนั้นแม้ว่าตอนนี้ตลาดทุนในไทยจะยังไม่ได้อยู่จุดที่น่าเป็นห่วงและได้รับผลจากปัจจัยลบมากนัก แต่หากต้องการที่จะเดินหน้าเปิดประเทศและฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจให้ดีขึ้น สิ่งที่ต้องทำให้ได้ก็คือการบริหารรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดยการเร่งอัตราการฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้นและทั่วถึงได้มากที่สุด ซึ่งแต่ละท่านได้ทิ้งท้ายสั้น ๆ ไว้ดังนี้

กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการลงทุน บล. โนมูระ พัฒนสิน "ฝากถึงนักลงทุนมือใหม่ เราอิงปัจจัยพื้นฐานเพื่อลงทุนระยะยาว มองเป้า 3-5 ปี อาจแบ่งมูลค่าพอร์ตซัก 10% มาใช้ TFEX เป็นเครื่องมือเพื่อบริหารความเสี่ยงในสภาวะที่ไม่แน่นอนอย่างช่วงนี้ได้ และสุดท้ายวัคซีนคือความหวังของตลาดทุนไทย"

จรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายแนะนำการลงทุน บลป. คลาสสิก ออสสิริส "หลาย ๆ คนเข้าตลาดมาเพื่อเก็งกำไรโดยหวังถึง 10-20 เท่า ซึ่งต้องพึงระลึกเสมอว่าถ้าเราผิดทาง จากที่หวังมาทั้งหมดอาจสูญเปล่าได้ ต้องมองความเสี่ยงก่อน แล้วคำนวณว่าเราควรเล่นกี่สัญญา พอร์ตเรารับได้เท่าไหร่ ไม่งั้นเรานี่แหละจะกลายเป็นผู้ออกจากตลาดไป"

ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า "ต้องเข้าใจ Mindset การลงทุน มองการลงทุนเป็น Financial Tool เพื่อลดความเสี่ยง คนที่เข้าใจจะใช้ Leverage เพื่อเพิ่มอัตราทดหรือเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองได้ ในตลาดนี้เราผิดทางได้ ถอยได้ ไม่ไหวอย่าฝืนเพื่อเอาคืนเด็ดขาด"
#3840


ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปี 2564 การส่งออกถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญที่สุดที่จะช่วยเศรษฐกิจไทยปี 2564 ขยายตัวได้และไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยการส่งออกปีนี้ได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การผ่อนคลายมาตรการการล็อกดาวน์ในประเทศคู่ค้า และการเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจของหลายประเทศคู่ค้าสำคัญ

สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานข้อมูลภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2564 การส่งออกสินค้ามีมูลค่า 67,761 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 36.2% (สูงสุดรอบ 44 ไตรมาส) โดย สศช.คาดว่าการส่งออกปีนี้ มูลค่าในรูปดอลลาร์จะขยายตัวถึง 13.3% สอดคล้องการปรับเพิ่มสมมติฐานการขยายตัวของเศรษฐกิจและปริมาณ การค้าโลกและเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงการเกิดคลัสเตอร์ในโรงงานจำนวนมาก ทำให้หลายฝ่ายกังวลกระทบกับภาคการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกจึงต้องมีมาตรการรับมือส่วนนี้ 

ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2564 โดยต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการแพร่ระบาดพื้นที่ฐานการผลิตสำคัญด้วยการมีมาตรการป้องกันควบคุมในพื้นที่เฉพาะ "Bubble and seal" รวมทั้งตรวจเชิงรุกเพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ไม่ป่วยในโรงงาน เพื่อลดอัตราการแพร่เชื้อในโรงงาน รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่เป็นข้อจำกัดและอุปสรรคในการขนส่งสินค้า การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการผลิต รวมถึงการสร้างตลาดส่งออกใหม่กับคู่ค้าใหม่ด้วยเพื่อให้ไทยมีตลาดการส่งออกเพิ่มขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) สั่งการให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัด การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory Sandbox) โดยเร็ว และสถานประกอบการหรือโรงงานไม่พร้อมให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลการตรวจหาเชื้อ การจัดหาสถานที่กักตัว ยารักษาโรค ตลอดจนวัคซีนให้แรงงาน


โครงการ Factory Sandbox เป็นแนวคิดการจัดการโครงสร้างและกระบวนการในลักษณะ "เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข" ที่มุ่งดำเนินการควบคู่ระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ โดยใน Sandbox จะมุ่งเป้าที่โรงงานภาคการผลิตส่งออกขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นกลไกหลักของประเทศในปัจจุบัน มีมูลค่าการส่งออกรวมถึง 7 แสนล้านบาท และจ้างงานถึง 3 ล้านตำแหน่ง ประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ 1.ยานยนต์ 2.ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 3.อาหาร 4.อุปกรณ์การแพทย์ 

สำหรับการดำเนินการจะป้องกันคลัสเตอร์โรงงานจากการติดเชื้อ รวมทั้งสร้างสมดุลระหว่างมาตรการทางด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนต่อได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนไทยและชาวต่างชาติในช่วงเวลาที่ซัพพลายเชนของประเทศคู่แข่งกำลังปิดตัวลง โดยโครงการนี้แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ 

ระยะที่ 1 ดำเนินการ 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานีและสมุทรสาคร มีสถานประกอบการเข้าร่วม 60 แห่ง มีลูกจ้าง 138,795 คน 

ระยะที่ 2 ดำเนินการ 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา และสมุทรปราการ 

ทั้งนี้ มีขั้นตอนหลัก ได้แก่ การตรวจ การรักษา การดูแลและการควบคุม เพื่อให้บริหารทรัพยากรที่มีจำกัดได้ตรงเป้าหมาย โดยโรงงานที่มีลูกจ้าง 500 คนขึ้นไป ต้องตั้งโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการไม่ต่ำกว่า 5% ของพนักงาน ดำเนินการ Bubble and Seal โดยกำหนดให้ลูกจ้างเดินทางกลับที่พักแบบไม่แวะระหว่างทาง และอยู่แต่ในเคหสถานเท่านั้น 

รวมทั้งตรวจหาเชื้อแบบ PCR 1 ครั้ง ให้ลูกจ้างทั้งหมด และตรวจแบบ Self ATK ทุก 7 วัน ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ลูกจ้างทุกคน ยกเว้นคนที่ติดเชื้อให้รักษาในส่วนค่าบริการฉีดวัคชีน สถานประกอบการต้องเป็นผู้จ่ายให้สถานพยาบาล และสถานประกอบการทำหนังสือยินยอมดำเนินการตามแนวทางกระทรวงแรงงานและจังหวัด



สำหรับแผน Bubble and Seal จะป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อในพื้นที่และไม่ให้ระบาดไปสู่ชุมชน รวมถึงป้องกันการเสียชีวิตและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคมจากการหยุดดำเนินกิจการ โดยมีหลักการสำคัญ

1.การป้องกันโรค โดยดำเนินการก่อนเกิดการระบาด และการควบคุมโรคเมื่อเกิดการระบาด 

2.การให้ทำกิจกรรม กลุ่มกิจกรรมหรือทำงานได้ รวมทั้งเดินทางเคลื่อนย้ายระหว่างที่พักและที่ทำงาน โดยการควบคุมกำกับ 

3.การบริหารจัดการทั้งด้านการแพทย์และสาธารณสุข และการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกเครื่องอุปโภคบริโภค โดยมีมาตรการป้องกันควบคุมโรค มาตรการด้านสังคม มาตรการกำกับและประเมินผล รวมทั้งมีการบูรณาการจากหลายภาคส่วน 

ในขณะที่ขั้นตอนการดำเนินงาน Bubble & Seal ดังนี้

1.ผู้ประกอบการทำความเข้าใจหลักการจัดทำมาตรการรวมทั้งสื่อสารสร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วมของพนักงานและชุมชนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

2.ผู้ประกอบการจัดทำแผนการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยยึดตามหลักการ แต่ทำแนวปฏิบัติขึ้นกับลักษณะแรงงาน ที่พัก การเดินทางและชุมชน ซึ่งสถานประกอบการออกแบบเองได้

3.ผู้ประกอบการควรกำหนดผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานและกำกับติดตามให้ชัดเจน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอและถอดบทเรียน เพื่อปรับมาตรการให้เหมาะสมในระยะยาวเหมาะสมกับสถานการณ์ 

4.กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันกำหนดกลไกการสื่อสารเพื่อให้เกิดการปฏิบัติและการกำกับติดตามการดำเนินงานต่อเนื่อง

ส่วนกลไกการดำเนินงาน Bubble & Seal ประกอบไปด้วย 1.กลไกด้านการสื่อสารทำความเข้าใจ ได้แก่ จัดทำคู่มือที่ประกอบด้วย หลักการ แนวคิด มาตรการการป้องกัน มาตรการควบคุมโรค การตรวจด้วย ATK และ การดูแลด้านสุขภาพจิต มีการจัดทำแบบตรวจสอบรายการ (Checklist) สำหรับทีมผู้ประเมินกำกับมาตรการระดับจังหวัด และจัดทำวีดีโอประชาสัมพันธ์มาตรการ Bubble & Seal ตั้งแต่ก่อนการระบาดและเมื่อเกิดระบาด

2.กลไกด้านการให้คำแนะนำและระบบพี่เลี้ยง/ที่ปรึกษา (Coaching) ได้แก่ ทีมส่วนกลางประกอบด้วย กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทีมระดับเขต

ประกอบด้วย สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ศูนย์อนามัย ศูนย์สุขภาพจิต และทีมระดับจังหวัด ประกอบด้วยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุตสาหกรรมจังหวัด สวัสดิการแรงงานจังหวัด สำนักงานประกันสังคม จังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด กระทรวงมหาดไทยหรือหน่วยงานอื่นภายใต้คำสั่งแต่งตั้งและมติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยกลไกด้านกำกับประเมินผล แบ่งเป็น3 ทีม ได้แก่ ทีมส่วนกลาง ทีมเขต และทีมบูรณาการ ระดับจังหวัด