&&รศ. ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ กับความขมักเขม้นในเส้นทางสู่ตำแหน่งอธิการบดี

[www.SeoNo1.co.th]

     "คุณครูชมพู่" หรือ "รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์"กับความขมักเขม้นในทางสู่ตำแหน่งอธิการบดีอาจารย์ชมพู่สมัครเข้ารับการคัดเลือกในตำแหน่งอธิการบดีด้วยปณิธานอันแน่แน่วที่ประกาศให้กับประชาคมรับทราบตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจที่จะเดินหน้าสู่ตำแหน่งสูงสุดในองค์กรที่นี้KEEP & SWITCH



คลิ๊กหาเราได้ที่เว็บไซต์ ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ https://madlab.cpe.ku.ac.th/ThailandResearch/?nameID=472170

"KEEP"คือทรงรักษาไว้ซึ่ง "สิ่งดีงาม" ที่สมัยก่อนอธิการบดี รองศาสตราจารย์ ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย แล้วก็คณะผู้บริหารได้ทุ่มเทการทำงานรวมทั้งแต่งตั้งให้สวนสุนันทาก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ ๑ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ และถือเป็นมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าแห่งหนึ่งของเมืองไทยในวันนี้.. ๗ ปีเศษที่พวกเราอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก อยู่กันอย่างองอาจในความยิ่งใหญ่ของสวนสุนันทา โน่นเป็นระยะเวลาอันสวยสดงดงามที่พวกเราจำเป็นต้องร่วมกันรักษาเอาไว้ค่ะ
ในขณะเดียวกัน พวกเราจำต้อง "SWITCH" ก็เพราะเหตุว่าเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง เราก็จำต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความสามารถสำหรับเพื่อการแข่งขันแล้วก็ทันต่อโลกอนาคตอาจารย์ชมพู่มั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ ความสามารถ รวมทั้งกำลังกายกำลังใจที่มีอยู่จะสามารถนำพาองค์กรผ่าวิกฤตก้าวไปถึงเป้าหมายที่ "ไกลกว่าและก็สูงยิ่งกว่า" ในขณะนี้ได้ขอขอบคุณสำหรับทุกแรงใจที่เป็นคะแนนบริสุทธิ์ ที่ช่วยส่งเสริมให้อาจารย์ชมพู่ก้าวเดินสู่ตำแหน่งอธิการบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับถึงวันวานนี้ มีการเสนอชื่อจากพนักงานในมหาวิทยาลัย และก็หน่วยงานระดับคณะ/วิทยาลัย/ศูนย์/สำนักอีกเยอะแยะ เพื่อส่งเสริมให้คุณครูชมพู่เป็นอธิการบดีคนใหม่ของสวนสุนันทา

ท่านคณบดี ผู้อำนวยการศูนย์ สำนัก ทุกท่านที่เสนอชื่อนั้น อาจารย์ชมพู่ ไม่อาจจะใช้อำนาจอิทธิพลไปบีบคั้นใครได้ ตำแหน่งปัจจุบันนี้เป็นเพียงแค่รักษาราชการแทนอธิการบดี ที่สภามหาวิทยาลัยมอบหมายให้ปฏิบัติงานในช่วงเวลาวิกฤตนี้เท่านั้น
การไปกดดัน ขู่เข็ญ ให้ถ่ายภาพเป็นหลักฐานหรือตรวจเช็คใบเสนอชื่อเป็นรายวันว่าใครกันแน่ไม่สนับสนุน จะไม่ต่อสัญญาว่าจ้างและไล่เช็คบิลวันหลังนั้น ไม่ใช่วิสัยและไม่เคยเป็นสิ่งที่คุณครูชมพู่ปฏิบัติตัวปฏิบัติมาก่อนอาจารย์ชมพู่ มีเจตนารมณ์แน่แน่วที่จะสร้างธรรมาภิบาลในอนาคตให้เกิดขึ้นในสังคมเล็กๆของเรา ยืนหยัดอยู่ในมหาวิทยาลัยที่นี้ได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องหรือเครือญาติอะไรก็ตามมาร่วมทำงานด้วยแม้กระทั้งคนเดียว

ทั้งยัง ไม่ส่งเสริมระบบอุปการะ ไม่สนับสนุนการบริหารงานแบบครอบครัวและญาติพี่น้อง แล้วก็ให้คำมั่นสัญญาว่าสิ่งกลุ่มนี้จึงควรหมดไปจากสังคมสวนสุนันทาในอนาคตอันใกล้นี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พูดถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในคราวนี้ว่า แผนการ "ไทยทะยาน" ทะยานให้ประดิษฐ์ ปั้นไทยด้วยมือ GEN Z ในคราวนี้ มีต้นเหตุที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมมือของ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยสถานที่สังคมศาสตร์และก็ศิลปกรรมศาสตร์แห่งเมืองไทย (TASSHA) แล้วก็พรรคภาคเอกชน ที่ต่างเล็งเห็นถึงจุดสำคัญสำหรับการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทย เพื่อความก้าวหน้าเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชน แคว้น สร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และก็บอกให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่มีค่ายิ่งของไทย พร้อมนำมาต่อยอดให้เกิดโมเดลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถนำไปเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างแท้จริง
"มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เห็นถึงจุดสำคัญดังที่กล่าวถึงมาแล้ว แล้วก็จริงจังที่จะต่อยอดสำหรับเพื่อการจัดงานกิจกรรมอบรมเพิ่มองค์ความรู้ สร้างแรงผลักดันผ่านการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง (Experiential Learning) เพื่อเป็นการส่งเสริมให้สังคมได้มองเห็นถึงจุดสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย รวมทั้งเป็นการติดอาวุธทางความนึกคิดอย่างประดิษฐ์ให้กับนิสิต ทั้งยังจากมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยของรัฐรวมทั้งเอกชนทั้งประเทศ รวมถึงผู้ร่วมแผนการ U2T ได้แสดงสมรรถนะสำหรับเพื่อการดีไซน์ สร้างนวัตกรรมรวมทั้งผลงานทางศิลป์อย่างประดิษฐ์ ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าทุนทางด้านวัฒนธรรมไทย เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับเศรษฐกิจและก็สังคมรายตำบล รวมทั้งการผลิตรายได้ สร้างจังหวะให้กับประชาชนและนักศึกษา"

"ทั้งยังยังเป็นการขัดเกลาเยาวชนคนรุ่นหลังให้สามารถเชื่อมสมัยก่อนแล้วก็สานต่ออนาคต คิดและก็ลงมือทำเพื่อรักษามรดกของชาติให้ยังคงอยู่ต่อไปได้อีกด้วย โดยแผนการทะยานไทย ถือว่าเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และสอดคล้องกับพันธกิจหลักและก็ยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาได้อย่างชัดเจน ในการผลิตและก็พัฒนาบัณฑิตที่มีความชำนิชำนาญเฉพาะทางตามความอยากได้ของประเทศในแต่ละแผนก ควบคู่ไปกับการพัฒนาวิชาความรู้แล้วก็ของใหม่ และก็ถ่ายทอดองค์วิชาความรู้แง่ทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริง" รศ.ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ กล่าวด้าน รศ.พิเศษ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการและผู้ประกาศกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ ศึกษาค้นคว้าและนวัตกรรม พูดว่า กระทรวงฯ ให้ความเอาใจใส่อย่างยิ่งกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นหัวใจหลักสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยได้วางทิศทางในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเชิงสร้างสรรค์และการเพิ่มสมรรถภาพของคนประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการสร้างคนรุ่นหลัง และก็นิสิตและนักศึกษา ให้มีความถนัดทางสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ความเข้าใจเรื่องความคิด ศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของชาติ ให้กับการใช้สื่อและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มราคาให้กับฐานทุนทางด้านวัฒนธรรมที่เรามีอยู่ให้สูงมากขึ้น โดยประสานสมัยก่อนกับกระแสโลกาภิวัตน์ไปสู่อนาคต พร้อมมุ่งหน้าไปสู่การผลิตคุณค่าทางด้านเศรษฐกิจแล้วก็สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจที่ใช้มรดกทางวัฒนธรรมของไทยเป็นฐานราก จนสามารถนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงประดิษฐ์ต่อไป



Source: บทความ ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ [/i]https://madlab.cpe.ku.ac.th/ThailandResearch/?nameID=472170