• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - luktan1479

#3881



จากการตั้งคำถามของประชาชน รวมถึงการทำงานของสื่อมวลชนที่ยากต่อการนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาเผยแพร่ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 64 เครือข่ายนักวิชาการและสื่อมวลชน ซึ่งมีการร่วมลงชื่อกว่า 333 คน ได้ออกแถลงการณ์ เสนอเปิดเผย "ข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data" โดยใจความระบุว่า การบริหารจัดการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ทั่วถึง และเป็นธรรม คือ กุญแจสำคัญในการผ่านวิกฤตในครั้งนี้ "การเปิดเผยข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data"

จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสื่อสารว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะบริหารจัดการวัคซีนอย่างโปร่งใส เปิดโอกาสให้สังคมได้มีส่วนร่วมรับรู้ข้อมูล เข้าใจในกระบวนการตัดสินใจของภาครัฐ และนำไปสู่บรรยากาศของความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และภาคสังคม ซึ่งจะช่วยให้สังคมมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ ให้ความมั่นใจกับประชาชน และลดปัญหาความสับสนจากปัญหาข่าวลือและข่าวปลอม

โดยข้อมูลที่ต้องเปิดเผยให้เป็นไปตามมาตรฐาน Open Data Standard ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลที่ให้สื่อมวลชนและประชาชนสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ง่าย มีความละเอียด ครบถ้วน สมบูรณ์ อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ และอยู่ในรูปแบบที่เครื่องสามารถอ่านได้ (Machine-Readble Format) เช่น ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบไฟล์ XLS หรือ CSV

ไทย มีโอเพ่นดาต้าหรือไม่ 
ที่ผ่านมา ข้อมูลเปิดที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ หรือ โอเพ่นดาต้า (Open Data) เริ่มมีการพูดถึงและนำมาใช้ในหลายภาคส่วน แต่ของไทยอาจจะยังไม่มากเมื่อเทียบกับในต่างประเทศ ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับโอเพ่นดาต้า โดยเฉพาะข้อมูลของภาครัฐให้ประชาชนและภาคประชาสังคมเข้าถึงข้อมูลและสามารถตรวจสอบการดำเนินของภาครัฐตามนโยบายที่ประกาศให้ไว้กับประชาชน


ศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ ได้ระบุว่า ในยุคดิจิทัล ข้อมูลเป็นทรัพยากรที่สำคัญสำหรับสร้างนวัตกรรม การเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งที่ช่วยผลักดันการสร้างนวัตกรรมและบริการใหม่ๆ เผยแพร่สู่สังคมและเชิงพาณิชย์ ขณะเดียวกัน ประชาชนซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินงานของภาครัฐ ที่มีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่

รวมทั้งนำความคิดเห็นดังกล่าวไปประกอบการพิจารณากำหนดนโยบายและการตัดสินใจของภาครัฐเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ กับประชาชนมากขึ้น โดยประเทศไทยมีศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Government Data of Thai) ซึ่งมีชุดข้อมูลอยู่ราว 3,569 ชุดข้อมูล


โอเพ่นดาต้า ลดเฟคนิวส์ ลดดราม่า

"รองศาสตราจารย์ พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล" คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า จากแถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการและสื่อมวลชน เสนอเปิดเผย "ข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data" เป็นการทำงานและประชุมร่วมกันจากหลายภาคส่วน ตอนนี้สังคมมีเฟคนิวส์เยอะ เพราะฉะนั้นทางเครือข่าย จึงมองว่า ควรมีโอเพ่นเดต้า ที่เปิดให้ให้สาธารณชนได้รับรู้


ซี่งควรจะต้องมีข้อมูลการจัดหาและการกระจายวัคซีนเป็นข้อมูลเปิด เพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้และสร้างความน่าเชื่อถือกับรัฐบาล ลดทอนเฟคนิวส์ หรือข่าวปลอมที่เกิดขึ้น เมื่อเอาดาต้ามาคลี่ จะลดความดราม่าในสังคม จึงรวมกลุ่มกันในการเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดโอเพ่นดาต้า รวมถึงเครือข่ายสื่อมวลชน นักวิชาการ ตามข้อเรียกร้อง 5 ข้อที่เสนอไป ได้แก่


1.) เปิดเผยกระบวนการเสนอ อนุมัติ และลงนามในสัญญาจัดซื้อวัคซีนที่ผ่านมาและในอนาคต รวมถึงเงื่อนไขสำคัญๆ ในสัญญาจองซื้อและจัดซื้อวัคซีนทุกยี่ห้อ อาทิ จำนวนโดส อายุสัญญา กำหนดการส่งมอบ บทลงโทษกรณีส่งมอบล่าช้า การยกเว้นความรับผิดให้กับผู้ผลิต เป็นต้น

2.) เปิดเผยแผนการจัดหาวัคซีนทุกชนิดต่อสาธารณะ รวมทั้งแผนการทดแทนวัคซีนที่ขาดแคลนในปัจจุบันและการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอและทั่วถึงในอนาคต

3.) เปิดเผยหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนสำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่มีรายละเอียดการจัดลำดับความสำคัญ และจำนวนกลุ่มเป้าหมายของการจัดสรร

4.) เปิดเผยแผนการฉีดวัคซีนและการบริหารจัดการวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมายที่วางหลักเกณฑ์ไว้

5.) เปิดเผยความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเป็นรายวัน โดยมีรายละเอียด ชนิดวัคซีน บุคคลกลุ่มต่างๆ ตามหลักเกณฑ์ พร้อมข้อมูลลักษณะประชากร ข้อมูลเชิงพื้นที่ (รายจังหวัด) และข้อมูลเชิงหน่วยงานที่ดำเนินการ


จัดหา กระจายวัคซีน ประเด็นที่สังคมสนใจ
ทั้งนี้ แม้สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลของ ศบค. หรือกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานอัพเดทข้อมูลรายวัน รศ.พิจิตรา อธิบายว่า ในปัจจุบันจะเห็นข้อมูลที่เกี่ยวกับยอดผู้เสียชีวิต ยอดผู้ป่วยเป็นหลัก ที่ประชาชนติดตาม ซึ่งคิดว่าอีกมุมหนึ่งที่เราอยากได้ คือ การจัดหา และการกระจายวัคซีน ระยะสั้นและระยะยาวเพื่อให้อย่างน้อยประชาชนได้เห็น แสงสว่างปลายอุโมงค์และสามารถแพลนชีวิตตัวเองได้  ซึ่งภาครัฐควรเปิดให้เป็นโอเพ่นเดต้า อยากจะรู้ว่า ณ ปัจจุบัน วัคซีนแต่ละล็อตจะเข้ามาเท่าไหร่ แต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไร และเข้ามาอย่างไร เพื่อให้เห็นไทม์ไลน์ต่างๆ ประชาชนจะได้วางแผนชีวิตได้


ลดความกังขา วัคซีน
อีกส่วนหนึ่งที่คิดว่าอยากจะขับเคลื่อนและคิดว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ดีในเรื่องของโอเพ่นเดต้าที่จะเกิดขึ้น คือ วัคซีน 1.5 ล้านโดส ที่มาจากการบริจาคของสหรัฐฯ เรารู้สึกว่ามีการตั้งข้อกังขาค่อนข้างเยอะ และถ้ารัฐ มีข้อมูลว่าวัคซีนกระจายไปที่ไหน หน่วยงานไหนบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ ไทม์ไลน์การกระจายเป็นอย่างไร บุคลากรทางการแพทย์ สามารถได้วัคซีนมากน้อยขนาดไหน




"ไม่อยากจะให้แค่เป็นแผน อยากจะให้เราได้ดาต้าที่สามารถเห็น ในทางปฏิบัติว่านอกจากแนวทางที่รัฐวางไว้ 4-5 เงื่อนไข อยากจะเห็นว่าข้อเท็จจริงกระจายไปมากน้อยแค่ไหน และนี่เป็นรูปแบบของโอเพ่นเดต้าที่เราเรียกร้อง ดังนั้น วัคซีน 1.5 ล้านโดส น่าจะเป็นแนวทางที่ดี ที่เราอยากจะได้รับจากรัฐบาลในเรื่องของโอเพ่นดาต้า  


ลดช่องว่างรัฐ ประชาชน
ทั้งนี้ หากเริ่มจากการทำโอเพ่นดาต้า นับว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการลดความคลางแคลงใจจากรัฐบาลได้ รศ.พิจิตรา กล่าวต่อไปว่า โอเพ่นเดต้าสร้างความโปร่งใส เราสร้างแคมเปญนี้ เพราะรู้สึกว่าดาต้าที่ประชาชนได้รับเป็นรายวัน แต่ยังไม่ยังไม่เห็นการกระจาย หรือข้อมูลระยะยาวที่ประชาชนสามารถวางแผน

หรือ ข้อมูลที่สื่อมวลสามารถได้ข้อมูล และดาต้าไซแอนทิส สามารถเอาข้อมูลมาทำบนแดชบอร์ดได้ โดยเราสามารถเห็นกันแบบเรียลไทม์ ขณะที่ ในต่างประเทศ มีหลายประเทศที่อาจจะไม่เรียลไทม์ แต่มีการทยอยในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล เห็นยอดการฉีด และยอดของเป้าหมายที่จะไปถึง

แก้ปัญหาไม่เข้าใจ ด้วยดาต้า
ณ ปัจจุบัน ข่าวสารข้อมูลที่ทยอยออกมาจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งพบว่าหลายครั้งพบว่า เกิดกระแสดราม่า ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องออกมาชี้แจง และตัวประชาชนเองก็เสียเวลาในเรื่องของการลงไปกระทู้ถามดราม่ารายวัน

รศ.พิจิตรา กล่าวว่า หากเราได้ดาต้าที่เป็นดาต้าเซ็ตและเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สะท้อนปัญหาที่ประชาชนร่วมเห็นด้วย คิดว่า อย่างน้อยก็จะสามารถบอกประชาชนได้ว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือปัญหาที่เราพบ และเราจะมาแก้ปัญหากันด้วยพื้นฐานดาต้าอย่างไรดี อย่างน้อยในเรื่องของการโอเพ่นเดต้า สะท้อนความจริงใจ ความโปร่งใสของรัฐบาลที่มีให้กับประชาชน

"และหลังจากนั้นสิ่งที่เราจะเดินหน้า คือ ส่งหนังสือ อย่างเป็นทางการในการขอโอเพ่นเดต้าของภาครัฐ ซึ่งตอนนี้รวบรวมรายชื่อได้ 333 รายชื่อในล็อตแรก เป็นรายชื่อที่ระดมจากสื่อเพราะสื่อต้องเอาโอเพ่นเดต้ามาทำข่าว และนักวิชาการสายนิเทศศาสตร์ รัฐศาสตร์ และสายดาต้าไซน์ ในสเต็ปต่อไป จะเปิดให้สาธารณชน ลงชื่อสนับสนุนแถลงการณ์ตัวนี้โดย ผ่านเว็บไซต์ Change.org เพื่อให้สามารถที่จะร่วมลงชื่อได้"


"เราทำเพราะคิดว่าเป็นประโยชน์ เชื่อว่าโอเพ่นเดต้า จะช่วยสนับสนุนการทำงานของสื่อมวลชน ถ้าเรามีโอเพ่นเดต้า ที่เรียลไทม์และเป็นวันสต็อปเซอร์วิส คลี่ดาต้าออกมาให้คนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น จะลดความเคลือบแคลงใจ และลดดราม่าไปเยอะ"



ในโควิดระลอกแรก ซึ่งกองทุนสื่อฯ ร่วมกับ เวิร์คพ้อย ทำแดชบอร์ด ก็เห็นได้เลยว่าคนติดเป็นใคร เน้นเรื่องคนติดเชื้อเป็นหลัก แต่ตอนนี้ระลอกสาม ระลอกสี่ สถานการณ์เปลี่ยนไป วัคซีนเป็นปัจจัย เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เปิดประเทศได้ และทำให้การติดเชื้อลดลง เราจึงต้องมาเดินหน้าเรื่องของวัคซีนต่อ เพื่อสนับสนุนทั้งสื่อมวลชนและช่วยรัฐบาลในการสร้างความโปร่งใสด้วย


"ไม่อยากให้เกิดดราม่า เราอยากให้เกิดดาต้า ตอนนี้เชื่อว่า เป้าหมายของเราคืออยากให้รัฐตอบสนองและเปิดโอเพ่นดาต้า ซึ่งความจริงมีข้อมูลที่เปิดอยู่แล้ว เช่น กรมควบคุมโรค ก็มีโอเพ่นเดต้าบ้างแล้ว หรือมีงานวิจัยของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ ม.มหิดล เก็บและร่วมกันทำโอเพ่นเดต้าให้สังคมได้รับรู้ คิดว่ารัฐทำอยู่แล้ว แต่อยากให้เปิดเผยต่อสาธารณชนด้วย" รศ.พิจิตรา กล่าว
#3882
3in1 led 36pcs 1w led flat par light DJ DMX512 Stage Lighting   

ไฟเวที LED FLAT PAR สุดคุ้มการใช้ ปาร์ตี้, ดิสโก้, KTV, ผับ, ร้านอาหาร, สวน, สวนสาธารณะ, พลาซ่า เพิ่มความตื่นตาตื่นใจ ด้วยชุดไฟ วิบวับ  แค่ 990 บาท 

- 1 หลอดมีหลาย สี  RGB MiXED COLOR
- วัตต์: ประมาณ 36 x  วัตต์
- แรงดันไฟฟ้า: 110-220 - v
-แหล่งพลังงาน: AC
- สามารถใช้ได้กับเครื่องควบคุมสัญญาณไฟ DMX512 
- รูปแบบไฟเปลี่ยนได้ถึง 7 แบบ ได้แก่ ปล่อยอัตโนมัติ เปลี่ยนตามจังหวะดนตรี master-slave
- รับประกัน 1 เดือน

สนใจ ติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้า
โทร : 094-5102033
LINE :@gentech
หรือคลิก https://lin.ee/eYs6pVN


#ป้ายNeonflex #ป้ายไฟสั่งทำ #ป้ายเชียร์ #ป้ายร้าน #ป้ายไฟดัด #ป้ายไฟled
#lighting #ไฟled #ledonhome #ป้ายไฟ #ป้ายไฟร้าน #ราคาป้ายไฟ #อุปกรณ์ไฟ
#โคมไฟ #ไฟตกแต่ง #ไฟประดับ #ไฟดาวไลน์led #วิธีเปลี่ยนหลอดled #วิบวับ #laser






#3883



สื่อเวียดนามรายงานว่า ชาวกรุงฮานอยเกือบ 300 คน ถูกปรับเงินกว่า 610 ล้านด่ง หรือราว 876,000 บาท จากการละเมิดมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การปรับเงินเริ่มขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์หลังคำสั่งเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ มีผลบังคับใช้ในเมืองหลวงของประเทศตั้งแต่วันเสาร์ (24) ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุ

คำสั่งกำหนดให้ประชาชนอยู่กับบ้าน และออกจากบ้านด้วยเหตุผลความจำเป็นพื้นฐานเท่านั้น เช่น การซื้ออาหารหรือยา หรือไปทำงานในโรงงานหรือธุรกิจที่ยังได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการ และต้องเว้นระยะห่างจากกันอย่างน้อย 2 เมตร ห้ามรวมตัวกันในที่สาธารณะเกิน 2 คน ยกเว้นในที่ทำงาน โรงเรียน หรือโรงพยาบาล

หากเจ้าหน้าที่พบว่าไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือเว้นระยะห่างในที่สาธารณะ หรือออกจากบ้านด้วยเหตุผลที่ไม่จำเป็น พวกเขาจะถูกลงโทษด้วยการปรับเงิน

สำหรับสถานประกอบการที่มีคำสั่งให้หยุดดำเนินการชั่วคราวในช่วงเว้นระยะห่างทางสังคม หากพบว่ายังดำเนินการต่อจะถูกปรับ 75 ล้านด่ง

ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยกล่าวว่า ตำรวจฮานอยได้ตั้งจุดตรวจบนถนนหลายสายเพื่อควบคุมการจราจร โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรถมากกว่า 47,000 คัน และมีรถมากกว่า 13,000 คันต้องถอยกลับ

กรุงฮานอยมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมมากกว่า 900 คน ในการระบาดระลอก 4 ที่เริ่มขึ้นช่วงปลายเดือน เม.ย. โดยการระบาดในช่วงต้นพบในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วเมืองจนนำไปสู่การล็อกดาวน์ และคลัสเตอร์ใหม่พบที่โรงพยาบาลปอด ที่มีผู้ป่วยติดเชื้ออย่างน้อย 23 คน ที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ผู้ป่วย และสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา ตั้งแต่วันอาทิตย์ ทำให้ทางการสั่งล็อกดาวน์โรงพยาบาลและงดรับผู้ป่วยเพิ่ม.

ภาพประกอบ : AP และ VNExpress
#3884



"สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น " ยื่นไฟลิ่งเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด อายุ 2 ปี และ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.30 - 3.90% เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ คาดเปิดจองซื้อวันที่ 30 ส.ค. - 1 ก.ย. นี้ พร้อมวางแผนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ 

นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่าบริษัทฯ เป็นผู้นำด้านการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากกว่า 50 ปี มุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและความปลอดภัยในระดับโลก เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลกกว่า 30 ประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เสริมความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจสายไฟฟ้า ด้วยการขยายการลงทุนในไทยและต่างประเทศ โดยในช่วงที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนใน Thinh Phat Electric Cable Joint Stock Company ผู้ผลิตสายไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศเวียดนาม ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีการเติบโตสูง ทำให้บริษัทฯ ขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีเป้าหมายมุ่งสู่ผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลขึ้นสู่ระดับ Top Ten จากอันดับที่ 14 ของโลก

บริษัทฯ ได้รุกขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยต่อยอดสร้างการเติบโตในต่างประเทศ ล่าสุดบริษัทฯ ชนะการประมูลงานในประเทศเวียดนาม ได้แก่ งานสายส่งกำลังไฟฟ้า (Transmission line) ของการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) และงานโรงไฟฟ้าในเวียดนามตอนเหนือ เช่น กว๋างนิน เวียดนามตอนกลาง เช่น ดานัง และเวียดนามตอนใต้ เช่น โฮจิมินห์, เกิ่นเทอ เป็นต้น มูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับคำสั่งซื้อสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลจากกลุ่มประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียใต้ ได้แก่ โครงการพัฒนารถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย โครงการจากรัฐบาลบังกลาเทศ และโครงการจากรัฐบาลศรีลังกา มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอผลประมูลงานในประเทศเวียดนาม จากภาครัฐ (B2G) และผู้ประกอบการ (B2B) โดยส่วนใหญ่เป็นงานสายส่งกำลังไฟฟ้าจากเมืองฮานอย ดานัง บิ่ญเฟื้อก โรงไฟฟ้าในดาลักและโฮจิมินห์ รวมมูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท คาดว่าจะทราบผลการประมูลบางส่วนภายในปีนี้ จากปัจจุบัน บริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าประมูลงานโครงการใหม่เพื่อเพิ่ม Backlog อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในภาวะชะลอตัวจากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม มองว่าอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความต้องการใช้งานทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น

สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้เติบโต 15 - 20% จากปี 2563 ที่มีรายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ 16,917 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์มุ่งเน้นขายสินค้าในกลุ่มที่มีอัตรากำไรสูง (High Margin) โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สายไฟแรงดันระดับกลางถึงระดับสูงพิเศษเพื่อรองรับงานโครงการของภาครัฐและเอกชน รวมถึงใช้ประโยชน์จากโรงงานในเวียดนามที่มีต้นทุนการผลิตต่ำเพื่อเพิ่มความสามารถทำกำไร พร้อมกันนี้ได้วางเป้าหมายขยายตลาดส่งออกเป็น 50 ประเทศภายในปี 2564 จากปีที่ผ่านมาส่งออก 40 ประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกเป็น 10-12% จากปีก่อนอยู่ที่ 8%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวน ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2564 จำนวน 2 ชุด แบ่งเป็น หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุหุ้นกู้ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.30 - 3.50]% ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุหุ้นกู้ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.70 - 3.90]% ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะมีการประกาศอีกครั้ง

บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ "BBB+" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงานของบริษัทฯ ในฐานะผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้หุ้นกู้ของบริษัทฯ คาดว่าจะเปิดให้ผู้ลงทุนจองซื้อในวันที่ 30 สิงหาคม - 1 กันยายนนี้ โดยจะเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 5 ราย ได้แก่

ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) - เสนอขายเฉพาะต่อผู้ลงทุนสถาบันเท่านั้น

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านhttps://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) 1428 กด#4

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) โทร. 02-658-5050

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอเชีย เวลท์ จำกัด โทร. 02-207-2113

"การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างทางการเงิน รองรับแผนขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการลงทุนในตราสารเพื่อรับผลตอบแทนการลงทุนในระดับที่น่าพอใจและมีความสม่ำเสมอท่ามกลางเศรษฐกิจ
#3885
นาฬิกานับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า-ถอยหลัง 

LED Count Down Timer ตัวเลขขนาด 10 cm x 6 cm

นาฬิกาจับเวลา Digital จับเวลาเดินหน้า ถอยหลัง

- LED Count Down Timer 
- แถมรีโมทไร้สาย คู่มือภาษาไทย 
- ขนาด : ยาว 70 cm. สูง 16 cm. หนา 4 cm. 
- ใช้จับเวลาตามโรงยิม,สนามมวย,โรงงาน,สนามชนไก่ เป็นต้น
- ใช้ไฟ220 v
- มีรีโมทพควบคุมไร้สาย
- รับประกัน1ปี

ติดตอสอบถาม
โทร 094-5102033 
line@ : @gentech
Facebook : Gentechshop


#3886



ลิเวอร์พูล เผยว่า เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังคนสำคัญว่าจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในเกมอุ่นเครื่องกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้

แนวรับชาวดัตช์ ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าอย่างหนักตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เขาต้องพักยาวตลอดทั้งฤดูกาล แม้กลับมาซ้อมได้พักใหญ่แต่ก็ยังไม่ได้ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องสามเกมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามล่าสุด ลิเวอร์พูล ยืนยันผ่านเว็บไซต์สโมสร ระบุว่า ฟาน ไดจ์ค มีสภาพร่างกายที่ดีพอจะกลับคืนสนามในเกมอุ่นเครื่องพบ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน วันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่ โจ โกเมซ กองหลังอีกคนที่พักยาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ก็ใกล้ที่จะกลับคืนสนามได้แล้วเช่นกัน

ลิเวอร์พูล ลงอุ่นเครื่องมาแล้ว 3 นัด เสมอ วัคเกอร์ อินน์สบรู๊ค และสตุ๊ตการ์ท 1-1 ซึ่งเป็นรูปแบบมินิเกม 30 นาที เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม ต่อด้วยเกมปกติ 90 นาที เอาชนะ ไมนซ์ 1-0 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจะเล่นเกมต่อไปเจอกับ แฮร์ธ่า ที่ติโวลี่ สตาดิโอน ติโรล วันที่ 29 กรกฏาคมนี้
#3887




รัสเซียไฟเขียวเดินหน้าการทดลองทางคลินิก ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างแอสตร้าเซนเนก้า/มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดของสหราชอาณาจักร กับสปุตนิก วี ของรัสเซีย จากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของแดนหมีขาว หลังจากก่อนหน้านี้ คณะกรรมการด้านจริยธรรมของกระทรวงสาธารณสุขเคยสั่งระงับกระบวนการเห็นชอบสำหรับการทดลองทางคลินิกในเดือนพฤษภาคม และร้องขอข้อมูลเพิ่มเติม

คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของรัสเซีย เปิดเผยว่า คลินิก 5 แห่งจะดำเนินการทดลองฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างแอสตร้าเซนเนก้ากับสปุตนิก วี และมีกำหนดเสร็จสิ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2022

ทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและสปุตนิก วี ต่างเป็นวัคซีน 2 เข็ม แต่ สปุตนิก วี ใช้ไวรัสเวคเตอร์ที่ต่างออกไปในวัคซีน 2 เข็มของพวกเขา

กองทุนการลงทุนโดยตรงแห่งรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund หรือ RDIF) ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนวัคซีนสปุตนิก วี แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจให้เดินหน้าการทดลอง

"เวลานี้ RDIF กำลังทำการทดลองทางคลินิกร่วม ในการใช้วัคซีนสปุตนิก วี ไลท์ กับวัคซีนจากผู้ผลิตต่างชาติเจ้าอื่นๆ" กองทุนการลงทุนโดยตรงแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง

"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัคซีนสปุตนิก วี ไลท์ สามารถใช้ร่วมกับวัคซีนอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในนั้นรวมถึงกับตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่เป็นผลจากการกลายพันธุ์ของไวรัส"

สปุตนิก วี เป็นการใช้ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ มาเป็นพาหะ (vector) ผลิตโดยใช้วัคซีนชนิดที่ทำให้อ่อนฤทธิ์แล้วและไม่เป็นอันตรายต่อคน มาติดต่อใส่สารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ลงไป แล้วฉีดเข้าร่างกายมนุษย์ เพื่อกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำเชื้อไวรัส จนสามารถตรวจจับและต่อสู้กับเชื้อไวรัสในภายภาคหน้าได้

ก่อนหน้านี้การทดลองในมนุษย์ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าสลับกับสปุตนิก วี ได้รับอนุมติแล้วทั้งในอาเซอร์ไบจาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เบลารุส และอาร์เจนตินา

(ที่มา : รอยเตอร์)
#3888



วันนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายวรเจตน์ สังวรณ์ เจ้าของร้านผลิตป้ายไวนิล เลขที่ 360/36 ถนนอู่ทอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า น.ส.พลอย ธนิกุล หรือน้องพลอย เลขานายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี นำรถยนต์ดัดแปลงเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว เพื่อนำไปประกอบแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือว่าเป็นคันแรกของจังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ

ไปถึงพบรถยนต์ยี่ห้อซูซูกิ CARRY ทะเบียนป้ายแดง ก 3337 กาญจนบุรี คันขนาดกะทัดรัดถูกดัดแปลงเป็นร้ายก๋วยเตี๋ยว มีอุปกรณ์ติดตั้งเอาไว้อย่างครบครัน โดยมีพนักงานของร้านกำลังติดป้ายประชาสัมพันธ์เอาไว้ข้างรถ มี น.ส.พลอย เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวเดินสำรวจความเรียบร้อย ซึ่งรถยนต์ดัดแปลงคันดังกล่าวถือว่าเป็นคันแรกของจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ น.ส.พลอย หรือน้องพลอย ธนิกุล เปิดเผยด้วยความตื้นตันใจว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา พลอยได้ทำ "ครัวน้องพลอยปันสุข" มาได้ 3 เดือนกว่าแล้ว โดยที่ผ่านมาเวลาจะนำก๋วยเตี๋ยวไปประกอบเลี้ยงพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบแต่ละครั้งนั้น พลอยและทีมงานจะต้องขนโต๊ะ ขนเต็นท์ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ แบบไปกลับ ทำให้ค่อนข้างที่จะลำบากพอสมควร

มีอยู่วันหนึ่งพลอย ได้เดินทางไปทำธุระที่กรุงเทพฯ แล้วเกิดอาการหิวข้าว จึงได้แวะกินก๋วยเตี๋ยวที่ขายอยู่ข้างทาง ซึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวร้านดังกล่าวนั้นเป็นรถยนต์เคลื่อนที่ พลอยจึงนำไอเดียของร้านดังกล่าวมาปรึกษากับทีมงานว่าเราน่าจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นรถเคลื่อนที่แบบนี้ในการนำก๋วยเตี๋ยวไปจัดเลี้ยงประชาชน และเข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่ โดยไม่ต้องขนโต๊ะและอุปกรณ์ต่างๆ ให้ลำบาก ซึ่งทีมงานทุกคนต่างก็เห็นด้วย

ถามว่าการที่ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเหลือประชาชนมีความรู้สึกอย่างไรนั้น น้องพลอยตอบได้เลยว่า อย่างแรกน้องพลอยรู้สึกมีความสุข เนื่องจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้พี่น้องประชาชนต่างมีความยากลำบากเป็นอย่างมาก ที่สำคัญวิกฤตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนเป็นจำนวนมากต้องตกงาน ทำให้ไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัวของตนเอง และหลายท่านมีรายได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้น การที่พลอยได้เข้าไปช่วยเหลือในการประกอบก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงพี่น้องประชาชนที่กำลังลำบากอยู่ในขณะนี้ จะเป็นการช่วยเหลือเรื่องการลดภาระค่าใช้จ่ายในการครองชีพไปในแต่ละวันได้ การที่พลอยได้มีโอกาสพบกับพี่น้องประชาชนในแต่ละวัน พลอยได้กล่าวให้กำลังใจขอให้ทุกคนสู้ กำลังใจที่ให้ทำให้ประชาชนรู้สึกมีความสุข เมื่อประชาชนมีความสุข พลอยจึงมีความสุขไปด้วย

สุดท้ายนี้ พลอยอยากจะฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนทุกท่านว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีของเรามีตัวเลขสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ส่วนพลอยขอให้กำลังใจด้วยการเคลื่อนที่ครัวน้องพลอยปันสุข เข้าถึงทุกท้องที่ ซึ่งพลอยจะทำอย่างนี้ไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเบาบางลง จนทุกคนกลับมามีความสุขดังเดิม โดยทุกอย่างที่ทำ น้องพลอยมีคอนเซ็ปต์ส่วนตัวว่า "ทำด้วยใจ ทำเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเหนื่อย"
#3889

  

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา การแข่งขันฟุตซอล CONTINENTAL FUTSAL CHAMPIONSHIP THAILAND 2021 กลุ่มเอ นัดแรกที่ ศูนย์การค้า Show DC Hall 1 ทีมชาติไทย เจ้าภาพ พบกับ โมซัมบิก จาก ประเทศแอฟริกา

เกมนี้ รักษ์พล สายเนตรงาม ส่ง 5 คนแรก เป็น คณิสร ภู่พันธ์, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, กฤษดา วงศ์แก้ว, ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน, มูฮัมหมัด อุสมานมูซา

เริ่มเกมมา นาทีที่ 6 ไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ยิงของ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ได้พามากดด้วยขวา แต่บอลไปชนเสากระเด้งออกมา นาทีที่ 7 ไทยมีโอกาสลุ้นอีกครั้งจากจังหวะยิงด้วยขวาของ พรมงคล ศรีทรัพย์แสง แต่ก็ยังโดนปัดออกไปแบบหวุดหวิด

และนาทีที่ 9 ไทยมาได้ประตูออกนำจนได้จากจังหวะที่ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ได้ลองจิ้มด้วยซ้ายเข้าประตูไปให้ ไทยนำโมซัมบิกก่อน 1-0



เท่านั้นไม่พอนาทีเดียวกัน มูฮัมหมัด อุสมานมูซา เก็บบอลได้ตรงมุมธง ก่อนจ่ายกลับไปให้ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ยิงเข้าไปให้ ไทยหนีห่างเป็น 2-0

นาทีที่ 10 จากลูกเตะมุม ไทยเกือบได้อีกลูกจากจังหวะที่ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ได้ยิงแต่บอลพุ่งไปชนเสา และนาทีที่ 11 ไทยมาได้ประตูนำห่างจากจังหวะที่ ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน จ่ายให้ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ยิงประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ ไทยนำห่างเป็น 3-0

ไทยยังเดินหน้าบุกอย่างหนักนาทีที่ 17 จากลูกคิกอิน อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ไหลบอลให้ นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ ยิงเข้าไปให้ สกอร์ห่างเป็น 4-0



นาทีที่ 18 ไทยมาได้เพิ่มอีกประตูจากจังหวะที่ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ล็อกบอลหลบนักเตะโมซัมบิก ก่อนยิงเข้าไปให้สกอร์ขยับเป็น 5-0

นาทีที่ 19 โมซัมบิกมาได้ประตูตีไข่แตก จากฟรีคิก ของโฆเซ่ ดา ซิลวา ที่ยิงด้วยซ้ายเสียบเสาเข้าไปให้ สกอร์ขยับมาเป็น 1-5

นาทีที่ 20 พีระพัฒน์ แก้ววิลัย ทำชิ่งกับ วรุฒ หวังสะมะแอล ก่อนยิงโล่งๆ เข้าไปให้สกอร์ห่างเป็น 6-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเริ่มมาไม่ถึงนาที ศุภวุฒิ เถื่อนกลางได้แปบอลโล่งๆ หน้าโกล แต่กลับหลุดเสาออกไป

และนาทีที่ 22 โมซัมบิก ก็มาไล่เป็น 6-2 วาสโก มาเทอุส จ่ายให้ เนลสัน เจา หลุยส์ ยิงเข้าไป



นาทีที่ 28 โมซัมบิกไล่มาเป็น 3-6 จากจังหวะที่ เมาโร อัลแบร์โต้ ทำชิ่งกับ เนลสัน เจา หลุยส์ ก่อนยิงเข้าไป

หลังจากนั้น โมซัมบิกพยายามบุกอย่างหนักและนาทีที่ 35 คณิสร ภู่พันธ์ มาโดนไล่ออกจากการใช้มือนอกกรอบเขตโทษ

นาทีที่ 36 โมซัมบิก มาไล่เป็น 4-6 จากจังหวะยิงไกลด้วยซ้ายของ โฆเซ่ ดา ซิลวา ที่พุ่งเสียบเสาเข้าไปให้



ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม ฟุตซอลไทยเอาชนะ โมซัมบิกไป 6-4 เอาชนะนัดแรกของศึก CONTINENTAL FUTSAL CHAMPIONSHIP THAILAND 2021 ได้สำเร็จ

ส่วนผลคู่อื่นๆ

อียิปต์ ชนะ ทาจิกิสถาน 1-0
อิหร่าน ชนะ ลิทัวเนีย 5-0
อุซเบกิสถาน ชนะ โคโซโว 6-3

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของฟุตซอลชายทีมชาติไทย จะพบกับ โคโซโว ที่ ศูนย์การค้า Show DC Hall 1 ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.15 น. ถ่ายทอดสดทาง เพจ Futsal Thailand - ฟุตซอลไทยแลนด์, Thairath Sport - ไทยรัฐสปอร์ต และ Youtube : Thairath
#3890


ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ เผย พยกลุ่มแรงงานต่างด้าว บ.สหฟาร์ม พบติดเชื้อโควิด เร่งควบคุมโรคในพื้นที่ควบเฉพาะแบบมีส่วนร่วม 'บับเบิล แอนด์ ซีล'

รายงานข่าวจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ระบุว่า กรณีการตรวจพบแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ของ บริษัท โกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จํากัด (สหฟาร์ม) จ.เพชรบูรณ์ ติดเชื้อโควิด-19 ได้รับการเปิดเผยจาก นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ระบุว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ตรวจพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด–19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ของ บริษัท โกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จํากัด (สหฟาร์ม) ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ จำนวน 2 ราย เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564

จากนั้น จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้แจ้งสั่งการให้พนักงานควบคุมโรคอำเภอบึงสามพัน ร่วมกับบริษัท โกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จํากัด (สหฟาร์ม) ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาตามหลักการบริหารจัดการควบคุมโรคในพื้นที่ควบเฉพาะแบบมีส่วนร่วม (Bubble and Seal) และดำเนินการตามมาตรการจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีคำสั่งจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 1649/2564 ให้ บริษัท โกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จํากัด (สหฟาร์ม) หยุดกระบวนการผลิตในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 – 26 กรกฎาคม 2564 เพื่อคัดกรองกลุ่มผู้ใช้แรงงาน และดำเนินการดำเนินการบริหารจัดการควบคุมโรคในพื้นที่ควบเฉพาะแบบมีส่วนร่วม (Bubble and Seal)และระหว่างการดำเนินการควบคุมโรค พนักงานควบคุมโรคอำเภอบึงสามพัน ได้แจ้งให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มแรงงานดังกล่าวที่อยู่ในชุมชน หมู่บ้านแยกกักตัว เป็นเวลา 14 วัน และให้พนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ได้เร่งดำเนินการสุ่มตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกเพิ่มเติม ด้วยวิธี antigen test kit ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ซึ่งมีจำนวนแรงงานทั้งหมด 7,500 ราย ได้ดำเนินการสุ่มตรวจไปแล้ว จำนวน 2,950 ราย พบผู้ติดเชื้อ (ผลบวก) จำนวน 1,068 ราย และอยู่ในระหว่างตรวจค้นหาเชิงรุกอีก 4,250 ราย ซึ่งจะเร่งดำเนินการตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เพื่อคัดแยกกลุ่มผู้ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกัน หลังจากนั้นก็จะนำผู้ป่วยที่พบเชื้อเข้าแยกกักในโรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมไว้แล้ว 1,292 เตียง และได้วางแผนขยายจำนวนเตียงได้อีกประมาณ 2,000 เตียง และหากตรวจพบผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ของ บริษัท โกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จํากัด (สหฟาร์ม) ได้รับการฉีดวัคซีน ครบ 2 เข็มไปแล้ว จำนวน 3,000 ราย และได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว 1,500 ราย และบริษัทได้กำหนดแผนการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานต่างด้าวและพนักงานของบริษัทให้ครอบคลุม 100% ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2564

ด้านนายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอบึงสามพัน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง งัดมาตรการเข้ม ตั้งด่านสกัด คัดกรอง และห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการแพร่ระบาดเพิ่ม พร้อมเตรียมสั่งปิด 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 2 บ้านเขาเกตุ บ้านหนองปล้อง หมู่ 4 บ้านลำตะคล้อ และ หมู่ 15 บ้านลำตะคล้อใต้ ต.กันจุ อ.บึงสามพัน

ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์และผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันดำเนินการจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองเข้มงวดในพื้นที่ควบคุมบริเวณชุมชนโดยรอบบริษัท โกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จํากัด (สหฟาร์ม) จำนวน 7 จุดตรวจ เพื่อลดและจำกัดเคลื่อนย้ายการเดินทางเข้าออกพื้นที่อย่างเข้มงวดไม่ให้มีคนเข้าออกพื้นที่พื้นที่โดยรอบ บริษัท โกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จํากัด (สหฟาร์ม) เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อโควิด 19

ส่วนเรื่องไก่สดที่ส่งออกมาจำหน่ายนั้น จะมีการตรวจเชื้อจากทางสำนักงานสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัย
#3891


ภาคอีสาน / ระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะได้เดินทางมาที่จังหวัดอุดรธานีและขอนแก่น เพื่อเยี่ยมเยียนกลุ่มเกษตรกร และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยตามโครงการ 'บ้านมั่นคง' และการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยตั้งเป้าภายในปี 2579 จะแก้ปัญหาให้คนจนทั่วประเทศมีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง 1.3 ล้านหลัง

โดยในวันที่ 17 มิถุนายน นายจุรินทร์ได้เดินทางมาที่อำเภอกุมภวาปี จ.อุดรธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคงที่ชุมชนบ้านมั่นคงทรัพย์เพิ่มพูน ตำบลพันดอน อ.กุมภวาปี ซึ่งมีการจัดงาน "บ้านมั่นคงพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างเศรษฐกิจชุมชน" และเป็นประธานในพิธีมอบบ้านมั่นคงทรัพย์เพิ่มพูนที่สร้างเสร็จแล้วจำนวน 37 จากทั้งหมด 107 หลัง โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายปฏิภาณ จุมผา รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับ


ตั้งเป้าแก้ปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยคนจน 1.3 ล้านหลังภายในปี 2579

นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการบ้านมั่นคงเป็นงานที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ในปี 2543 ซึ่งในขณะนั้นตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบโครงการ โดยมีเป้าหมายให้คนจนหรือคนที่ไม่มีบ้านอยู่อาศัยหรือมีแต่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ได้มีโอกาสมีบ้านอยู่ มีที่ดินเป็นของตนเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โครงการบ้านมั่นคงจึงก่อกำเนิดขึ้นภายใต้หลักการที่มีองค์กรขึ้นมาบริหารจัดการเป็นการเฉพาะ โดยรัฐบาลช่วยหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยให้ประชาชนที่ไร้บ้านไร้ที่ดินรวมตัวกันเป็นสหกรณ์ และใช้เงินของสหกรณ์เช่าซื้อหรือซื้อที่ดิน เพื่อสร้างบ้านราคาพิเศษให้สมาชิก โดยสมาชิกผ่อนชำระเพื่อจะได้มีบ้านและที่ดินเป็นของตนเอง

นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 จนถึงปัจจุบัน สร้างบ้านเสร็จแล้วประมาณ 200,000 หลัง แต่ขณะนี้ได้มีการกำหนดเป้าหมายใหม่ เพื่อเร่งรัดดำเนินการภายใน 15 ปี โดยภายในปี 2579 จะต้องสร้างบ้านให้ได้ 1,300,000 หลัง เพื่อให้คนจนได้มีที่ดินทำกินและมีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตนเอง นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านพอเพียงชนบท ซึ่งเป็นโครงการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านเรือนที่มีฐานะยากจน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณผ่านทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ 'พอช.'
"จังหวัดอุดรธานีได้ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงทั้งหมด 18 โครงการ สร้างบ้านเสร็จแล้ว 1,700 หลัง วันนี้มาทำหน้าที่มอบบ้านมั่นคงที่สร้างเสร็จแล้ว 37 หลัง และมอบเงินสร้างบ้านเพิ่มอีก 70 หลัง ช่วยให้พี่น้องมีบ้านรวม 107 หลัง และมอบเงินช่วยซ่อมแซมบ้านพอเพียงอีก 104 หลัง เป็นเงิน 2 ล้านบาท มอบเงินสวัสดิการชุมชนเพื่อช่วยสมาชิก 7,500 คนอีก 2 ล้านบาท มอบงบพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนเรื่องผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาด 5 แสนบาท และมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดอีก 300 ครัวเรือน" นายจุรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลมีแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) โดยมีเป้าหมายผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ประมาณ 3 ล้านครัวเรือน โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดำเนินการ โดยมีวิสัยทัศน์ว่า "คนไทยทุกคนจะมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2579" แยกเป็น 1.การเคหะแห่งชาติดำเนินการในรูปแบบการเช่าหรือเช่าซื้อประมาณ 2 ล้านครัวเรือน 2.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั้งในเมืองและชนบท รวมทั้งกลุ่มคนไร้บ้าน ตามโครงการบ้านมั่นคงเมืองและชนบท การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร บ้านพอเพียงชนบท (ซ่อมสร้างบ้านเรือนที่มีฐานะยากจน สภาพทรุดโทรม) ฯลฯ รวม 1,050,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ

บ้านมั่นคงทรัพย์เพิ่มพูนแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย 5 ชุมชน

โครงการบ้านมั่นคงทรัพย์เพิ่มพูน เกิดจากการรวมกลุ่มของชาวบ้าน 5 ชุมชนในเขตเทศบาลตำบลพันดอน อำเภอกุมภวาปีที่มีปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยและมีฐานะยากจน โดยชาวบ้านเริ่มรวมกลุ่มกันตั้งแต่ปี 2557 จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อเป็นทุนในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินงาน ช่วยกันสำรวจข้อมูล พบว่า มีผู้เดือดร้อนจำนวน 732 ราย จาก 5 ชุมชน แบ่งเป็น กลุ่มบุกรุกที่ดินเอกชน 29 ครัวเรือน กลุ่มเช่าที่ดินราชพัสดุสร้างบ้าน 15 ครัวเรือน กลุ่มบ้านเช่า 16 ครัวเรือน และกลุ่มครอบครัวขยาย รวม 107 ครัวเรือน

ต่อมาในปี 2559 ได้จดทะเบียนเป็นสหกรณ์เคหสถาน ใช้ชื่อว่า 'สหกรณ์เคหสถานทรัพย์เพิ่มพูน จำกัด' เพื่อเตรียมจัดทำโครงการบ้านมั่นคง มีชาวบ้านที่มีความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยเข้าเป็นสมาชิกจำนวน 107 ครัวเรือน และต่อมาได้รับการสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ 'พอช.' จัดทำโครงการบ้านมั่นคง


โดยสหกรณ์ฯ ขอใช้สินเชื่อจาก พอช. เพื่อซื้อที่ดิน เนื้อที่ 4 ไร่ 2 งานเศษ และปลูกสร้างบ้านใหม่ รวม 107 หลัง โดย พอช.สนับสนุน 1.สินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินและปลูกสร้างบ้าน รวม 24 ล้านบาทเศษ 2.อุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย พัฒนาด้านสาธารณูปโภค และงบบริหารจัดการชุมชน รวม 8.5 ล้านบาทเศษ

ส่วนแบบบ้านมี 2 แบบ คือ 1.บ้านแถวชั้นเดียว ขนาด 10 และ 16.5 ตารางวา ราคาก่อสร้างหลังละ 181,312 บาท ผ่อนชำระเดือนละ 2,055 บาท จำนวน 30 หลัง และ 2. บ้านแถวสองชั้น ขนาด 11 ตารางวา ราคาก่อสร้างหลังละ 277,137 บาท ผ่อนชำระเดือนละ 2,155 บาท จำนวน 76 หลัง (ผ่อน 15 ปี) เริ่มก่อสร้างบ้านในเดือนธันวาคม 2562 ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวน 37 หลัง อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 70 หลัง ตามแผนงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปีนี้

รองนายกฯ ยกเสาเอกบ้านมั่นคงแก่นนคร จ.ขอนแก่น

นอกจากภารกิจที่จังหวัดอุดรธานีแล้ว ในวันนี้ (18 มิถุนายน) นายจุรินทร์ รองนายกรัฐมนตรี และคณะได้เดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อร่วมพิธียกเสาเอกสร้างบ้านมั่นคงสหกรณ์เคหสถานแก่นนคร จำกัด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อก่อสร้างบ้านมั่นคงเฟสสุดท้าย จำนวน 46 หลัง โดยก่อนหน้านี้สร้างบ้านเสร็จไปแล้วจำนวน 287 หลัง ทำให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านและที่อยู่อาศัยที่มั่นคง รวม 333 ครัวเรือน

นายปฏิภาณ จุมผา รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กล่าวว่า พอช. เป็นองค์กรในการกำกับดูแลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2546 เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย สร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยและการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนคนจนในเมือง ครอบคลุมทั้งมิติด้านกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม และความเข้มแข็งของชุมชน

"พอช.มียุทธศาสตร์การดำเนินงาน โดยส่งเสริมให้ชุมชนและเครือข่ายเป็น 'เจ้าของโครงการ' ทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคีที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและท้องถิ่น ตั้งแต่กระบวนการรวมกลุ่ม การจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ การหาที่ดินรองรับ การออกแบบบ้านและผังชุมชน รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ และการบริหารการเงินด้วยระบบกลุ่มออมทรัพย์และสหกรณ์ โดยมีหน่วยงานท้องถิ่นทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินการ" รอง ผอ.พอช.กล่าวถึงกระบวนการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคง

รอง ผอ.พอช.กล่าวว่า พอช.จะสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งรูปแบบในการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงมีความหลากหลายตามสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชน เช่น การปรับปรุงที่อยู่อาศัยในที่ดินเดิม การรื้อย้ายสร้างชุมชนใหม่ การแบ่งปันที่ดินสร้างชุมชนใหม่ ฯลฯ โดยขณะนี้ พอช.ได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว 19 จังหวัด 84 เมือง 537 ชุมชน รวม 28,912 ครัวเรือน

"เฉพาะจังหวัดขอนแก่น พอช.ได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านมั่นคง รวม 75 โครงการ 163 ชุมชน จำนวน 7,057 ครัวเรือน และดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้ครัวเรือนยากจน กลุ่มคนเปราะบางที่มีปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านพอเพียงชนบท ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน จำนวน 831ครัวเรือน ใน 81 ตำบล รวมทั้งเกิดการประสานความร่วมมือกับภาคีพัฒนามากกว่า 10 องค์กร" รอง ผอ. พอช.กล่าว

 
#3892
ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า ผลิตและจำหน่ายลูกชิ้นภายในจังหวัดพิษณุโลกมานานกว่า 50 ปี เป็นลูกชิ้นหมูและก็ ลูกชิ้นเนื้อวัว เป็นธุรกิจ รุ่นสู่รุ่น ที่ นาย ย้งจุ้ย แซ่โต๋ว นำสูตรจากเมืองโผวเล้ง เมืองจีน มาทำลูกชิ้นขายที่เมืองพิษณุโลกจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ของเมืองพิษณุโลกเป็นอย่างดี โดยนำวัตถุดิบท้องถิ่น มาแปรรูปด้วยสูตรดั้งเดิม กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชาวพิษณุโลกยอมรับในเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มไม่เป็นแป้ง รวมทั้งรสที่ดี ก็เลยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทางด้านเนื้อสัมผัส และรสที่กลมกล่อมละมุน ใช้เนื้อสัตว์ที่สดใหม่ ก็เลยเป็นที่มาของ สด ใหม่ ดั่งเดิม เมืองพิษณุโลก





 ลูกชิ้นหมูทอด ลูกชิ้นเนื้อทอด สูตรสำหรับทอด มีส่วนผสมเนื้อหมูแท้ๆเนื้อวัวแท้ๆกว่า 95% กรอบ นุ่ม ไม่เป็นแป้ง ไม่มีสารเจือปน ไร้สารบอแร็กซ์ ผลิตภัณฑ์ OTOP มีมาตรฐาน อย. มผช. สด ใหม่ดั้งเดิมเมืองสองแคว เจ้าตำรับสูตรโบราณ 50 ปี สามารถทอดโดยใช้ กระทะไร้น้ำมัน 

ลูกชิ้นหมูปิ้ง/ลวก ลูกชิ้นเนื้อปิ้ง/ลวก สูตรสำหรับปิ้ง/ลวก ต้มสำหรับใส่ก๋วยเตี๋ยว มีส่วนผสมเนื้อหมูแท้ๆเนื้อวัวแท้ๆ100% นุ่ม ไม่เป็นแป้ง โปรตีนสูง ไขมันต่ำ ไม่มีสารเจือปน ไร้สารบอแร็กซ์ ผลิตภัณฑ์ OTOP มีมาตรฐาน อย. มผช. สด ใหม่เริ่มแรกเมืองสองแคว ต้นตำรับสูตรโบราณ 50 ปี





น้ำจิ้มลูกชิ้นสมุนไพร สูตรมะขาม ใช้สมุนไพรรวมทั้งวัตถุดิบในท้องถิ่น มีรสชาติ เปรี้ยวหวาน กลมกล่อมละมุนลิ้น ไม่มีใครเหมือน นอกเหนือจากการที่จะนำไปจิ้มกับเนื้อสัตว์ได้ทุกประเภท ยังสามารถนำไปทำเป็นซอสผัดไทยได้อร่อยกลมกล่อมละมุนละไม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อีกด้วย





 แฟรนไชส์ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า แฟรนไชส์ลูกชิ้นดังเมืองสองแคว ทุนน้อย ก็สามารถทำธุรกิจได้ แฟรนไชส์ลูกชิ้นขายง่าย ขายดี กำไรงาม คืนทุนเร็ว 

โรงงานของลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า มีการผลิตโดยใช้เครื่องจักรที่มีมาตรฐาน ความปลอดภัย ความสะอาด รวมทั้ง ถูกหลักอนามัย โรงงานลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า ได้รับการรับรองเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานจาก GMP Codex
#3893


จากกรณี นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาพยาบาลอาการโรคโควิด 19 ในถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ออกไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีช่วงหนึ่ง ระบุว่ามีแพทย์โทรมาบอกว่า ให้ย้ายออกจากโรงพยาบาลให้ไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ทั้งที่ตนเองยังไม่หาย ได้ยายังไม่ครบโดส แต่หมออ้างว่าเปลี่ยนแผนการรักษาได้ ให้ไปรักษาที่บ้าน โดยให้อยู่โรงพยาบาลต่ออีก 24 ชั่วโมง นั้น


นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลดังกล่าวได้ชี้แจงข้อมูลในเบื้องต้นว่า ในส่วนของคุณณวัฒน์ฯ นั้น ทางโรงพยาบาลได้ประเมินแล้วว่าเป็นผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่อาการพ้นวิกฤต และมีอาการดีขึ้นอยู่ในระยะพักฟื้น (Step Down) ทางโรงพยาบาลจึงดำเนินการให้ผู้ป่วยไปพักฟื้นที่สถานพยาบาลชั่วคราว (Hospitel) หรือให้กลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่อง โดยวิธีกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ตามแนวทางการรักษาแบบ Step-down care ซึ่งจะทำได้โดยความสมัครใจของผู้ป่วย เพื่อจัดเตียงให้กับผู้ป่วยโควิด 19 รายอื่นซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้เตียงรักษาตัวในสถานพยาบาล 

และเมื่อผู้ป่วยเข้าพักที่ Hospitel หรือกลับไปที่พักที่บ้านแล้ว สถานพยาบาลเองก็จะมีการติดตามอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดทุกวันผ่านระบบ Video Call หรือ Teleconference มีอุปกรณ์วัดไข้และออกซิเจนส่งไปให้ มีช่องทางติดต่อกรณีฉุกเฉิน หากผู้ป่วยมีอาการทรุดลงก็จะมีการรับตัวผู้ป่วยกลับไปรักษา ณ สถานพยาบาลโดยทันที ซึ่งในกรณีของคุณณวัฒน์ฯ ได้ครองเตียงผู้ป่วยมาแล้วเป็นเวลา 22 วัน ซึ่งแพทย์ก็ได้มีการประเมินแล้วว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นสามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ จึงมีการแจ้งให้ผู้ป่วยทราบแต่อาจจะด้วยการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ จึงทำให้คุณณวัฒน์ฯ เกิดความเข้าใจผิดว่าทางโรงพยาบาลให้ออกจากโรงพยาบาลทั้งที่อยู่ระหว่างการรักษา 

ซึ่งแพทย์ก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับคุณณวัฒน์ฯ แล้วว่าขั้นตอนดังกล่าวเป็นกระบวนการรักษาตามแนวทาง Step-down care ที่ใช้กับผู้ป่วยทุกราย มิได้เลือกปฏิบัติเฉพาะกับคุณณวัฒน์ฯ แต่อย่างใด รวมทั้ง ขณะนี้คุณณวัฒน์ฯ ก็ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล โดยกรม สบส.ก็ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ติต่อขอข้อมูลจากคณณวัฒน์ฯ ต่อไป

นายแพทย์ธเรศฯ กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและผู้เสียชีวิตในแต่ละวัน ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยและญาติพี่น้อง รวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวสาร ตนจึงอยากฝากให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลเอกชนทุกราย ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด 19 ดำเนินการด้วยความทุ่มเท เสียสละ ทั้งในด้านของการรักษาพยาบาล รวมถึงการสื่อสารกับผู้ป่วยหรือญาติ ก็จะต้องมีความชัดเจนถึงกระบวนการรักษา และมีการชี้แจงถึงความจำเป็นในกรณีที่ต้องให้ผู้ป่วยรักษาตัว ณ ที่พัก เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยและญาติเกิดความวิตกกังวล และขาดความเชื่อมั่นต่อระบบสาธารณสุข
#3894


นายอนุชา เหล่าขวัญสถิตย์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในห้วงเวลาที่ประเทศเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ธนาคารไทยพาณิชย์ มิได้หยุดนิ่งที่จะดำเนินธุรกิจตามแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan) ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถรักษาประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์และอำนวยความสะดวกในการให้บริการลูกค้าผ่านมาตรการการบริหารความเสี่ยงในหลายๆ ด้าน อาทิ มาตรการ Work From Home มาตรการการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด มาตรการทบทวนการเปิดสาขาให้เหลือเท่าที่จําเป็น มาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงพนักงานที่สาขา เป็นต้น โดยธนาคารไทยพาณิชย์เป็นองค์กรแรกๆ ของประเทศที่ประกาศรูปแบบการทำงานแบบ  Work from Home ทันทีที่เกิดการแพร่ะระบาดของโควิด-19 เพื่อให้พนักงานสามารถรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และเป็นวิธีที่จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างดี ขณะเดียวกันธนาคารได้วางระบบไอทีเพื่อรองรับธุรกรรมดิจิทัล และเพิ่มจำนวนบุคลากรด้านคอลเซ็นเตอร์ เพื่อรองรับเหตุขัดข้องให้แก่ลูกค้า

ผลจากการบริหารความเสี่ยงเชิงรุกในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นจนได้รับ 3 รางวัลบริหารความเสี่ยงด้านการดำเนินงานช่วงโควิดระดับเอเชีย จาก Asian Leadership Awards 2021 ที่จัดขึ้นในระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย รางวัล Best COVID-19 Solution for Workforce Management  รางวัล Best COVID-19 Remote Monitoring Solution และรางวัล Most Innovative Solution for COVID-19 สะท้อนถึงการบริหารองค์กรภายใต้สภาวะวิกฤตโควิด ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องตามแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง


ทั้งนี้ Asian Leadership Awards 2021 จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อที่เป็นเวทีเปิดเผยศักยภาพของผู้นำในภูมิภาคของเอเชียของแต่ละบริษัท และองค์กรชั้นนำที่สามารถผ่านบททดสอบเพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กร ด้วยความมุ่งมั่นในสภาวะเศรษฐกิจที่จะต้องเผชิญหน้ากับเหตุวิกฤตการณ์โควิด-19

"ธนาคารและผู้บริหารธนาคาร มีวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็นถึงสถานการณ์โควิดอย่างมีนัยยะสำคัญตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลาถึง 16 เดือนที่ธนาคารได้ปรับปรุงรูปแบบการทำงานแบบ Work From Anywhere เกือบ 80% พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพของบุคลากรซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญของธนาคารให้ปลอดภัยจากสถานการณ์วิกฤต และผลจากการวางโครงสร้างพื้นฐานใหม่ผ่าน Digital Transformation ทำให้ธนาคารสามารถเพิ่มขีดความสามารถของ digital platform ในการให้บริการลูกค้า และตอบโจทย์การสร้างประสบการณ์ลูกค้า (customer experience) อย่างเช่น SCB Easy App เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับต่อความต้องการที่มีสูงขึ้นของลูกค้าภายใต้สถานการณ์โควิด" นายอนุชา กล่าว

นอกจากนี้ธนาคารยังได้ออกนโยบายการดูแลพนักงาน เช่น SCB Telecare program รวมถึงการใช้สินเชื่อของพนักงาน ตลอดจนการให้ความรู้พนักงานและสร้างความคุ้นเคยในการทำงานออนไลน์ผ่าน MS Teams โดยยังคงประสิทธิภาพในการทำงานได้ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด พนักงานสามารถรับรู้ข่าวสารที่สำคัญต่อตัวพนักงานและครอบครัวได้ทันท่วงทีผ่านการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยจัดเครื่องมือป้องกันให้พนักงานที่ต้องพบปะลูกค้า และปรับปรุงอุปกรณ์ที่สาขาให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ การฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามอาคารสำนักงานต่างๆ อย่างเข้มข้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข  

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้บริหารจัดการความเสี่ยงตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยการดูแลลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ผ่านมาตรการความช่วยเหลือต่างๆ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นในอนาคต
#3895


ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(20 ก.ค.)ทะยาน 549 จุด ขณะที่นักลงทุนพากันช้อนซื้อหุ้นที่ทรุดตัวลงในการซื้อขายวานนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 549.95 จุด หรือ 1.62% ปิดที่ 34,511.99 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 64.57 จุด หรือ 1.52% ปิดที่ 4,323.06 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 223.89 จุด หรือ 1.57% ปิดที่ 14,498.88 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 700 จุดเมื่อวันจันทร์(19ก.ค.) ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.2563 เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ต่างปรับตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสทรุดตัวลงกว่า 7%

หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ และสายการบิน ซึ่งดิ่งลงวานนี้ ต่างก็ดีดตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นในวันนี้ ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

หุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน ตามการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันในวันนี้

นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเน็ตฟลิกซ์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, ยูไนเต็ด แอร์ไลน์, อินเทล, ฮันนีเวลล์ และฮาเลย์-เดวิดสัน

ราคาหุ้นบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (ไอบีเอ็ม) พุ่งขึ้นกว่า 4% หลังเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ ไอบีเอ็ม ระบุว่า รายได้อยู่ที่ระดับ 1.875 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.829 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทมีกำไร 2.33 ดอลลาร์/หุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.29 ดอลลาร์/หุ้น


กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 6.3% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 1.643 ล้านยูนิต สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.590 ล้านยูนิต จากระดับ 1.546 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านในเดือนมิ.ย.ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในตลาด แม้ว่าราคาไม้ ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่สำคัญในการสร้างบ้าน ยังคงปรับตัวขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ดี การอนุญาตก่อสร้างบ้านร่วงลง 5.1% สู่ระดับ 1.598 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย.
#3896


วันนี้ (17 ก.ค. 64) จากข้อมูลจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (ศบค.) ยอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่ 28 ก.พ. - 15 ก.ค. 2564 มีการฉีดไปแล้ว รวม 13,823,355  โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 10,424,925 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด) จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 3,398,430 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์) ซึ่งทางภาครัฐ ได้มีการเดินหน้าปูพรมฉีดวัคซีน ในกลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง รวมถึงประชาชนในพื้นที่แพร่ระบาดหนัก 


อย่างไรก็ตาม ในเดือน ก.ค. นี้ ยังพบว่ามีหลาย รพ. ที่ประกาศ 'เลื่อนฉีดวัคซีน' โควิด-19 ในผู้ที่ลงทะเบียนในระบบ 'หมอพร้อม' ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ดังนี้ 

รพ.ชลบุรี ติดตามวันต่อวัน ตลอดทั้งเดือน 
รพ.ชลบุรี ระบุผ่านหน้าเฟซบุ๊กในวันนี้ (17 ก.ค.64) ว่า ไม่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามนัดเดิม เนื่องจากวัคซีนมีไม่เพียงพอ กับจำนวนจองรับวัคซีนในสัปดาห์นี้ สำหรับประชาชน ที่จองวัคซีน ตลอดเดือน ก.ค. 64 ทางโรงพยาบาลไม่สามารถบริการฉีดวัคซีนได้ตามนัด โรงพยาบาล จะแจ้งผู้ที่มีนัด ให้เข้ามารับวัคซีน ตามประกาศของจังหวัด ขอให้ติดตามประกาศ จากทางเพจ ในแต่ละวัน

รพ.เปาโล พระประแดง 19 ก.ค. เป็นต้นไป
ด้าน รพ.เปาโล พระประแดง ประกาศ แจ้งขอยกเลิกการฉีดวัคซีน COVID-19 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุข  จึงจำเป็นต้องยกเลิกคิวฉีดวัคซีน COVID-19 (ผู้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม) ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะประกาศประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทันที


รพ.เปาโล สมุทรปราการ 19 ก.ค. เป็นต้นไป

ด้าน รพ.เปาโล สมุทรปราการ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ขอยกเลิกการฉีดวัคซีน COVID-19 AstraZeneca อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจาก รพ.ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุข จึงจำเป็นต้องยกเลิกคิวฉีดวัคซีน COVID-19 AstraZeneca ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะประกาศให้ทราบโดยทันที

รพ.สำโรงการแพทย์ 20 ก.ค. เป็นต้นไป 
รพ.สำโรงการแพทย์ ประกาศว่า สำหรับคนที่จอง วัคซีนโควิด-19 และเลือกฉีดกับโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โรงพยาบาลขอเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ตามมติของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งไม่สามารถจัดสรรวัคซีนมายังโรงพยาบาลได้ หากโรงพยาบาลได้รับการจัดสรรวัคซีนจากภาครัฐ เป็นที่แน่นอนแล้ว จะรีบแจ้งให้ท่านทราบ เพื่อมารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด

รพ.ชะอำ 20 ก.ค. เป็นต้นไป 
นัดฉีดวัคซีน Sinovac เข็มที่ 1 ในวันจันทร์ที่ 19 ก.ค. 64 เวลา 8.00 น -14.00 น ให้บริการฉีดวัคซีนผู้ที่จองหมอพร้อม คิววันที่ 19 ก.ค. 64 และ อสม ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ส่วน คิวฉีดวัคซีนในหมอพร้อม ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 64 ขอเลื่อนไปจนกว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนมาเพิ่ม


รพ.พระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์
รพ.พระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ 'เลื่อนฉีดวัคซีน' โควิด-19 เนื่องจากโรงพยาบาลยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 จึงมีความจำเป็นต้องขอ เลื่อนฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่มีนัดฉีดตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 64 เป็นต้นไป หากทาง รพ. ได้รับการจัดสรรวัคซีนมาเพิ่ม จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง  


รพ.สินแพทย์เทพารักษ์

สำหรับผู้ที่จองคิวฉีดวัคซีน Covid-19 ผ่านระบบ หมอพร้อม และ เลือกโรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ทางโรงพยาบาล ขอแจ้งเลื่อนวันรับวัคซีน อย่างไม่มีกำหนด ตามมติของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งไม่สามารถมีวัคซีน จัดสรรมายังทางโรงพยาบาล หากทางโรงพยาบาล ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากทางภาครัฐแล้ว เป็นที่แน่นอนในลำดับต่อไปแล้ว โดยจะแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้งโดยเร็วที่สุด โดยขอให้ติดตามข่าวสารจากช่องทางเฟซบุ๊กแฟนเพจเป็นหลัก

รพ.มหาราชนครราชสีมา 18 ก.ค. เป็นต้นไป
รพ.มหาราชนครราชสีมา ของดการให้บริการฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 สำหรับท่านที่จองผ่านระบบหมอพร้อม และ มหาราชพร้อม (โคราชพร้อม) ขอให้ท่านที่ลงทะเบียนฉีดกับทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ติดตามข่าวสารผ่านช่องทางไลน์ของโรงพยาบาล เพื่อรับข้อมูลในการให้บริการอีกครั้ง
#3897
App "มีตังค์" ทำจริงจัง ก็ได้เงินจริงนะ ไม่จกตา สร้างรายได้หลักแสน หลักล้าน อย่างง่าย ๆ
App "มีตังค์" คือ ธุรกิจที่ใช่ ในยุค COVID ครองเมือง
ระบบ Content Builder System
ที่ทำทุกอย่างผ่าน Social บนมือถือเพียงเครื่องเดียว ง่าย ๆ เพียงแค่แชร์
เปลี่ยนใจสมัครกับเราตอนนี้ยังทัน

ธุรกิจ New Platform(แฟลตฟอร์มใหม่)
ที่ลงทุนด้วยเงิน 2,699 ครั้งเดียวผ่าน App เก็บเกี่ยวได้ตลอดชีวิต
รับเฉพาะคนที่จริงจังพร้อมทำเท่านั้น


สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี teerapat999 โทร 0846623662

ลงทะเบียนฟรีเพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้ในกลุ่มปิดเปิดเผยชัดเจน
https://www.metang-solution.com/member/register.php...

รายละเอียดเพิ่มเติม https://web.facebook.com/richbyteerapat
 
#3898
การตลาดสุดปัง แจกสติกเกอร์ไลน์เป็นของขวัญ ไม่มีวันหมดอายุ สร้างการรับรู้ แจกให้พนักงาน ผู้บริหาร ลูกค้าแบรนด์ วิธีดึงคนเข้า LINE OA ที่ฮิตที่สุด เวลานี้ ไม่ว่าองค์กรเล็ก หรือใหญ่ ทำได้ ใช้เงินน้อย ได้ดั่งใจ
https://www.chatstickmarket.com/single-post/makelinestickerstodistributeforfree

#3899
ขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ขายคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ชั้น3 ขนาด 32ตาราง 1.19 ล้านบาท

ขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ขายคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ขายถูกคอนโดบางใหญ่ ชั้น3 ขนาด 32ตาราง 1.19 ล้านบาท ทำเลทอง บางใหญ่ นนทบุรี ขายถูกกู้ได้สูง


ขายถูกคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ขายถูกกู้ได้สูงคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ขายถูกคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ชั้น3 คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่  ทำเล: บางใหญ่ นนทบุรี ตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท ราคา: 1.19 ล้านบาท ขนาด 32ตาราง มีตู้เสื้อ1ใบ และตู้เสื้อผ้าบิ้วอิน1ใบ ครัวบิ้วอิน ขายถูกคอนโดบางใหญ่ ติดรถไฟฟ้าสถานี ตลาดบางใหญ่ ติดตลาดบางใหญ่ สัญจรสะดวกมีป้ายรถตู้รถเมล์หลายสาย ทั้งในชุมชนหมู่บ้านและเดินทางเข้าเมือง กทม.

คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวก
-สวนสาธารณะ
-สวนหย่อม
-มีการรักษาความปลอดภัย (รปภ.)
-CCTV, Key Card และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

จุดเด่นของโครงการ คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่
* การเดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟฟ้า(BTS)บางใหญ่ และใกล้ถนนกาญจนาภิเษก และถนนรัตนาธิเบศร์
* โครงการรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ บิ๊กซี บางใหญ่ ตลาดบางใหญ่ และเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต

คอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ ตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท  ขายถูกกู้ได้สูง


สนใจ
ติดต่อ ชญานิน 0886293244

รายละเอียดเพิ่มเติม


https://kaaiduan.com/คอนโดทำเลทอง/คอนโดซิตี้สเตชั่นบางให/


คำค้น
ขายถูกคอนโดบางใหญ่, ขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่ , ขายคอนโดตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกท, ขายคอนโดทำเลทอง บางใหญ่นนทบุรี, ขายถูกกู้ได้สูงขายคอนโดซิตี้สเตชั่นบางใหญ่

 
#3900
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf