ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ถังพ่นยา เครื่องพ่นยา อุปกรณ์ที่จะช่วยให้ดูแลต้นไม้ได้ดีขึ้น
สำหรับการทำสวน หรือ การปลูกต้นไม้ นั้นเราต้องเอาใจใส่และดูแลเป็นพิเศษ เพื่อที่จะให้ผลผลิตที่ออกมานั้นดูสวยงาม ทั้งนี้ก็เพื่อให้สวนของเรานั้นดูสวยงามขึ้นร่มรื่นขึ้น หรือผลผลิตที่ออกมานั้นสามารถขายได้มีราคาดีขึ้น สำหรับคนที่ชื่นชอบในการทำสวน ต่างก็ต้องมีวิธีและเทคนิคในการบำรุงรักษาต้นไม้และผลผลิตของตัวเอง ให้มีความเจริญงอกงามด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือ ในการป้องกันและ กำจัดศัตรูพืช อย่างหนอนโรค แมลงต่าง ที่มาทำความเสียหายให้กับสวนของเรา ซึ่งในการกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้เราจะขาดการใช้ ถังพ่นยา ไปไม่ได้เลย

เครื่องพ่นยานั้นค่อนข้างสามารถใช้งานได้หลากหลายและเหมาะกับเกษตรกรหรือชาวสวนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการ พ่นยา พ่นปุ๋ย หรือแม้กระทั่งพ่นน้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น อีกทั้งเครื่องพ่นยานั้นยังทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะช่วยให้เราสามารถดูแลสวนของเราได้อย่างทั่วถึงง่ายขึ้น นอกจากถังพ่นยาแล้ว ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ที่สามารถใช้พ่นละอองฝอยได้ ไม่ว่าจะเป็น ปืนฉีดแอลกอฮอล์ ปืนฉีดน้ำนาโนสเปรย์ เป็นต้น 

การเลือกซื้อถังพ่นยาให้เหมาะสมกับการทำงานของเราเบื้องต้น
เลือกจากขนาดความจุของเครื่องพ่นยา ในการที่เราจะเลือกใช้เครื่องพ่นยามาใช้งานนั้นเราอาจจะจำเป็นต้องเลือกขนาดความจุที่เหมาะสม โดยเราสามารถพิจารณาได้เบื้องต้นจากพื้นที่ที่เราจะนำเครื่องพ่นยาไปใช้งาน รวมถึงขนาดของเครื่องพ่นยาและกำลังของผู้ใช้งานด้วย เพราะการที่เราเลือกใช้เครื่องพ่นยาที่มีขนาดใหญ่หรือถังพ่นยาที่มีถังขนาดใหญ่มากก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป เพราะจะทำให้เรานั้นสามารถใช้งานได้ยากขึ้นและความคล่องตัวในการใช้งานลดลง

เลือกจากวัสดุความแข็งแรงและทนทาน   ถังพ่นยาหรือเครื่องพ่นยาที่ดีนั้นจะต้องมีวัสดุที่แข็งแรงและสามารถทนต่อสารเคมีชนิดต่างๆได้เป็นอย่างดี เพราะการที่เราเลือกวัสดุที่ดีและมีคุณภาพจะทำให้เราสามารถใช้เครื่องพ่นยาได้ยาวนานขึ้น โดยส่วนใหญ่แน่นเครื่องพ่นยาหรือถังพ่นยาจะทำจากพลาสติกจำพวก ABS ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี อีกครั้งในหลายๆแบรนด์ยังมีการเคลือบวัสดุด้วยสารป้องกัน UV เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวถังพ่นยานั้นเสื่อมสลายจากการโดนรังสีเมื่อใช้งานไปเป็นระยะเวลานาน

เลือกถังพ่นยาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและมีบริการหลังการขาย การรับประกันนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญมากสำหรับการใช้งานถังพ่นยาและอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องควรจะเลือกซื้อจากร้านค้าที่ได้รับมาตรฐาน หรือเลือกซื้อจากถังพ่นยาที่มีการรับประกันอย่างน้อย 1-3 เดือน เพื่อให้เราสามารถมั่นใจว่าถังพ่นยาที่เราซื้อมานั้นจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นอกจากถังพ่นยาแล้ว ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย ที่สามารถใช้พ่นละอองฝอยได้ ไม่ว่าจะเป็น ปืนฉีดแอลกอฮอล์ ปืนฉีดน้ำนาโนสเปรย์

ไส้กรองเครื่องกรองน้ำ อุปกรณ์ในเครื่องกรองน้ำที่คุณต้องดูแล
เครื่องกรองน้ำ นั้นเป็นอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าแทบจะค่อนข้างสำคัญกับทุกครัวเรือนในปัจจุบัน เพราะสามารถเป็นตัวช่วยในการป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่างๆ ที่แฝงมากับน้ำประปาที่เราใช้กันอยู่ทุกวันได้ เนื่องจากท่อน้ำประปานั้นอาจจะมีการรั่วไหลทำให้น้ำที่ไหลออกมานั้นไม่สะอาด สำหรับการใช้เครื่องกรองน้ำนั้นก็ต้องมาควบคู่กับ ไส้เครื่องกรองน้ำ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเครื่องกรองน้ำเลยก็ได้เพราะจะทำให้น้ำมีความใสและสะอาดมากขึ้น โดยกระบวนการของไส้เครื่องกรองน้ำนั้นจะคอยทำหน้าที่ดักจับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่าง ๆ ในระบบน้ำประปา
หากพูดถึงไส้กรองเครื่องกรองน้ำในปัจจุบันนั้นมีให้ผลิตมาให้เราเลือกกันหลากหลายแบรนด์มากมาย ทำให้มีตัวเลือกในท้องตลาดค่อนข้างเยอะ แล้วเราจะมีวิธีการเลือกไส้เครื่องกรองน้ำอย่างไรดีให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
ประเภทของไส้กรองเครื่องกรองน้ำที่เราควรรู้เบื้องต้น
-ไส้กรองเครื่องกรองน้ำคาร์บอน ไส้กรองน้ำชนิดนี้จะทำมาจากสารคาร์บอนเป็นหลัก เป็นไส้กรองที่มีความสำคัญและขาดไม่ได้เลยในเครื่องของกรองน้ำของเรา เนื่องจากสามารถช่วยกรองสิ่งสกปรกต่างๆ ได้แล้ว ยังช่วยดูดซับสารพิษและสารเคมีที่แฝงตัวมากับน้ำด้วย ทั้งนี้อาจจะทำให้เราสามารถช่วยลดกลิ่นและสีของคลอรีนในน้ำได้อีกด้วย
-ไส้กรองเครื่องกรองน้ำหยาบ ไส้กรองชนิดนี้ทำมาจากเส้นใยขนาดเล็กที่มาพันกันเป็นเส้นในขนาดเล็กมาพันกันเป็นตาข่ายเพื่อให้ช่วยดักจับสารต่างๆ ได้แก่ กรวด หิน ดิน โคลนและทราย เป็นการกรองน้ำลำดับต้นๆ ดังนั้นจึงมีความสามารถในการกรองอนุภาคขนาด 1-10 ไมครอน ขนาดส่วนใหญ่ที่เจอและสามารถซื้อได้ง่ายจะเป็นขนาด 5 ไมครอน ซึ่งราคาไม่แพงมากนัก แต่ไส้กรองชนิดนี้จะอายุค่อนข้างสั้น ประมาณ 3-6 เดือนเท่านั้น ทำให้เราต้องคอยเปลี่ยนไส้กรองอยู่บ่อยๆ
-ไส้กรองเครื่องกรองน้ำเซรามิก ผลิตจากเซรามิกนำมาอัดเป็นแท่ง มีช่องว่างขนาด 0.1 - 0.3 ไมครอน จึงสามารถกรองเชื้อโรคต่างๆได้ แต่จะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไส้กรองชนิดอื่นๆ อายุการใช้งานนั้นสามารถใช้ได้ตั้งแต่แต่ 1 ปีขึ้นไป สามารถล้างทำความสะอาดได้ ทำให้เราไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยๆ
ไส้เครื่องกรองน้ำแบบเมมเบรน เป็นไส้กรองที่มีราคาสูงที่สุด ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ สามารถกรองสิ่งสกปรกที่มีอนุภาคเล็กถึงได้ถึง 0.0001 ไมครอน สามารถกรองได้ทั้งสารอินทรีย์ เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียและไวรัสต่างๆได้ ทั้งนี้ยังเปลี่ยนน้ำเค็มหรือน้ำสกปรกให้กลับมา มีสภาพเป็นกลางสามารถใช้อุปโภคและบริโภคได้ ทำให้ได้น้ำที่ใสสะอาดมีคุณภาพ เป็นไส้กรองน้ำของระบบที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตน้ำสำหรับดื่มแบบขวด ยาและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกด้วย มีอายุการใช้งานยาวนานมาก ๆ ประมาณ 1 - 2 ปี โดยขึ้นอยู่สภาพน้ำและการดูแลรักษา

สีรองพื้น มีความสำคัญอย่างไร
สีรองพื้น (Primers) คือสีชนิดหนึ่งสำหรับนำไปใช้ในงานทาบนพื้นผิววัสดุต่างๆ ก่อนทาทับด้วยสีทับหน้า เพื่อเพิ่มการยึดเกาะระหว่างพื้นผิววัสดุและสีทับหน้า ป้องกันความชื้นและเชื้อรา รวมถึงช่วยยืดอายุสีทับหน้าให้มีสีสันสดใสได้อย่างยาวนาน แถมยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น สีรองพื้นกันสนิมทาเพื่อป้องกันสนิม สีรองพื้นไม้ทาเพื่อป้องกันเชื้อรา หรือสีรองพื้นปูนทาเพื่อป้องกันด่าง เป็นต้น อีกทั้งสีรองพื้น ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการแต่งแต้มสีสันให้งานต่างๆ ได้อย่างลงตัว ทั้งงานทาสีทั่วไป เช่น บ้าน ผนัง กำแพง หรืองานประดิษฐ์ DIY ต่างๆ อีกด้วย ซึ่งประโยชน์ของสีรองพื้นก็มีมากมาย ดังต่อไปนี้

ป้องกันด่าง ปูนที่ทำการฉาบใหม่จะมีความเป็นด่างสูงมาก หากทาสีทับหน้าไปเลยจะทำให้สีทับหน้าเกิดการเสื่อมสภาพเป็นฝุ่นผง และสีซีดจางได้

เสริมสร้างการยึดเกาะ สีรองพื้นมีความจำเป็นมากหากเป็นผนังปูนเก่า เพราะสีเก่าจะมีสภาพเป็นฝุ่น หากทาสีหน้าทับเลยสีจะไปเกาะฝุ่นเหล่านั้นแทน ทำให้การยึดเกาะไม่ดี จึงจำเป็นต้องทาสีรองพื้นปูนเก่าเพื่อช่วยทำให้ฝุ่นนั้นไม่ร่วนซุย

ลดการดูดซึมของพื้นผิว พื้นผิวของปูนฉาบจะมีรูพรุนและมีความหยาบสูง ฉะนั้นการทาสีรองพื้นก่อนจะทำให้พื้นผิวนั้นดูดซึมสีรองพื้นแทนการดูดซึมสีทับหน้า

ช่วยกลบพื้นผิว ส่วนใหญ่แล้วสีรองพื้นปูนใหม่จะมีสีขาว การที่คุณทาสีขาวทับผนังปูนฉาบใหม่ที่มีสีเทา จะทำให้คุณทาสีทับหน้าได้ง่ายขึ้น

ประเภทของสีรองพื้น
สีรองพื้นสำหรับงานปูนเก่า เหมาะสำหรับพื้นผิวปูนที่เคยทาสีมาแล้ว รวมถึงในกรณีที่เป็นผนังฉาบปูนใหม่และทาสีมาแล้วแต่ต้องการเปลี่ยนสีผนัง มีหลายเกรดให้เลือกใช้ตามความเสื่อมสภาพของพื้นผิวเดิม โดยมีคุณสมบัติผสานการยึดเกาะ แทรกซึมลึก และฟื้นฟูสภาพพื้นผิวให้ดีขึ้นก่อนทาสีทับหน้าในลำดับต่อไป

สีรองพื้นสำหรับงานปูนใหม่ จะมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการป้องกันด่างในพื้นผิวคอนกรีต เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะระหว่างเนื้อสีจริงกับพื้นผิวคอนกรีต และยังช่วยให้สีทับหน้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ลดปัญหาสีลอกร่อนก่อนเวลาอันควรอีกด้วย

สีรองพื้นสำหรับงานไม้ มีประโยชน์ในด้านการป้องกันไม่ให้ความชื้นส่วนเกินจากภายนอกเข้าไปทำลายเนื้อไม้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ สีรองพื้นไม้ชนิดผสมอลูมิเนียม ใช้ทารองพื้นไม้เป็นชั้นแรกเพื่อป้องกันความชื้นภายในไม่ให้ไหลออกมาปะปนกับสีจริง และสีรองพื้นไม้สีน้ำมัน เหมาะสำหรับทารองพื้นไม้ครั้งแรก หรือทาทับไม้ที่เคยทาสีมาก่อน

สีรองพื้นสำหรับงานโลหะ หลักๆ แล้วจะมี 2 ชนิด คือ สีรองพื้นโลหะชนิดผสมผงซิงค์โครเมท หรือสีกันสนิม ที่มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เหล็กสูญเสียอิเล็กตรอนให้กับอากาศ ดังนั้นเหล็กจึงไม่เกิดสนิม และสีรองพื้นโลหะชนิดที่ทำจากอีพอกซี่ ที่สามารถป้องกันการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี

การเลือกซื้อสีน้ำทาภายใน ต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง
สีทาภายใน (Interior Paint) ที่นิยมใช้งานกันมักจะใช้เป็นสีน้ำ หรือสีอะคริลิค เนื่องจากอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะมีพื้นผิวเป็นปูน จึงทำให้สีน้ำสามารถยึดเกาะบนพื้นผิวนั้นได้เป็นอย่างดี แถมยังมีความคงทนค่อนข้างมาก และหลายคนอาจจะยังมีความสงสัยว่าสามารถนำสีน้ำทาภายในไปใช้งานแทนสีน้ำทาภายนอกได้หรือไม่ ก็ขอตอบเลยว่าไม่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะด้วยคุณสมบัติเฉพาะที่ผู้ผลิตต้องการใส่ให้แค่กับสีทาภายใน จึงไม่ได้ใส่สารบางอย่างที่ช่วยให้สีสามารถทนต่อสภาพอากาศต่างๆ ได้ และถ้าหากนำไปใช้งานภายนอกแล้ว ในระยะสั้นอาจไม่เห็นผลอะไรมากนัก แต่ในระยะยาวจะเห็นได้ชัดว่าสีจะซีดจาง สีหลุดร่อนได้ง่าย และเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับการเลือกใช้งานสีทาภายในนั้น ควรจะเลือกสีน้ำทาภายในที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ทนต่อการขัดถู สามารถป้องกันเชื้อรา และแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งสีทาภายในจะต้องไม่มีสารเคมีอันตราย และกลิ่นฉุนที่อาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เช่น ปราศจากสาร VOCs หรือสารระเหย เพราะเป็นสารที่จะทำให้รู้สึกแสบตา แสบจมูก หายใจลำบาก เกิดอาการวิงเวียนศีรษะได้ และถ้าสะสมในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้เยื่อหุ้มปอดถูกทำลายได้ในที่สุด ฉะนั้นหากเลือกสีทาภายในบ้านก็ควรจะต้องพิจารณาค่า VOCs ให้มีค่าเป็น Zero หรือ Low รวมทั้งปราศจากสารปรอท และตะกั่ว ซึ่งเป็นโลหะหนักและเป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นกัน

ประเภทของสีทาภายใน และการเตรียมพื้นผิว
สีทาภายในชนิดด้าน สีประเภทนี้จะมีราคาถูกที่สุด เมื่อทาเสร็จแล้วผิวหน้าที่ได้จะมีความด้าน สวย ดูทันสมัย แต่จะทำความสะอาดยาก เพราะสีด้านจะจับฝุ่น โดยช่างมักจะชอบใช้งานสีประเภทนี้ที่สุดเพราะงานจะดูเรียบเนียนเวลาฉาบปูน

-สีทาภายในชนิดกึ่งเงา สีชนิดนี้จะแพงกว่าสีด้าน เนื่องจากมีคุณสมบัติสะท้อนเงาเล็กน้อย จึงช่วยให้บ้านและอาคารดูสว่างขึ้น ที่สำคัญคือสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าสีทาภายในชนิดด้านอีกด้วย

-สีทาภายในชนิดเงา เป็นประเภทที่มีความคงทนมากที่สุด และทำความสะอาดได้ง่ายที่สุด แต่มักจะไม่ค่อยนิยมใช้งานกัน เพราะการออกแบบจะทำได้ยาก และราคาก็มักจะแพงกว่า

นอกจากจะรู้ว่าต้องการใช้สีน้ำทาภายในชนิดไหนแล้ว คุณก็ควรที่จะต้องรู้จักการดูแลให้สีติดทนยาวนานด้วยเช่นกัน โดยการรักษาสีทาอาคารทุกประเภทนั้นจะต้องดูแลตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มทา ซึ่งก่อนทาสีก็จะต้องทำความสะอาดผิวพื้นให้สะอาด ปราศจากฝุ่นผง และคราบมันต่างๆ ให้หมดเสียก่อน จากนั้นให้ทาสีรองพื้นก่อนทำการลงสีจริง ส่วนการทาสีนั้นก็สามารถทาตามคำแนะนำของสีแต่ละประเภทได้เลย

ฟิล์มยืด (Stretch Films)
ฟิล์มยืด เป็นวัสดุห่อหุ้มที่ทำมาจากพลาสติกชนิดหนึ่งในกลุ่ม Thermo Plastic มีคุณสมบัติเฉพาะที่สำคัญ คือ เหนียว ใส ยืดหยุ่นสูง และสามารถเกาะติดกันได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อน โดยพลาสติกที่นำมาผลิตฟิล์มยืดมีหลายชนิดแยกไปตามการใช้งาน เช่น PVC, PP, LLDPE, หรือ LDPE เป็นต้น ตัวฟิล์มที่ผลิตออกมาจะต้องเพิ่มสารป้องกันการเกาะติดเข้าไปด้วยเพื่อไม่ให้ฟิล์มติดกันเป็นแผ่น จากการเพิ่มสารเกาะติดเข้าไปทำให้การใช้งานในการใช้ห่อรัดสินค้าเป็นไปได้ง่ายขึ้น หรืออาจจะเพิ่มสารป้องกัน UV เข้าไปด้วยเพื่อยืดอายุการใช้งานของฟิล์มด้วย ส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมขนส่งมักจะรู้จักกันในชื่อ ฟิล์มยืดพันพาเลท ซึ่งมักนิยมใช้ในงานบรรจุหีบห่อสินค้าเป็นอย่างมาก เมื่อดึงฟิล์มออกให้ตึงจะมองเห็นลักษณะคล้ายมีกาวบางอยู่ด้านในทำให้ยึดเกาะได้ดี โดยสามารถห่อหุ้มได้ทั้งพาเลททำให้สะดวก และปลอดภัยในการขนส่งสินค้า หรือแม้แต่ห่อหุ้มกับสิ่งของเล็กๆ ฟิล์มชนิดนี้ก็สามารถทำได้ สาเหตุที่เราควรใช้ห่อหุ้มสินค้าในการขนย้าย การเก็บเข้าสโตร์ หรือแม้แต่การเก็บในห้องเก็บของ เพราะฟิล์มชนิดนี้สามารถป้องกันฝุ่นละออง และน้ำได้เป็นอย่างดี สามารถป้องกันการกระแทกได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งใช้งานได้ง่ายไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบรรจุ หรือเครื่องห่อ สามารถห่อหุ้มสิ่งของ หรือสินค้าได้ด้วยตัวเองเหมือนการใช้พลาสติกห่ออาหารเพียงแต่เนื้อฟิล์ม และขนาดจะมีความต่างกันเท่านั้นเอง

ประเภทการใช้งานของฟิล์มยืด
ปัจจุบันมีการใช้ฟิล์มยืดกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเราต้องเลือกใช้ฟิล์มยืดให้เหมาะกับอุตสาหกรรมนั้นๆ นอกจากจะใช้ห่อหุ้มสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ปัจจุบันฟิล์มชนิดนี้ก็ยังนิยมใช้เป็นอุปกรณ์แพ็คกิ้งอีกด้วย เช่น ในงานบริการขนย้ายสินค้า ผู้ให้บริการหลายรายนิยมที่จะเลือกใช้ห่อหุ้มสิ่งของที่ต้องการขนย้ายให้กับลูกค้าเพื่อไม่ให้สิ่งของเหล่านั้นมีรอยขูดขีด หรือมีรอยกระแทก แถมยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่ใช้บริการได้ในระดับหนึ่งว่าของที่ขนย้ายจะไม่เสียหาย อีกทั้งยังสามารถใช้ในงานอื่นๆ ในลักษณะแบบเดียวกัน เช่น ห่อหุ้มงานเหล็กดัด หรืองานสเตนเลสต่างๆ เพื่อให้ชิ้นงานไม่ถูกกระแทก หรือมีรอยขีดข่วน

การเก็บรักษาฟิล์มยืดต้องคำนึงถึงสิ่งใด
-อุณหภูมิ โดยทั่วไปแล้วภายใต้สภาวะอากาศปกติ ฟิล์มยึดแบบ LDPE, EVA และ LLDPE นั้นจะสามารถรักษาแรงรัดไว้ได้ 60-65% ของแรงที่ใช้ห่อรัดเริ่มแรก ส่วนฟิล์ม PVC นั้นสามารถรักษาไว้ได้เพียง 25% ถ้าหากอยู่ในอุณหภูมิที่สูง ฟิล์มยืดที่ห่อรัดผลิตภัณฑ์ก็จะเกิดการคลายตัว ส่วนที่อุณหภูมิต่ําก็จะทําให้ความเหนียวและการยึดตัวของฟิล์มนั้นลดลง ดังนั้นฟิล์มยึดส่วนใหญ่จึงไม่ควรนํามาใช้งานที่อุณหภูมิในช่วง 30 - 54 องศาเซลเซียส

-ความชื้น ความชื้นที่สูงนั้นจะทําให้การเกาะติดของฟิล์มยืดดีมากยิ่งขึ้น อันเนื่องมากจากสารที่เติมลงไปเพื่อให้ฟิล์มเกาะติดกันทํางานได้ดีในที่ที่มีความชื้นสูง เพราะจะดูดความชื้นจากบรรยากาศเข้าไปทําให้ฟิล์มเกาะตัวกันได้ดี ดังนั้นการใช้งานฟิล์มยืดในบริเวณที่มีความชื้นสูงจึงมักเกิดปัญหาในการแยกฟิล์มให้ออกจากกันได้ยากมากขึ้น

-ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่เข้ามาเกาะติดที่ผิวฟิล์มนั้นจะทําให้คุณสมบัติการเกาะติดกันของฟิล์มลดลงไป ดังนั้นถ้าต้องมีการใช้งานฟิล์มยึดในที่มีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเยอะๆ จึงควรที่จะมีการใช้กาว ความร้อน หรือการผูกรัดเข้ามาเพื่อช่วยให้ฟิล์มสามารถยึดติดกันได้ดีมากยิ่งขึ้น

แท้งค์น้ำ หรือ ถังเก็บน้ำ (Water Tanks)
แท้งค์น้ำ หรือ ถังเก็บน้ำ มีหน้าที่สำหรับกักเก็บน้ำประปาไว้สำหรับใช้งานในกรณีที่น้ำประปาไม่ไหลหรือน้ำประปาไหลอ่อน เพราะน้ำเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นการเตรียมแท้งค์น้ำหรือถังเก็บน้ำสำรองเอาไว้ใช้งาน จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานทั้งด้านของการอุปโภคและบริโภคน้ำภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยในปัจจุบันแท้งค์น้ำและถังเก็บน้ำมีการผลิตออกมาในรูปแบบสำเร็จรูป และมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งการเลือกแท้งค์น้ำมาใช้งานที่บ้าน จะต้องพิจารณาในเรื่องวัสดุที่ใช้ผลิต ประเภทของถังเก็บน้ำ ปริมาณความจุของถังน้ำ รวมถึงเรื่องของราคาแท้งค์น้ำและความแข็งแรงทนทาน ที่จะต้องมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและใช้งานคู่บ้านไปอีกหลายปี

การติดตั้งถังเก็บน้ำ
ในปัจจุบันถังเก็บน้ำมีการติดตั้งให้เลือกใช้งานอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ ถังเก็บน้ำบนดิน และ ถังเก็บน้ำใต้ดิน ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน เช่น ถังเก็บน้ำบนดินสามารถดูแลรักษาได้ง่ายกว่า เคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่า และเหมาะสมกับบ้านที่มีพื้นที่ในการติดตั้ง แต่หากที่บ้านของคุณไม่มีพื้นที่เพียงพอในการติดตั้งบนดิน แนะนำให้เลือกใช้เป็นถังเก็บน้ำใต้ดินแทนได้ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นการฝังลงใต้ดิน จะส่งผลให้พื้นที่รอบบริเวณบ้านดูสวยงามและสามารถใช้พื้นที่ทำอย่างอื่นได้มากขึ้น แต่การติดตั้งถังน้ำใต้ดินนั้นมีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยาก และการบำรุงรักษารวมถึงเรื่องของการซ่อมแซมมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการเลือกถังเก็บน้ำและแท้งค์น้ำมาใช้งานที่บ้าน จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ในการติดตั้ง
ซึ่งถังเก็บน้ำและแท้งค์น้ำที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดปัจจุบัน ก็มีให้เลือกอยู่หลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น ถังเก็บน้ำ DOS, ถังเก็บน้ำ FLUSSO, ถังเก็บน้ำ SOMIC, ถังเก็บน้ำ WAVE ฯลฯ โดยแต่ละยี่ห้อก็มีแท้งค์น้ำให้เลือกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ถังเก็บน้ำสแตนเลสที่มีคุณสมบัติป้องกันสนิมนิยมติดตั้งบนดิน ถังเก็บน้ำพลาสติกมีให้เลือกทั้งแบบติดตั้งบนดินและใต้ดินที่มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน ถังเก็บน้ำคอนกรีต ถังเก็บน้ำโพลีเมอร์ชนิดทึบแสง ถังเก็บน้ำโพลีเมอร์ชนิดไม่ทึบแสง หรือถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส เป็นต้น โดยแท้งค์น้ำคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆมีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งราคาจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงทนทาน ขนาดแท้งค์น้ำ ปริมาณความจุของถังเก็บน้ำ ที่จะต้องมีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน

ปริมาณความจุของแท้งค์น้ำ
การเลือกถังเก็บน้ำหรือแท้งค์น้ำ จะต้องพิจารณากันเรื่องของขนาดและปริมาณความจุให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ซึ่งคุณสามารถคำนวนได้จากจำนวนสมาชิกภายในบ้านและลักษณะการใช้งาน โดยปกติทั่วไปแล้วค่าเฉลี่ยในการใช้น้ำประปาต่อวันจะอยู่ที่ 200 ลิตร/คน ก็ให้ทำการคูณจำนวนสมาชิกภายในครอบครัว พร้อมคูณจำนวนวันที่ต้องการสำรองน้ำไว้ใช้งานให้เพียงพอ ยกตัวอย่างเช่น บ้านของเรามีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 3 คน ก็จะต้องซื้อแท้งค์เก็บน้ำที่มีความจุ 200 x 3 = 600 ลิตร ซึ่งหากต้องการสำรองน้ำประมาณ 2 วันก็ควรซื้อถังเก็บน้ำที่มีความจุ 600 x 2 = 1,200 ลิตร เป็นต้น

มาตราฐานการเลือกปริมาณความจุถังเก็บน้ำ
จำนวนสมาชิก 4 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 800 ลิตร
จำนวนสมาชิก 5 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 1,000 ลิตร
จำนวนสมาชิก 6 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 1,200 ลิตร
จำนวนสมาชิก 7-8 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 1,600 ลิตร
จำนวนสมาชิก 9-10 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 2,000 ลิตร

กระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระ (Tissue Paper)
กระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนต้องใช้ในชีวิตประจำวัน และจัดเป็นของใช้อเนกประสงค์ที่ทุกบ้านต้องมีไว้ใช้งาน ด้วยคุณสมบัติที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเช็ด ซับ ห่อ หรือใช้เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกที่ติดอยู่ตามพื้น เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ภายในบ้าน กระดาษทิชชู่สามารถหยิบใช้ได้ง่าย สะอาด ปลอดภัย ใช้แล้วทิ้งได้เลยทันที ที่สำคัญคือราคาไม่แพง แต่อย่างไรก็ตามน้อยคนที่จะรู้ว่ากระดาษทิชชู่ หรือ กระดาษชำระ นั้นสามารถจำแนกได้ถึง 4 ประเภท จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย !

กระดาษชำระ (Toilet Paper) กระดาษทิชชู่ประเภทนี้ผลิตมาจากเยื่อต้นไม้และเยื่อกระดาษรีไซเคิล ลักษณะนุ่มพอสมควร ส่วนใหญ่กระดาษชำระ มักใช้สำหรับเช็ดชำระหลังจากการขับถ่าย หรือใช้เช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่างๆ โดยทั่วไปแล้วกระดาษชำระจะมีให้เลือกใช้งานอยู่ 2 ไซส์คือ แบบม้วนใหญ่ และ แบบม้วนเล็ก กระดาษชำระ เป็นที่นิยมใช้กันตามบ้าน ออฟฟิศ สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

กระดาษอเนกประสงค์ (Paper Towel) กระดาษอเนกประสงค์นี้มักพบเห็นได้ส่วนมากในห้องครัวถือเป็นไอเทมคู่ใจของเชฟทั้งหลาย หรือคนที่เข้าครัวทำอาหารบ่อย ๆ โดยลักษณะจะเป็นกระดาษชำระม้วนใหญ่ แผ่นใหญ่ มีความหนา สำหรับใช้ในการเช็ดคราบอาหาร ซับน้ำมันจากการทอด ผลิตจากเยื่อบริสุทธิ์ 100% ไม่ผ่านการฟอกสี

กระดาษเช็ดหน้า (Facial Tissue) เป็นกระดาษทิชชู่อีกชนิดหนึ่งที่เรามักจะใช้กันบ่อยๆตามบ้าน ลักษณะจะเป็นแผ่นๆ เนื้อกระดาษมี 2 ชั้น ลักษณะจะเป็นกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าสามารถหยิบใช้ได้สะดวก มีจำนวนแผ่นแตกต่างกันออกไป ใน 1 กล่อง บรรจุ 60 , 80 , 180 หรือ 200 แผ่น น้ำหนักต่ำสุด 28 g/m และมีค่า pH ประมาณ 5.5 – 8.5 มีหน้าที่ไว้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า หรือเช็ดเครื่องสำอาง คุณสมบัติของเนื้อกระดาษจึงต้องนุ่ม สะอาด และต้องเหนียวกว่ากระดาษประเภทอื่นๆ เพราะเมื่อนำมาเช็ดหน้าจะต้องไม่ทำให้ผิวหน้าเกิดความระคายเคืองและต้องให้สัมผัสที่อ่อนโยนแก่ผิวด้วย

กระดาษทิชชู่ชนิดเปียก (Wet Wipe) เป็นกระดาษทิชชู่ที่ผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิสูง ขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถพกพาได้สะดวก กระดาษทิชชู่เปียกบางยี่ห้อจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เช็ดแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นและสะอาด แต่ในบางยี่ห้อก็จะไร้กลิ่นหรือสารเคมี ซึ่งมีความอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า เหมาะสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายหรือใช้ในการเช็ดทำความสะอาดผิวของเด็กเล็กก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีประโยชน์มากทั้งในยามฉุกเฉินและในชีวิตประจำวัน หากต้องเข้าห้องน้ำสาธารณะก็สามารถใช้กระดาษทิชชู่เปียกเช็ดทำความสะอาดฝารองนั่งโถสุขภัณฑ์ก่อนใช้งานเพื่อสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถเช็ดทำความสะอาดทั้งโต๊ะและเก้าอี้ หลังรับประทานอาหารได้อีกด้วย เพื่อความสะอาดและสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนมากยิ่งขึ้น

ฝารองนั่งสุขภัณฑ์ (Toilet Seats)
ฝารองนั่งสุขภัณฑ์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "ฝารองนั่งชักโครก" เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่ใช้งานคู่กับโถสุขภัณฑ์ ใช้สำหรับรองรับสรีระร่างกายของเราโดยตรง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยให้เรารู้สึกสบายมากขึ้นในขณะที่นั่งใช้งานโถสุขภัณฑ์ ซึ่งโดยปกติแล้วฝารองนั่งชักโครกจะสามารถเปลี่ยนใหม่ทดแทนได้ในกรณีฝาแตกร้าวหรือใช้งานมาอย่างยาวนานจนฝารองนั่งมีสีที่เปลี่ยนไป เช่น จากฝารองนั่งชักโครกสีขาวสะอาด เมื่อใช้งานมาอย่างยาวนาน อาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นสีเหลืองได้ เป็นต้น
โดยตามท้องตลาดทั่วไปมีฝารองนั่งชักโครกให้เลือกอยู่หลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ฝารองนั่งชักโครกแบบธรรมดาหรือฝารองนั่งพลาสติกที่สามารถยกขึ้นลงเปิดปิดได้ตามปกติ, ฝารองนั่งแบบ Soft Close ที่มีการเปิดปิดอย่างนุ่นนวล ลดแรงกระแทกในการเปิดปิดฝาชักโครก, ฝารองนั่งอัตโนมัติ ที่มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น เช่น ควบคุมทั้งก้านฉีดชำระ การปรับความแรงเบาน้ำ อุณหภูมิของน้ำ ฯลฯ ฝารองนั่งเด็กเสริมฟองน้ำ และฝารองนั่งผู้ใหญ่เสริมฟองน้ำ ฝารองนั่งอัตโนมัติ เป็นต้น
การเลือกฝารองนั่งชักโครก
แน่นอนว่าฝารองนั่งชักโครกที่มาพร้อมกับตัวโถสุขภัณฑ์ที่บ้านของคุณ อาจจะยังไม่เคยมีปัญหาแตกหักหรือชำรุดใดๆ แต่หากวันหนึ่งเกิดเหตุสุดวิสัย ฝารองนั่งชักโครกเกิดชำรุดแตกหักขึ้นมา อาจจะเป็นปัญหาพอสมควรสำหรับใครที่ไม่ทราบวิธีในการเปลี่ยนฝารองนั่งชักโครกด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งที่มักจะเป็นปัญหาหลักๆในการเปลี่ยนฝารองนั่ง ไม่ใช่เรื่องของการติดตั้ง แต่เป็นการที่เราหารุ่นฝารองนั่งชักโครกแบบเดิมไม่เจอ !
ถ้าหากคุณยังพอทราบรุ่นของโถสุขภัณฑ์ว่าเป็นรุ่นไหน ก็ยังพอที่จะไปหาซื้อมาเปลี่ยนได้เลยทันที แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่ก็คงจะจำกันไม่ได้ว่าโถชักโครกที่ใช้งานอยู่เป็นรุ่นอะไร ขนาดเท่าไหร่ เพราะการติดตั้งโถชักโครกสำหรับใช้งานที่บ้าน เมื่อติดตั้งเสร็จก็ไม่ได้เก็บเอกสารต่างๆเอาไว้อย่างแน่นอน ยิ่งเวลาผ่านไปนานมากขึ้น ยิ่งทำให้เราลืมเรื่องของรายละเอียดต่างๆเหล่านั้นไปจนหมดสิ้น
ดังนั้นการวัดขนาดขอบโถสุขภัณฑ์เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเลือกฝารองนั่งชักโครก จึงเป็นอีกแนวทางในการช่วยให้คุณสามารถเลือกฝารองนั่งได้ตรงตามขนาดและสามารถนำมาใช้ชดแทนฝารองนั่งอันเก่าที่ชำรุดได้อย่างพอเหมาะ โดยการวัดขนาดของขอบโถสุขภัณฑ์จะมีอยู่ 4 จุด คือ...
วัดระยะห่างของรูสกรูที่จะยึดฝารองนั่งชักโครก
วัดความกว้างของฝารองนั่งชักโครก
วัดความยาวของฝารองนั่งชักโครก
ดูรูปทรงของฝารองนั่งชักโครก มีให้เลือกอยู่ 3 รูปทรง คือ รูปทรงตัว V, รูปทรงตัว U, รูปทรงตัว O
ซึ่งฝารองนั่งชักโครกทั่วไปจะมาพร้อมกับฝาปิดชักโครก ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นต้องวัดคือตำแหน่งของรูสกรูต้องตรงกันถึงจะใส่ชุดฝารองนั่งเข้าไปได้ ส่วนเรื่องขนาดความกว้างและความยาว อาจจะมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นปัญหาในเรื่องของการใช้งาน เพราะการที่จะหาฝารองนั่งแบบพอดีเป๊ะเท่าของเดิมก็อาจจะยากสักหน่อยหากเราไม่ทราบรุ่นของโถสุขภัณฑ์ แต่หากต้องการความมั่นใจว่าซื้อแล้วสามารถนำมาใช้งานได้จริง ง่ายๆเลยคือนำฝารองนั่งโถสุขภัณฑ์มาวาดทับบนกระดาษ และวาดเส้นตามขอบนอกขอบในฝารองนั่ง และตำแหน่งรูน็อตให้ใกล้เคียงมากที่สุด และนำแบบที่วาดไปกางทาบกับฝารองนั่งที่ร้านค้าได้เลย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วขนาดของฝารองนั่งชักโครกจะเป็นขนาดมาตราฐาน ที่สามารถนำมาประกอบใช้งานกับโถสุขภัณฑ์ได้แทบทุกรุ่น และฝารองนั่งอัตโนมัติ

เครื่องทำน้ำร้อนหม้อต้ม หรือหม้อต้ม เครื่องมือที่คนชอบความอบอุ่นต้องมีติดบ้าน
หม้อต้ม หรือ เครื่องทำความร้อนแบบหม้อต้ม เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ได้หลายจุดในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ฝักบัวอาบน้ำ หรือไม่เว้นแม้แต่ในครัว ในการติดตั้งนั้นเราอาจจะต้องเตรียมระบบประปาแยกเฉพาะสำหรับน้ำท่อแยกไปยังจุดต่างๆ ที่เราต้องการใช้งาน แต่ทั้งนี้เองน้ำร้อนที่ออกมาจาก หม้อต้มนั้น จำเป็นจะต้องผสมกับน้ำเย็นที่ก๊อกผสมก่อนถึงจะสามารถใช้งานได้อย่างเกิดประโยชน์ที่สุด เพราะว่าเราจะสามารถปรับความร้อนและความเย็นของน้ำได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานของเรา
การใช้งาน เครื่องทำน้ำร้อนหม้อต้ม นั้นจะค่อนข้างได้อุณหภูมิของน้ำที่เสถียรมากกว่าระบบเครื่องทำน้ำอุ่นแบบทั่วไป และยังมีแรงดันน้ำมากกว่าอีกด้วย ทั้งนี้การที่เราจะติดตั้งเครื่องทำความร้อนแบบหม้อต้มจริงๆ เลย เราจำเป็นต้องออกแบบห้องและพื้นที่ในการใช้งานน้ำก่อน ว่าเราต้องการที่จะใช้น้ำในห้องไหนบ้างและควรจะเดินระบบประปาแยกตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเลยจะดีที่สุด ทั้งนี้สามารถต่อเติมหรือติดตั้งระบบเองทีหลังได้ก็จริงแต่การทำงานนั้นอาจจะยุ่งยากกว่ามีการออกแบบไว้ตั้งแต่แรกเพราะตัวท่อนั้นอาจจะไม่ค่อยเรียบร้อยสวยงาม เพราะอาจจะต้องอยู่นอกผนังกันเลย

ประเภทและหลักการทำงานของหม้อต้มเบื้องต้น
การทำงานของเครื่องทำน้ำร้อนแบบหม้อต้มนั้นน้ำจะไหลเข้ามายังหม้อต้มที่ส่วนใหญ่นั้นทำจากทองแดงหรือวัสดุสังเคราะห์และทำให้น้ำภายในนั้นร้อนขึ้นเหมือนกันกับการต้มน้ำร้อนนั่นเอง เพราะฉะนั้นการจะใช้งานหม้อต้มให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอาจจะต้องใช้เวลาในการทำให้น้ำร้อนก่อนถึงจะสามารถใช้งานได้
หม้อต้มที่ทำจากทองแดง นั้นก็จะมีข้อดีเพราะสามารถทนความร้อนได้ดีและใช้งานได้นาน แต่ทั้งนี้การใช้งานไปนานๆ ก็อาจจะทำให้มีตะกรันน้ำได้ เราอาจจะต้องคอยตรวจเช็คจุดกรองน้ำก่อนที่น้ำจะผ่านเข้าไปยังหม้อต้มด้วย
หม้อต้มจากวัสดุสังเคราะห์ ส่วนใหญ่นั้นจะทำมาจากพลาสติกคุณภาพสูงที่เรียกกันว่า กิลลอน ซึ่งเป็นพลาสติกชิ้นเดียวกับที่ทำหม้อน้ำรถยนต์ สามารถทนความร้อนได้สูง ทั้งนี้การเลือกหม้อน้ำแบบกิลลอนนั้นควรจะเลือกแบบที่เป็นหม้อต้มชิ้นเดียวไม่มีรอยต่อเลย เพื่อป้องกันการรั่วซึมในระยะยาว

กระเบื้องพื้น
กระเบื้องพื้น เป็นวัสดุยอดนิยมที่นำมาใช้ในการตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอก กระเบื้องพื้นเป็นตัวช่วยเพิ่มความสวยงามและโดดเด่นให้กับบ้านของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่การที่เราจะเลือกกระเบื้องปูพื้นไว้ใช้งานภายในบ้านจะต้องคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยควบคู่กับความสวยงาม ดังนั้นก่อนตั้งสินใจเลือกกระเบื้องพื้นมาตกแต่งบ้าน จะต้องพิจารณาถึงเรื่องของลักษณะการใช้งาน ความต้องการ และความชื่นชอบของผู้อยู่อาศัยเป็นองค์ประกอบหลัก เพื่อสร้างบ้านที่สวยงามตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
โดยสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกของกระเบื้องพื้นคือ การเลือกกระเบื้องพื้นให้เหมาะสมกับสถานที่ที่นำไปใช้งาน เพราะในแต่ละห้องภายในบ้าน จะมีการเลือกใช้กระเบื้องที่มีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น พื้นที่ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น เป็นพื้นที่ที่มีคนใช้งานมากที่สุด ควรเลือกกระเบื้องพื้นที่มีพื้นผิวมันวาวสวยงาม และทำความสะอาดง่ายไม่เก็บฝุ่นมาใช้งานจึงจะเหมาะสม แต่หากต้องการเลือกกระเบื้องพื้นสำหรับห้องน้ำ ที่เป็นพื้นที่ที่โดนน้ำอยู่ตลอด ควรเลือกกระเบื้องพื้นที่มีผิวหยาบ ป้องกันการลื่นได้ดี โดยความหนืดของกระเบื้องเราสามารถพิจารณาได้จากค่า R หรือ ค่าต้านทานความลื่น นั่นเอง โดยกระเบื้องพื้นมีหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้องแกรนิตโต้ ที่เป็นกระเบื้องเซรามิกเนื้อพอร์ซเลน ซึ่งผ่านขั้นตอนการเผาที่อุณหภูมิสูง จึงมีความแข็งแกร่ง ทนทาน และมีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ ซึ่งจะมีลวดลายหลากหลายตามแต่ละผู้ผลิต โดยพื้นผิวมีทั้งผิวด้าน กึ่งเงา และมันเงา
ค่าความต้านทานความลื่น R
การจะเลือกกระเบื้องพื้นมาใช้งานไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกบ้าน จะต้องพิจารณาค่าความต้านทานความลื่นประกอบด้วย โดยระดับของค่า R จะมีค่าตั้งแต่ระดับ R9-R13 ยิ่งมีค่าสูงแสดงว่ากระเบื้องนั้นมีผิวที่หนืดและหยาบคล้ายกับกระดาษทราย ซึ่งคุณสามารถทดสอบด้วยการสัมผัสที่ผิวกระเบื้อง โดยเฉพาะกระเบื้องห้องน้ำ หรือบริเวณที่ต้องเปียกน้ำ จะต้องใช้กระเบื้องที่มีค่า R สูงเพื่อป้องกันการลื่นและการเกิดอุบัติเหตุ โดยการเลือกระดับค่า R ของกระเบื้องปูพื้นให้เหมาะสมกับการใช้งาน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
R9 เป็นค่าตัวเลขต่ำสุดสำหรับการเลือกกระเบื้อง ที่มีความหนืดในการปูพื้นที่ 3-10 องศา สำหรับใช้ในพื้นที่สาธารณะโซนพื้นที่แห้ง เช่น ทางเข้า ทางเดิน บันได ห้องรับประทานอาหาร ห้องรับแขกโถงทางเดิน
R10 เป็นค่าสำหรับการเลือกใช้กระเบื้องในบริเวณที่ต้องเปียกน้ำ ในระดับความหนืดของพื้นที่ที่ 10-19 องศา เช่น ภายในห้องน้ำ โรงรถ ที่จอดรถ เป็นต้น
R11 เป็นค่าที่ระบุสำหรับความหนืดในระดับ 19-27 องศา เพื่อเลือกพื้นผิวสำหรับปูภายนอก เช่นบริเวณทางเข้า บันไดนอกตัวอาคาร ที่จอดรถนอกอาคาร เป็นต้น
R12 เป็นค่าความหนืดที่ 27-35 องศา และค่า R13 เป็นค่าความหนืดมากกว่า 35 องศา สำหรับเป็นเกณฑ์ในการนำมาใช้งานภายนอกที่มีความลาดชันมาก เช่น พื้นที่ลาดชันสูง พื้นที่ที่มีคราบไขมันและความมัน
ขนาดของกระเบื้องพื้น
ขนาดของกระเบื้อง เป็นอีกปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือกกระเบื้องปูพื้นด้วยเช่นกัน โดยตามร้านค้าที่จัดจำหน่ายกระเบื้องทั่วไป จะมีกระเบื้องให้เลือกซื้ออยู่ค่อนข้างหลากหลายขนาด ซึ่งการเลือกกระเบื้องพื้นขนาดเล็กหรือใหญ่มาใช้งาน ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่จะนำไปติดตั้ง เช่น ห้องน้ำขนาดเล็ก ควรเลือกกระเบื้องขนาดเล็กประมาณ 20x20 หรือ 30x30 ไว้ใช้งานจึงจะเหมาะสม เนื่องจากห้องที่มีขนาดเล็ก เมื่อนำกระเบื้องขนาดเล็กมาติดตั้งจะช่วยทำให้ห้องดูกว้างขวางมากขึ้น
แต่สำหรับห้องที่มีพื้นที่กว้าง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องรับแขก ควรเลือกกระเบื้องขนาดใหญ่มาใช้งาน เช่น กระเบื้องขนาด 40x40, 50x50 หรือ 60x60 จะมีความเหมาะสมมากกว่า และสามารถช่วยลดรอยต่อของกระเบื้องให้น้อยลง ทำให้พื้นห้องดูแนบเนียนสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม

ที่ใส่สบู่ ที่วางสบู่ (Soap Holders)
ที่ใส่สบู่ หรือ ที่วางสบู่ จัดว่าเป็นอุปกรณ์ในห้องน้ำที่ทุกบ้านต้องมีไว้ใช้งานขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าคุณจะใช้สบู่เหลว หรือสบู่ก้อน ก็จำเป็นที่จำเป็นที่จะต้องมีภาชนะสำหรับใส่เพื่อใช้งาน โดยที่วางสบู่ทั่วไปก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบและดีไซน์ ตัววัสดุในการผลิตก็มีให้เลือกใช้หลากหลายประเภท เช่น ที่วางสบู่พลาสติก ที่วางสบู่สเตนเลส ที่วางสบู่เซรามิค ที่วางสบู่ตะแกรงโลหะ เป็นต้น ซึ่งการเลือกที่วางสบู่มาใช้งานในบ้าน ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคน ด้วยดีไซน์ที่มีความสวยงาม แตกต่าง อาจจะต้องพิจารณาถึงเรื่องสไตล์ในการตกแต่งห้องน้ำ
วัสดุที่วางสบู่
ที่วางสบู่ที่มีวางจำหน่ายทั่วไป มีให้เลือกใช้งานหลากหลายวัสดุ ซึ่งแต่ละวัสดุก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น ที่วางสบู่พลาสติกหรือซิลิโคน จะเป็นที่วางสบู่ที่เราพบเห็นมากที่สุด ราคาถูกที่สุด และมีความสวยงามหลากหลายรูปแบบและดีไซน์ให้เลือกสรร แต่หากคุณต้องการความโมเดิร์นหรูหราขึ้นมาหน่อย แนะนำให้เลือกที่วางสบู่โลหะหรือที่วางสบู่สแตนเลสมาใช้งาน ถึงแม้ราคาอาจจะสูงกว่าสักหน่อย แต่หากเทียบกันในเรื่องของความทนทาน ที่วางสบู่สแตนเลสจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า แต่หากคุณชื่นชอบความสวยงามแบบมินิมอลโทนสีขาวหรือลวดลายหินอ่อน ที่วางสบู่เซรามิคเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ที่วางสบู่เซรามิคจะมีความแข็งแรงทนทาน แต่ที่วางสบู่ประเภทนี้จะมีน้ำหนักมาก อีกทั้งยังแตกหักได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องควรระวังอย่างมากเรื่องของการติดตั้ง
นอกจากเรื่องของวัสดุและความสวยงามของที่วางสบู่แล้ว จะต้องพิจารณาเรื่องของพื้นที่ในการติดตั้งที่วางสบู่ประกอบด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วที่วางสบู่สามารถติดตั้งในพื้นที่อื่นนอกจากห้องน้ำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณซิงค์ครัว บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เป็นต้น การติดตั้งสามารถติดตั้งได้ทั้งแบบเจาะผนัง และแบบใช้กาวกันน้ำ หรือแบบสูญญากาศ ซึ่งการจะเลือกวิธีติดตั้งรูปแบบใด ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณจะนำไปใช้งาน เช่น ในห้องน้ำบริเวณส่วนพื้นที่เปียก ก็ควรเลือกติดตั้งแบบเจาะผนัง เพื่อความแน่นหนา แต่หากใช้ในส่วนพื้นที่แห้ง ก็อาจจะเลือกแบบติดตั้งด้วยกาวกันน้ำหรือสูญญากาศก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
ที่กดสบู่เหลว (Soap Dispensers)
ที่กดสบู่เหลว ก็เป็นอีกอุปกรณ์ห้องน้ำที่เรามักพบเจอตามห้องน้ำสาธารณะทั่วไป ใช้สำหรับบรรจุสบู่เหลวสำหรับล้างมือตามเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า แต่ก็สามารถนำมาใช้ติดตั้งใช้งานตามที่อยู่อาศัยได้เช่นกัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะผลิตจากพลาสติกที่มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงามทันสมัย ในปัจจุบันมีสบู่กดเซ็นเซอร์วางจำหน่ายอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น สบู่กดเซ็นเซอร์ใช้งานสะดวก อีกทั้งยังช่วยเรื่องของการลดการสัมผัสกับอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำเพื่อป้องกันเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน การลดจุดสัมผัสที่มีความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องที่องค์กรหลายๆแห่งเลือกที่จะใช้สบู่กดเซ็นเซอร์มากขึ้น                                                                           
กล้องวงจรปิด (Security Camera)
กล้องวงจรปิดเป็นแก๊ตแจ๊ตที่ได้รับความนิยมมากในเรื่องความปลอดภัยในปัจจุบันนี้ ล้วนเป็นเครื่องมือป้องกันการโจรกรรม เช่น การย่องเบา การทำลายทรัพย์สิน หรือของใช้ในบ้าน รวมถึงแจ้งเหตุร้ายอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกล้องวงจรปิดในปัจจุบันมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่บันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆเท่านั้น แต่สามารถแจ้งเตือนเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์! ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวจึงสามารถช่วยลดเหตุร้ายที่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที นอกเหนือจากนี้กล้องวงจรปิดยังจับภาพและบันทึกวิดีโอที่อาจจะเป็นประโยชน์ในการชี้ตัวผู้บุกรุกในการไต่สวน อีกทั้งยังช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถตรวจสอบสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็น การตรวจสอบพฤติกรรมของคนในบ้าน หรือช่วยบันทึกเหตุการณ์ที่เราอาจจะลืมไปแล้ว เป็นต้น

ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อกล้องวงจรปิด
ประเภทกล้องวงจรปิดภายในหรือภายนอก ก่อนจะเลือกซื้อกล้องวงจรปิด คุณจำเป็นต้องพิจารณาว่าคุณต้องการติดตั้งไว้ภายนอกหรือภายในอาคาร เพราะกล้องวงจรปิดสองประเภทมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน ถ้าติดภายนอกอาคารก็ควรที่จะคำนึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถกันน้ำและกันฝุ่นได้จึงจะเหมาะสมมากกว่า

ความคมชัด ความละเอียดและความคมชัดของภาพถือเป็นสิ่งสำคัญและไม่ควรมองข้าม หากใช้งานเพื่อการรักษาความปลอดภัยหรือตรวจสอบข้อมูล กล้องวงจรปิดควรมีความละเอียดและความคมชัดสูง เผื่อเวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็จะสามารถมาเปิดกล้องเพื่อดูย้อนหลังได้อย่างชัดเจน ดังนั้นการเลือกให้เหมาะกับการใช้งานนอกจากจะทำให้ได้งานที่ดีแล้วยังช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณอีกด้วย

ปริมาณแสง ต้องดูว่าพื้นที่ใช้งานนั้นมีปริมาณแสงมากเพียงพอให้กล้องจับภาพได้หรือไม่ หากเป็นพื้นที่ที่มีแสงน้อย ควรเลือกกล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรด เนื่องจากเป็นกล้องที่สามารถแสดงภาพสีในเวลากลางวัน และแสดงภาพสีขาวดำในเวลากลางคืนได้ จะได้เก็บภาพได้ทุกเหตุการณ์อย่างละเอียด

ระยะภาพ เพราะมันสำคัญในการเลือกขนาดเลนส์ หากคุณต้องการดูภาพระยะไกลต้องเลือกเลนส์ที่มีขนาดใหญ่ แต่ภาพที่แสดงผ่านเลนส์ขนาดใหญ่จะมีมุมภาพที่แคบมากกว่า ต่างกับเลนส์ขนาดเล็กที่ให้เห็นภาพในมุมกว้าง แต่ไม่ลึกเท่าเลนส์ขนาดใหญ่ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อกล้องวงจรปิดคุณจึงต้องพิจารณาถึงความต้องการใช้งานของคุณเป็นหลัก

โดยปัจจุบันกล้องวงจรปิดได้พัฒนาขึ้นมากเมื่อเทียบกับสมัยก่อน ด้วยการบันทึกภาพที่ความละเอียดสูง แข็งแรง ทนทาน และทาง HomePro ก็ได้คัดสรรกล้องวงจรปิดมาให้เลือกมากมาย เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อให้เหมาะแก่สถานที่การใช้งาน ดังต่อไปนี้

กล้องวงจรปิดแบบไร้สาย (Wireless Security Camera) กล้องวงจรปิดไร้สายเป็นประเภทที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย และสามารถเชื่อมต่อสั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน เปิดดูได้จากทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟน ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน

กล้องวงจรปิดจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor Security Camera) กล้องวงจรปิดประเภทนี้สามารถบันทึกทุกเหตุการณ์ด้วยภาพความละเอียดที่สูง มีอินฟราเรด IR ในตัว มองเห็นได้ชัดในเวลากลางคืน พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ไม่พลาดทุกเหตุการณ์ด้วยการจับภาพนิ่งเมื่อมีการเคลื่อนไหวผ่านหน้ากล้อง

กระเบื้องแกรนิตโต้ (GRANITO TILE)
กระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นกระเบื้องเซรามิกชนิดหนึ่ง ที่เป็นหินแกรนิตเทียม มีส่วนผสมของหินแกรนิตจริงเข้าไปด้วย และนำไปผลอมผ่านการเผาด้วยความร้อนสูง จนมีคุณสมบัติแข็งแรงเทียบเท่ากับหินแกรนิต ซึ่งมีความแข็งแรงมากกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วๆไป

ลักษณะของกระเบื้องแกรนิตโต้ จะมีผิวที่มัมวาว เป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น ไม่มีการเคลือบสีใดๆ แข็งแรง และทนทานต่อการขีดข่วน เปอร์เซ็นต์การดูดซึมน้ำต่ำมาก เป็นกระเบื้องที่มีคุณสมบัติการรับน้ำหนักได้สูงเหมือนกับ กระเบื้องเกลซพอร์ซเลนด์ เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการสัญจรทั่วไป

ค่าความต้านทานความลื่น R

การจะเลือกกระเบื้องพื้นมาใช้งานไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกบ้าน จะต้องพิจารณาค่าความต้านทานความลื่นประกอบด้วย โดยระดับของค่า R จะมีค่าตั้งแต่ระดับ R9-R13 ยิ่งมีค่าสูงแสดงว่ากระเบื้องนั้นมีผิวที่หนืดและหยาบคล้ายกับกระดาษทราย ซึ่งคุณสามารถทดสอบด้วยการสัมผัสที่ผิวกระเบื้อง โดยเฉพาะกระเบื้องห้องน้ำ หรือบริเวณที่ต้องเปียกน้ำ จะต้องใช้กระเบื้องที่มีค่า R สูงเพื่อป้องกันการลื่นและการเกิดอุบัติเหตุ โดยการเลือกระดับค่า R ของกระเบื้องปูพื้นให้เหมาะสมกับการใช้งาน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก

R9 เป็นค่าตัวเลขต่ำสุดสำหรับการเลือกกระเบื้อง ที่มีความหนืดในการปูพื้นที่ 3-10 องศา สำหรับใช้ในพื้นที่สาธารณะโซนพื้นที่แห้ง เช่น ทางเข้า ทางเดิน บันได ห้องรับประทานอาหาร ห้องรับแขกโถงทางเดิน

R10 เป็นค่าสำหรับการเลือกใช้กระเบื้องในบริเวณที่ต้องเปียกน้ำ ในระดับความหนืดของพื้นที่ที่ 10-19 องศา เช่น ภายในห้องน้ำ โรงรถ ที่จอดรถ เป็นต้น

R11 เป็นค่าที่ระบุสำหรับความหนืดในระดับ 19-27 องศา เพื่อเลือกพื้นผิวสำหรับปูภายนอก เช่นบริเวณทางเข้า บันไดนอกตัวอาคาร ที่จอดรถนอกอาคาร เป็นต้น

R12 เป็นค่าความหนืดที่ 27-35 องศา และค่า R13 เป็นค่าความหนืดมากกว่า 35 องศา สำหรับเป็นเกณฑ์ในการนำมาใช้งานภายนอกที่มีความลาดชันมาก เช่น พื้นที่ลาดชันสูง พื้นที่ที่มีคราบไขมันและความมัน

สั่งซื้อ กระเบื้องแกรนิตโต้ ได้ที่ กระเบื้องแกรนิตโต้ Homepro

การเลือกซื้อกระถางต้นไม้ให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
กระถางต้นไม้และอุปกรณ์ (Planting Pots & Accessories) ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนรักการปลูกต้นไม้ เพราะการที่จะปลูกต้นไม้ให้โตขึ้นมาอย่างสวยงามนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่น้ำ แสงแดด และดินเพียงเท่านั้น แต่กระถางต้นไม้ รวมถึงอุปกรณ์กระถางต้นไม้ต่างๆ ทั้งถาดรองกระถางต้นไม้ และถาดใส่กระถางกระบองเพชร ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักปลูกมือใหม่หลายๆ คนมักมองข้าม เพราะส่วนใหญ่อาจจะมองแค่ความสวยงามเป็นหลัก แต่ลืมนึกถึงวัสดุ และความเหมาะสมกับต้นไม้ที่จะปลูก โดยสิ่งสำคัญอันดับแรกในการเลือกกระถางต้นไม้ คือควรเลือกระถางที่มีขนาดพอเหมาะกับขนาดของต้นไม้ และอย่าลืมเผื่อขนาดต้นไม้โตไว้เล็กน้อยด้วย เพราะหากกระถางขนาดใหญ่เกินไปก็จะทำให้เกิดความชื้นส่วนเกินในดินได้ หรือหากกระถางมีขนาดเล็กเกินไปก็จะเป็นการจำกัดการเจริญเติบโตของพืช และอีกสิ่งหนึ่งคือเรื่องของรูก้นกระถาง ซึ่งก็เปรียบเสมือนรูระบายน้ำ หากกระถางไม่มีรูจะทำให้น้ำที่รดลงไปขังอยู่ในนั้น ไม่มีทางระบาย ก็จะส่งผลให้รากต้นไม้ที่แช่น้ำไว้นานๆ เน่าตายได้ แต่ก็ใช่ว่าห้ามใช้กระถางต้นไม้ที่ไม่มีรูเลย หากคุณต้องการใช้กระถางต้นไม้ที่ไม่มีรูระบายน้ำ ก็เพียงแค่รดน้ำทีละน้อยๆ และหมั่นสังเกตว่ามีน้ำขังอยู่หรือไม่ หากมีก็ให้เอียงกระถางเพื่อเทน้ำออกมา

วัสดุกระถางต้นไม้และถาดรองกระถาง
กระถางต้นไม้พลาสติก เป็นกระถางที่ทำมาจากพลาสติกเนื้อแข็งอย่างดี มีความแข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีขนาดและรูปแบบหลากหลายให้เลือก ราคาไม่แพง เป็นวัสดุที่ใช้งานง่าย และทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งการเลือกใช้กระถางต้นไม้พลาสติกจะช่วยรักษาความชื้นได้ดี ไม่มีปัญหาเรื่องตะไคร่น้ำ แต่ต้องระวังในเรื่องของการถ่ายเทอากาศ เนื่องจากเป็นวัสดุที่ไม่มีรูพรุน จึงแนะนำเลือกกระถางที่มีรูก้นกระถาง เพื่อป้องกันน้ำขังอยู่ภายใน

กระถางต้นไม้ดินเผา เป็นกระถางต้นไม้ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ทำมาจากดินเหนียวปั้นให้มีรูปทรงต่างๆ แล้วนำเข้าเตาเผา ทำให้เนื้อวัสดุมีรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก จึงสามารถระบายอากาศและน้ำได้ดี ช่วยลดโอกาสเกิดปัญหารากเน่าได้ แต่กระถางดินเผาจะค่อนข้างมีน้ำหนัก และแตกหักได้ง่าย ดังนั้นจึงควรใช้งานด้วยความระมัดระวัง

กระถางต้นไม้เซรามิก เป็นกระถางที่ทำมาจากดินเผาเช่นกัน แต่มีการเคลือบผิวอีกชั้นหนึ่ง ทำให้พื้นผิวด้านนอกมีความเรียบลื่น ทำความสะอาดง่าย ตะไคร่น้ำหรือคราบต่างๆ จึงเกาะได้ยาก ทำให้กระถางดูสะอาดอยู่เสมอ เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่สามารถเก็บความชื้นได้ดี และเหมาะสำหรับผู้ที่เน้นในเรื่องของความสวยงามเป็นหลัก

กระเบื้องแกรนิตโต้ (GRANITO TILE)
กระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นกระเบื้องเซรามิกชนิดหนึ่ง ที่เป็นหินแกรนิตเทียม มีส่วนผสมของหินแกรนิตจริงเข้าไปด้วย และนำไปผลอมผ่านการเผาด้วยความร้อนสูง จนมีคุณสมบัติแข็งแรงเทียบเท่ากับหินแกรนิต ซึ่งมีความแข็งแรงมากกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วๆไป

ลักษณะของกระเบื้องแกรนิตโต้ จะมีผิวที่มัมวาว เป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น ไม่มีการเคลือบสีใดๆ แข็งแรง และทนทานต่อการขีดข่วน เปอร์เซ็นต์การดูดซึมน้ำต่ำมาก เป็นกระเบื้องที่มีคุณสมบัติการรับน้ำหนักได้สูงเหมือนกับ กระเบื้องเกลซพอร์ซเลนด์ เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการสัญจรทั่วไป

ค่าความต้านทานความลื่น R

การจะเลือกกระเบื้องพื้นมาใช้งานไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกบ้าน จะต้องพิจารณาค่าความต้านทานความลื่นประกอบด้วย โดยระดับของค่า R จะมีค่าตั้งแต่ระดับ R9-R13 ยิ่งมีค่าสูงแสดงว่ากระเบื้องนั้นมีผิวที่หนืดและหยาบคล้ายกับกระดาษทราย ซึ่งคุณสามารถทดสอบด้วยการสัมผัสที่ผิวกระเบื้อง โดยเฉพาะกระเบื้องห้องน้ำ หรือบริเวณที่ต้องเปียกน้ำ จะต้องใช้กระเบื้องที่มีค่า R สูงเพื่อป้องกันการลื่นและการเกิดอุบัติเหตุ โดยการเลือกระดับค่า R ของกระเบื้องปูพื้นให้เหมาะสมกับการใช้งาน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก

R9 เป็นค่าตัวเลขต่ำสุดสำหรับการเลือกกระเบื้อง ที่มีความหนืดในการปูพื้นที่ 3-10 องศา สำหรับใช้ในพื้นที่สาธารณะโซนพื้นที่แห้ง เช่น ทางเข้า ทางเดิน บันได ห้องรับประทานอาหาร ห้องรับแขกโถงทางเดิน

R10 เป็นค่าสำหรับการเลือกใช้กระเบื้องในบริเวณที่ต้องเปียกน้ำ ในระดับความหนืดของพื้นที่ที่ 10-19 องศา เช่น ภายในห้องน้ำ โรงรถ ที่จอดรถ เป็นต้น

R11 เป็นค่าที่ระบุสำหรับความหนืดในระดับ 19-27 องศา เพื่อเลือกพื้นผิวสำหรับปูภายนอก เช่นบริเวณทางเข้า บันไดนอกตัวอาคาร ที่จอดรถนอกอาคาร เป็นต้น

R12 เป็นค่าความหนืดที่ 27-35 องศา และค่า R13 เป็นค่าความหนืดมากกว่า 35 องศา สำหรับเป็นเกณฑ์ในการนำมาใช้งานภายนอกที่มีความลาดชันมาก เช่น พื้นที่ลาดชันสูง พื้นที่ที่มีคราบไขมันและความมัน

สั่งซื้อ กระเบื้องแกรนิตโต้ ได้ที่ กระเบื้องแกรนิตโต้ Homepro

การเลือกซื้อกระถางต้นไม้ให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
กระถางต้นไม้และอุปกรณ์ (Planting Pots & Accessories) ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนรักการปลูกต้นไม้ เพราะการที่จะปลูกต้นไม้ให้โตขึ้นมาอย่างสวยงามนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่น้ำ แสงแดด และดินเพียงเท่านั้น แต่กระถางต้นไม้ รวมถึงอุปกรณ์กระถางต้นไม้ต่างๆ ทั้งถาดรองกระถางต้นไม้ และถาดใส่กระถางกระบองเพชร ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักปลูกมือใหม่หลายๆ คนมักมองข้าม เพราะส่วนใหญ่อาจจะมองแค่ความสวยงามเป็นหลัก แต่ลืมนึกถึงวัสดุ และความเหมาะสมกับต้นไม้ที่จะปลูก โดยสิ่งสำคัญอันดับแรกในการเลือกกระถางต้นไม้ คือควรเลือกระถางที่มีขนาดพอเหมาะกับขนาดของต้นไม้ และอย่าลืมเผื่อขนาดต้นไม้โตไว้เล็กน้อยด้วย เพราะหากกระถางขนาดใหญ่เกินไปก็จะทำให้เกิดความชื้นส่วนเกินในดินได้ หรือหากกระถางมีขนาดเล็กเกินไปก็จะเป็นการจำกัดการเจริญเติบโตของพืช และอีกสิ่งหนึ่งคือเรื่องของรูก้นกระถาง ซึ่งก็เปรียบเสมือนรูระบายน้ำ หากกระถางไม่มีรูจะทำให้น้ำที่รดลงไปขังอยู่ในนั้น ไม่มีทางระบาย ก็จะส่งผลให้รากต้นไม้ที่แช่น้ำไว้นานๆ เน่าตายได้ แต่ก็ใช่ว่าห้ามใช้กระถางต้นไม้ที่ไม่มีรูเลย หากคุณต้องการใช้กระถางต้นไม้ที่ไม่มีรูระบายน้ำ ก็เพียงแค่รดน้ำทีละน้อยๆ และหมั่นสังเกตว่ามีน้ำขังอยู่หรือไม่ หากมีก็ให้เอียงกระถางเพื่อเทน้ำออกมา

วัสดุกระถางต้นไม้และถาดรองกระถาง
กระถางต้นไม้พลาสติก เป็นกระถางที่ทำมาจากพลาสติกเนื้อแข็งอย่างดี มีความแข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีขนาดและรูปแบบหลากหลายให้เลือก ราคาไม่แพง เป็นวัสดุที่ใช้งานง่าย และทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งการเลือกใช้กระถางต้นไม้พลาสติกจะช่วยรักษาความชื้นได้ดี ไม่มีปัญหาเรื่องตะไคร่น้ำ แต่ต้องระวังในเรื่องของการถ่ายเทอากาศ เนื่องจากเป็นวัสดุที่ไม่มีรูพรุน จึงแนะนำเลือกกระถางที่มีรูก้นกระถาง เพื่อป้องกันน้ำขังอยู่ภายใน

กระถางต้นไม้ดินเผา เป็นกระถางต้นไม้ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ทำมาจากดินเหนียวปั้นให้มีรูปทรงต่างๆ แล้วนำเข้าเตาเผา ทำให้เนื้อวัสดุมีรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก จึงสามารถระบายอากาศและน้ำได้ดี ช่วยลดโอกาสเกิดปัญหารากเน่าได้ แต่กระถางดินเผาจะค่อนข้างมีน้ำหนัก และแตกหักได้ง่าย ดังนั้นจึงควรใช้งานด้วยความระมัดระวัง

กระถางต้นไม้เซรามิก เป็นกระถางที่ทำมาจากดินเผาเช่นกัน แต่มีการเคลือบผิวอีกชั้นหนึ่ง ทำให้พื้นผิวด้านนอกมีความเรียบลื่น ทำความสะอาดง่าย ตะไคร่น้ำหรือคราบต่างๆ จึงเกาะได้ยาก ทำให้กระถางดูสะอาดอยู่เสมอ เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่สามารถเก็บความชื้นได้ดี และเหมาะสำหรับผู้ที่เน้นในเรื่องของความสวยงามเป็นหลัก