ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

แท้งค์น้ำ หรือ ถังเก็บน้ำ (Water Tanks)
แท้งค์น้ำ หรือ ถังเก็บน้ำ มีหน้าที่สำหรับกักเก็บน้ำประปาไว้สำหรับใช้งานในกรณีที่น้ำประปาไม่ไหลหรือน้ำประปาไหลอ่อน เพราะน้ำเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นการเตรียมแท้งค์น้ำหรือถังเก็บน้ำสำรองเอาไว้ใช้งาน จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานทั้งด้านของการอุปโภคและบริโภคน้ำภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยในปัจจุบันแท้งค์น้ำและถังเก็บน้ำมีการผลิตออกมาในรูปแบบสำเร็จรูป และมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งการเลือกแท้งค์น้ำมาใช้งานที่บ้าน จะต้องพิจารณาในเรื่องวัสดุที่ใช้ผลิต ประเภทของถังเก็บน้ำ ปริมาณความจุของถังน้ำ รวมถึงเรื่องของราคาแท้งค์น้ำและความแข็งแรงทนทาน ที่จะต้องมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและใช้งานคู่บ้านไปอีกหลายปี

การติดตั้งถังเก็บน้ำ
ในปัจจุบันถังเก็บน้ำมีการติดตั้งให้เลือกใช้งานอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ ถังเก็บน้ำบนดิน และ ถังเก็บน้ำใต้ดิน ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน เช่น ถังเก็บน้ำบนดินสามารถดูแลรักษาได้ง่ายกว่า เคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่า และเหมาะสมกับบ้านที่มีพื้นที่ในการติดตั้ง แต่หากที่บ้านของคุณไม่มีพื้นที่เพียงพอในการติดตั้งบนดิน แนะนำให้เลือกใช้เป็นถังเก็บน้ำใต้ดินแทนได้ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นการฝังลงใต้ดิน จะส่งผลให้พื้นที่รอบบริเวณบ้านดูสวยงามและสามารถใช้พื้นที่ทำอย่างอื่นได้มากขึ้น แต่การติดตั้งถังน้ำใต้ดินนั้นมีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยาก และการบำรุงรักษารวมถึงเรื่องของการซ่อมแซมมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการเลือกถังเก็บน้ำและแท้งค์น้ำมาใช้งานที่บ้าน จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ในการติดตั้ง
ซึ่งถังเก็บน้ำและแท้งค์น้ำที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดปัจจุบัน ก็มีให้เลือกอยู่หลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น ถังเก็บน้ำ DOS, ถังเก็บน้ำ FLUSSO, ถังเก็บน้ำ SOMIC, ถังเก็บน้ำ WAVE ฯลฯ โดยแต่ละยี่ห้อก็มีแท้งค์น้ำให้เลือกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ถังเก็บน้ำสแตนเลสที่มีคุณสมบัติป้องกันสนิมนิยมติดตั้งบนดิน ถังเก็บน้ำพลาสติกมีให้เลือกทั้งแบบติดตั้งบนดินและใต้ดินที่มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน ถังเก็บน้ำคอนกรีต ถังเก็บน้ำโพลีเมอร์ชนิดทึบแสง ถังเก็บน้ำโพลีเมอร์ชนิดไม่ทึบแสง หรือถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส เป็นต้น โดยแท้งค์น้ำคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆมีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งราคาจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงทนทาน ขนาดแท้งค์น้ำ ปริมาณความจุของถังเก็บน้ำ ที่จะต้องมีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน

ปริมาณความจุของแท้งค์น้ำ
การเลือกถังเก็บน้ำหรือแท้งค์น้ำ จะต้องพิจารณากันเรื่องของขนาดและปริมาณความจุให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ซึ่งคุณสามารถคำนวนได้จากจำนวนสมาชิกภายในบ้านและลักษณะการใช้งาน โดยปกติทั่วไปแล้วค่าเฉลี่ยในการใช้น้ำประปาต่อวันจะอยู่ที่ 200 ลิตร/คน ก็ให้ทำการคูณจำนวนสมาชิกภายในครอบครัว พร้อมคูณจำนวนวันที่ต้องการสำรองน้ำไว้ใช้งานให้เพียงพอ ยกตัวอย่างเช่น บ้านของเรามีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 3 คน ก็จะต้องซื้อแท้งค์เก็บน้ำที่มีความจุ 200 x 3 = 600 ลิตร ซึ่งหากต้องการสำรองน้ำประมาณ 2 วันก็ควรซื้อถังเก็บน้ำที่มีความจุ 600 x 2 = 1,200 ลิตร เป็นต้น

มาตราฐานการเลือกปริมาณความจุถังเก็บน้ำ
จำนวนสมาชิก 4 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 800 ลิตร
จำนวนสมาชิก 5 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 1,000 ลิตร
จำนวนสมาชิก 6 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 1,200 ลิตร
จำนวนสมาชิก 7-8 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 1,600 ลิตร
จำนวนสมาชิก 9-10 คน = ถังเก็บน้ำความจุ 2,000 ลิตร

กระเบื้องปูพื้น (Flooring Tile)
กระเบื้องปูพื้น เป็นวัสดุยอดนิยมที่นำมาใช้ในการตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอก กระเบื้องปูพื้นเป็นตัวช่วยเพิ่มความสวยงามและโดดเด่นให้กับบ้านของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่การที่เราจะเลือกกระเบื้องปูพื้นไว้ใช้งานภายในบ้านจะต้องคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยควบคู่กับความสวยงาม ดังนั้นก่อนตั้งสินใจเลือกกระเบื้องพื้นมาตกแต่งบ้าน จะต้องพิจารณาถึงเรื่องของลักษณะการใช้งาน ความต้องการ และความชื่นชอบของผู้อยู่อาศัยเป็นองค์ประกอบหลัก เพื่อสร้างบ้านที่สวยงามตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
โดยสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกของกระเบื้องปูพื้นคือ การเลือกกระเบื้องพื้นให้เหมาะสมกับสถานที่ที่นำไปใช้งาน เพราะในแต่ละห้องภายในบ้าน จะมีการเลือกใช้กระเบื้องที่มีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น พื้นที่ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น เป็นพื้นที่ที่มีคนใช้งานมากที่สุด ควรเลือกกระเบื้องพื้นที่มีพื้นผิวมันวาวสวยงาม และทำความสะอาดง่ายไม่เก็บฝุ่นมาใช้งานจึงจะเหมาะสม แต่หากต้องการเลือกกระเบื้องพื้นสำหรับห้องน้ำ ที่เป็นพื้นที่ที่โดนน้ำอยู่ตลอด ควรเลือกกระเบื้องพื้นที่มีผิวหยาบ ป้องกันการลื่นได้ดี โดยความหนืดของกระเบื้องเราสามารถพิจารณาได้จากค่า R หรือ ค่าต้านทานความลื่น นั่นเอง โดยกระเบื้องพื้นมีหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้องแกรนิตโต้ ที่เป็นกระเบื้องเซรามิกเนื้อพอร์ซเลน ซึ่งผ่านขั้นตอนการเผาที่อุณหภูมิสูง จึงมีความแข็งแกร่ง ทนทาน และมีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ ซึ่งจะมีลวดลายหลากหลายตามแต่ละผู้ผลิต โดยพื้นผิวมีทั้งผิวด้าน กึ่งเงา และมันเงา
ค่าความต้านทานความลื่น R
การจะเลือกกระเบื้องพื้นมาใช้งานไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกบ้าน จะต้องพิจารณาค่าความต้านทานความลื่นประกอบด้วย โดยระดับของค่า R จะมีค่าตั้งแต่ระดับ R9-R13 ยิ่งมีค่าสูงแสดงว่ากระเบื้องนั้นมีผิวที่หนืดและหยาบคล้ายกับกระดาษทราย ซึ่งคุณสามารถทดสอบด้วยการสัมผัสที่ผิวกระเบื้อง โดยเฉพาะกระเบื้องห้องน้ำ หรือบริเวณที่ต้องเปียกน้ำ จะต้องใช้กระเบื้องที่มีค่า R สูงเพื่อป้องกันการลื่นและการเกิดอุบัติเหตุ โดยการเลือกระดับค่า R ของกระเบื้องปูพื้นให้เหมาะสมกับการใช้งาน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
R9 เป็นค่าตัวเลขต่ำสุดสำหรับการเลือกกระเบื้อง ที่มีความหนืดในการปูพื้นที่ 3-10 องศา สำหรับใช้ในพื้นที่สาธารณะโซนพื้นที่แห้ง เช่น ทางเข้า ทางเดิน บันได ห้องรับประทานอาหาร ห้องรับแขกโถงทางเดิน
R10 เป็นค่าสำหรับการเลือกใช้กระเบื้องในบริเวณที่ต้องเปียกน้ำ ในระดับความหนืดของพื้นที่ที่ 10-19 องศา เช่น ภายในห้องน้ำ โรงรถ ที่จอดรถ เป็นต้น
R11 เป็นค่าที่ระบุสำหรับความหนืดในระดับ 19-27 องศา เพื่อเลือกพื้นผิวสำหรับปูภายนอก เช่นบริเวณทางเข้า บันไดนอกตัวอาคาร ที่จอดรถนอกอาคาร เป็นต้น
R12 เป็นค่าความหนืดที่ 27-35 องศา และค่า R13 เป็นค่าความหนืดมากกว่า 35 องศา สำหรับเป็นเกณฑ์ในการนำมาใช้งานภายนอกที่มีความลาดชันมาก เช่น พื้นที่ลาดชันสูง พื้นที่ที่มีคราบไขมันและความมัน
ขนาดของกระเบื้องพื้น
ขนาดของกระเบื้อง เป็นอีกปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือกกระเบื้องปูพื้นด้วยเช่นกัน โดยตามร้านค้าที่จัดจำหน่ายกระเบื้องทั่วไป จะมีกระเบื้องให้เลือกซื้ออยู่ค่อนข้างหลากหลายขนาด ซึ่งการเลือกกระเบื้องพื้นขนาดเล็กหรือใหญ่มาใช้งาน ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่จะนำไปติดตั้ง เช่น ห้องน้ำขนาดเล็ก ควรเลือกกระเบื้องขนาดเล็กประมาณ 20x20 หรือ 30x30 ไว้ใช้งานจึงจะเหมาะสม เนื่องจากห้องที่มีขนาดเล็ก เมื่อนำกระเบื้องขนาดเล็กมาติดตั้งจะช่วยทำให้ห้องดูกว้างขวางมากขึ้น
แต่สำหรับห้องที่มีพื้นที่กว้าง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องรับแขก ควรเลือกกระเบื้องขนาดใหญ่มาใช้งาน เช่น กระเบื้องขนาด 40x40, 50x50 หรือ 60x60 จะมีความเหมาะสมมากกว่า และสามารถช่วยลดรอยต่อของกระเบื้องให้น้อยลง ทำให้พื้นห้องดูแนบเนียนสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม

แผ่นเครื่องกรองอากาศ แผ่นเครื่องฟอกอากาศอุปกรณ์ที่มองข้ามไม่ได้หากคุณเป็นคนรักสุขภาพ
หากบ้านไหนมี เครื่องกรองอากาศ หรือเครื่องปรับอากาศ คงอาจจะเคยเจอกับปัญหากลิ่นภายนอก หรือ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่มองไม่เป็นด้วยแสงปกติกระจายอยู่ทั่วทุกมุมห้อง ด้วยความที่เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศทำงานหนักเลยทำให้ แผ่นกรองอากาศ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการช่วยทำให้ห้องของคุณมีอากาศที่บริสุทธิ์ และทำให้สุขภาพปอด หรือสุขภาพทางเดินหายใจของคุณดีขึ้น
คือแผ่นกรองในเครื่องฟอกอากาศ หรือ เครื่องปรับอากาศ แอร์บ้าน ที่เรารู้จักกันนั้นเอง ซึ่งแผ่นกรองอากาศจะทำหน้าที่ดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ว่าจะเป็น ขนสัตว์ขนาดเล็ก ฝุ่นละออง ไรฝุ่น  เชื้อรา หรือสารอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เป็นต้น โดยเส้นใยที่เราเห็นกันในแผ่นกรองอากาศจะใช้เป็นระบบไฟฟ้าสถิตย์แบบถาวร หลังจากติดตั้ง หรือใช้งานแผ่นกรองอากาศแล้วจะทำให้อากาศภายในห้องรู้สึกสดว่าสดชื่นโปร่งสบายมากขึ้นนั่นเอง  ซึ่งแผ่นกรองในปัจจุบันนั้นถูกออกแบบมาให้สามารถติดตั้งได้กับ เครื่องฟอกอากาศทุกชนิด และสามารถทำความสะอาดได้ค่อนข้างง่ายอีกด้วย
ขั้นตอนง่ายๆ ในการติดตั้งแผ่นกรองอากาศ และข้อดีที่คุณต้องรู้
นำตาข่ายกรองออกมาทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นนำแผ่นกรองอากาศวางลงบนตาข่ายกรอง ทั้งนี้ทั้งนั้น  หลังจากวาง ใช้เทปกาวสองหน้าติดแผ่นกรองอากาศเข้ากับตาข่ายกรอง เพียงแค่นี้ก็ติดตั้งสำเร็จแล้ว สำหรับข้อดี อากาศภายในห้องดีขึ้น รู้สึกสะอาดและสดชื่นขึ้น และทำให้เราไม่ต้องล้างแอร์บ่อยๆ และทำให้ ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องฟอกอากาศบ่อยๆ

สีน้ำมัน สามารถนำมาทาบ้านได้จริงไหม
หลายๆ คนคงมีคำถามอยู่ในใจกันว่าสีน้ำมันนั้นสามารถนำมาทาอาคารบ้านเรือนได้จริงหรือไม่ ฉะนั้นก็ขอตอบตรงนี้ไว้เลยว่า "สีน้ำมัน (Enamel Paint)" สามารถนำมาทาบ้านได้จริง! แต่มันก็จะมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่บ้าง ซึ่งก่อนอื่นเลยคุณจำเป็นจะต้องรู้จักสีน้ำมันกันก่อน โดยสีน้ำมันทาบ้านเป็นสีที่ทาเเล้วจะให้ความมันเงาสวยงาม เป็นสีประเภทแอลคีดเรซิ่น (Alkyd Resin) ที่ไม่ทนต่อด่าง นั่นหมายความว่าหากเป็นวัสดุ หรือพื้นผิวที่มีค่าด่างสูงๆ จะไม่สามารถทาสีน้ำมันได้ อีกทั้งยังเป็นสีที่ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย จึงนิยมนำมาใช้งานในการทากับงานไม้ หรืองานเหล็ก เช่น ประตูรั้วบ้าน หรือราวโลหะ แต่ก็สามารถนำมาใช้ในงานทาพื้นคอนกรีตก็ได้เช่นกัน แต่สีน้ำมันจะมีความแห้งช้ามากกว่าสีทาอาคารประเภทอื่น เมื่อทำการทาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะต้องปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อการทา 1 รอบเพื่อให้แน่ใจว่ามันแห้งสนิทแล้ว ในส่วนของราคานั้นก็จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงนิยมนำมาใช้ทาตกแต่งเฉพาะส่วนมากกว่าที่จะทาอาคารบ้านเรือนทั้งหลัง

ข้อแนะนำสำหรับการใช้งานสีน้ำมันทาบ้าน
ด้วยความที่สีน้ำมันนั้นเป็นสีที่ไม่ทนต่อความเป็นด่าง อย่างเช่นผนังปูน แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แนะนำให้ทาสีรองพื้นแบบพิเศษให้มีความหนาที่พอดี ไม่บางจนเกินไปเพื่อปรับให้ความเป็นด่างบนผนังปูนลดลงก่อน จากนั้นก็รอให้แห้งสนิท แล้วจึงค่อยทาสีน้ำมันทับลงไป การทำแบบนี้จะช่วยให้สีน้ำมันยึดเกาะได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะหากคุณข้ามขั้นตอนนี้ไปสีน้ำมันที่ทาลงไปจะเป็นไข ย่น และไม่แห้ง รวมถึงพื้นผิววัสดุอื่นๆ ด้วย ทั้งพื้นผิวไม้ และพื้นผิวเหล็กที่จะต้องทาสีรองพื้นก่อน ซึ่งสีรองพื้นที่นิยมใช้กับพื้นผิวไม้คือ สีรองพื้นไม้กันเชื้อรา ส่วนสีรองพื้นที่นิยมใช้กับพื้นผิวเหล็ก นั่นก็คือสีรองพื้นกันสนิมนั่นเอง ในเรื่องของความคงทนของสีประเภทนี้ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ รวมถึงความเงาของฟิล์มสีด้วย ที่สำคัญสีน้ำมันจะต้องใช้น้ำมันสนเป็นตัวทำละลายในการผสมใช้งาน และไม่ควรใช้ทินเนอร์ 3A เด็ดขาด เพราะมันจะค่อนข้างเเรง จนอาจจะกัดฟิล์มสีน้ำมันให้เเตก หรือเป็นด่างได้

ถังขยะภายในต้องเลือกให้เหมาะกับพื้นที่ห้อง และการใช้งาน
ถังขยะภายใน (Indoor Garbage Bin) จัดว่าเป็นของใช้ภายในบ้านสำหรับการจัดเก็บ หรือรองรับเศษขยะทุกประเภทที่อยู่ภายในครัวเรือน หรือตามอาคารสำนักงานทั่วไป สามารถนำมาใช้จัดวางได้ตามมุมต่างๆ ตามความต้องการได้ ซึ่งถังขยะภายในบ้านที่มีให้เลือกใช้งานทั่วไปก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายขนาด โดยการเลือกขนาดของถังขยะมาใช้งานก็ต้องขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่จะนำไปใช้งาน เช่น หากต้องนำถังขยะไว้ใช้ภายในห้องครัว ก็ควรเลือกถังขยะแบบที่มีฝาปิดเพื่อป้องกันกลิ่นและสัตว์รบกวนมาใช้งาน หรือหากต้องการถังขยะไว้ใช้ภายในห้องนอนก็อาจจะเลือกถังขยะที่มีขนาดเล็กลงมาสักหน่อยก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว นอกจากนี้การใช้งานถุงขยะร่วมด้วยก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยรักษาความสะอาด และป้องกันเชื้อโรคที่เกิดจากสิ่งของที่คุณโยนทิ้งไป แถมยังช่วยให้คุณสามารถนำขยะภายในบ้านไปทิ้งไว้ภายนอกบ้านได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

เคล็ดลับการเลือกถังขยะภายนอกให้ใช้งานได้โดยไม่ส่งกลิ่นรบกวน
ถังขยะภายนอก หรือถังขยะใหญ่ (Outdoor Garbage Bin)เป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่สำหรับรองรับสิ่งปฏิกูลต่างๆ ทั้งเศษอาหาร ขยะ หรือสิ่งของที่ผู้คนไม่ต้องการแล้ว ซึ่งสามารถนำมาจัดวางได้แทบทุกสถานที่ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น หน้าอาคารบ้านเรือน สำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งโรงแรม เป็นต้น เนื่องจากถังขยะภายนอก หรือถังขยะใหญ่เป็นถังขยะที่มักจะเป็นที่รวบรวมของขยะภายในบ้าน รวมถึงขยะจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ทำให้มีขยะหลากหลายประเภทที่กำลังรอให้พนักงานเก็บขยะมาเก็บไป เพื่อให้ง่ายต่อการคัดแยกขยะของเจ้าหน้าที่ และลดการเผาขยะที่ไม่จำเป็น จึงได้มีการรณรงค์ให้มีการแยกขยะก่อนทิ้งลงถังขยะ ซึ่งถังขยะภายนอก หรือถังขยะใหญ่ก็ได้มีการผลิตออกมาให้มีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก นอกจากนั้นยังมีการผลิตออกมาหลากหลายสีตามประเภทของขยะเพื่อช่วยเสริมสร้างความมีระเบียบวินัยของผู้คนให้ทิ้งขยะได้อย่างถูกวิธีอีกด้วย ฉะนั้นไปดูกันเลยดีกว่าว่าถังขยะภายนอก หรือถังขยะใหญ่นั้นถูกแบ่งออกเป็นสีตามการใช้งานอย่างไรกันบ้าง

-ถังขยะสีเขียว เป็นถังขยะสำหรับรองรับขยะที่เน่าเสีย ย่อยสลายได้เร็ว และสามารถนำมาหมักเพื่อทำปุ๋ยได้ เช่น ผัก ผลไม้ เศษอาหาร หรือใบไม้ เป็นต้น

-ถังขยะสีเหลือง เป็นถังขยะสำหรับรองรับขยะที่สามารถนำมารีไซเคิลใหม่ หรือขายต่อได้ เช่น แก้ว กระดาษ พลาสติก หรือโลหะ เป็นต้น

-ถังขยะสีฟ้า เป็นถังขยะสำหรับรองรับขยะที่ย่อยสลายไม่ได้ ไม่เป็นพิษ หรือไม่คุ้มค่าต่อการนำไปรีไซเคิล เช่น พลาสติกห่อลูกอม ซองบะหมี่สำเร็จรูป ถุงพลาสติก โฟม หรือฟอล์ยที่เปื้อนอาหารแล้ว เป็นต้น

-ถังขยะสีแดง หรือถังขยะสีเทาฝาสีส้ม เป็นถังขยะสำหรับรองรับขยะที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อม เช่น หลอดไฟ ขวดยา ถ่านไฟฉาย กระป๋องสีสเปรย์ กระป๋องยาฆ่าแมลง หรือภาชนะบรรจุสารอันตรายต่างๆ เป็นต้น

ปั๊มน้ำ คืออะไร? ปั๊มน้ำแบบไหน? ปั๊มแรงดัน? เหมาะใช้งานกับบ้านคุณ
"ปั๊มน้ำ - ปั๊มน้ำอัตโนมัติ" Automatic water pump เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับงานระบบประปาที่ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำให้มีความเสถียรและแรงสม่ำเสมอในระหว่างการใช้น้ำ โดยยุคสมัยนี้แทบทุกบ้านต้องมีติดตั้งปั๊มน้ำและ "แทงค์น้ำ" นอกจากช่วยในเรื่องช่วยแรงดันน้ำที่สม่ำเสมอโดยเฉพาะการใช้น้ำหลายจุดพร้อมกันแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาเมื่อประสบปัญหาน้ำไม่ไหลหรือไหลอ่อน ปั๊มน้ำจะช่วยดึงน้ำออกจาก "ถังพักน้ำ" มาให้คุณใช้ได้อย่างไร้กังวลใจ
และหากบ้านคุณติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง "เครื่องทำน้ำอุ่น" หรือ "เครื่องทำน้ำร้อน" ก็ควรติดตั้งปั๊มน้ำและแทงค์น้ำควบคู่กัน เพื่อความแรงสม่ำเสมอระหว่างการใช้น้ำ และยังช่วยป้องกันระบบเครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อนเกิดชำรุดเสียหายได้ หากระบบการจ่ายน้ำไม่มีความเสถียร ซึ่งการติดตั้งปั๊มน้ำ ไม่สามารถต่อตรงกับท่อประปาสาธารณะได้ ต้องติดตั้งควบคู่กับแทงค์น้ำหรือถังเก็บน้ำ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและป้องกันผลกระทบการใช้น้ำส่วนรวมและความเสียหายของตัวเครื่องที่อาจตามมา
ปั๊มน้ำ มีกี่แบบ? ปั๊มน้ําแบบไหนดี?
ปั๊มน้ำอัตโนมัติ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
-ปั๊มแรงดันสูง หรือ ปั๊มน้ำถังกลม จะมีตัวถังแรงดันติดกับชุดมอเตอร์ แรงดันน้ำดี แต่ไม่คงที่และสม่ำเสมอหากเปิดใช้น้ำพร้อมกันหลายจุด ไม่เหมาะกับบ้านที่ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเครื่องทำน้ำร้อน หากน้ำขาดช่วงอุปกรณ์อาจทำอุณหภูมิไม่คงที่และระบบตัดการทำงานบ่อยๆ
-ปั๊มแรงดันคงที่ หรือ ปั๊มน้ำถังเหลี่ยม ส่วนใหญ่จะใช้ก๊าซไนโตรเจนบรรจุในถังโลหะขนาดเล็กภายในตัวเครื่องเรียกว่าถังไนโตรเจน ให้น้ำสม่ำเสมอทุกจุดการใช้งาน แต่น้ำไม่แรงเท่ากับปั๊มน้ำแรงดันสูง เหมาะกับบ้านที่ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเครื่องทำน้ำร้อน ซึงปั๊มน้ำแรงดันคงที่ราคาสูงกว่าปั๊มน้ำแรงดันสูง
-ปั๊มแรงดันคงที่อินเวอร์เตอร์ ปั๊มน้ำ Inverter ใช้ไมโครโปรเซสเซอร์ควบคุมการทำงานและความแม่นยำการจ่ายน้ำ ประหยัดพลังงาน 40% ทำงานเงียบสนิท โดยปั๊มน้ำอินเวอร์เตอร์ราคาสูงกว่าปั๊มน้ำประเภทอื่น (2-3 เท่า)
ปั๊มจุ่ม-ปั๊มแช่ หรือเรียกว่า ปั๊มไดโว่ มีทั้งแบบฐานเปิดและฐานปิด ใช้ระบบการดึงน้ำความแรงของน้ำขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ ปั๊มจุ่มปั๊มแช่มีอยู่ 2 แบบคือแบบมีลูกลอยกับไม่มีลูกลอย
-ปั๊มหอยโข่ง เป็นปั๊มจุ่มอีกประเภทที่นิยมใช้ตามบ้านเรือน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม เนื่องจากปั๊มมีแรงม้าสูงเหมาะใช้งานต่อเนื่อง ปั๊มน้ำราคาถูกกว่าปั๊มชนิดอื่นๆ ใช้งานง่ายและง่ายต่อการบำรุงรักษา

ถังปั่นและซักไม้ม็อบ ชุดถังปั่น ไม้ม็อบ ไม้ม็อบปั่นแห้ง
ไม้ม็อบและอุปกรณ์ (Mops & Accessories) เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดพื้นหลังจากขั้นตอนการกวาดพื้นบ้านที่จะช่วยทำให้บ้านของคุณสะอาดมากขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ในการถูพื้นก็จะประกอบไปด้วยไม้ม็อบหรือไม้ถูพื้น ไม้ม็อบปั่นแห้ง ถังปั่นหรือถังซักม็อบ และน้ำยาถูพื้น หรือหลายๆ คนอาจจะเลือกซื้อเป็นชุดถังปั่นที่จะมีทั้งไม้ม็อบและถังปั่นหมาดมาให้ครบเซตเลยก็ได้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำความสะอาดบ้านของคุณเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเมื่อก่อนคุณอาจจะต้องใช้มือในการบิดไม้ถูพื้นให้หมาดด้วยมือ ทำให้มือต้องสัมผัสกับน้ำสกปรกโดยตรง แต่ปัจจุบันมีการออกแบบชุดถังปั่นหมาดออกมาให้ใช้งาน ก็จะยิ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการปั่นหมาดไม้ถูพื้นได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้มือสัมผัสกับน้ำสกปรกแบบเดิม

การเลือกซื้อถังปั่นหมาดและไม้ม็อบ หรือไม้ม็อบปั่นแห้ง
เนื่องจากไม้ม็อบ และถังซักม็อบ รวมถึงไม้ม็อบปั่นแห้ง ก็มีให้เลือกใช้งานอยู่หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็อาจมีรูปแบบ คุณภาพ และวัสดุที่แตกต่างกันออกไป จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากที่สุด เพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน คุ้มค่า เพื่อให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างราบรื่น

เลือกวัสดุถังปั่นหมาดและไม้ม็อบที่แข็งแรงทนทาน เพราะปกติแล้วอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านจะถูกใช้งานค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะชุดถังปั่นที่จะต้องใช้แรงในการกดปั่นไม้ม็อบ ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกถังปั่นหมาดและไม้ม็อบที่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เช่น พลาสติก PP, พลาสติก ABS หรือสแตนเลส ที่โดดเด่นในเรื่องของความทนทาน ไม่แตกหักง่ายเมื่อโดนกระแทก

เลือกถังปั่นหมาดที่ใช้งานได้ทั้งปั่นแห้งและปั่นน้ำ เพราะการปั่นแห้ง จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ไม้ม็อบหมาดได้โดยไม่ต้องบิด ส่วนการปั่นน้ำจะอยู่ในส่วนเดียวกับถังน้ำ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยซักให้สิ่งสกปรกออกไปจากไม้ม็อบได้โดยที่ไม่ต้องใช้มือขยี้ให้เปลืองแรง

ตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติมของถังปั่นหมาด ไม่ว่าจะเป็น ถังปั่นมีหูจับ หรือถังปั่นมีล้อ ก็ล้วนแต่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะถังที่เต็มไปด้วยน้ำก็จะมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น หากมีหูหิ้วหรือล้อเสริมเข้ามา ก็จะช่วยทุ่นแรงให้เคลื่อนย้ายได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนั้นหากคุณต้องทำการเปลี่ยนน้ำเพื่อทำความสะอาดไม้ม็อบบ่อยๆ ก็แนะนำให้เลือกถังปั่นไม้ม็อบที่มีรูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำระบายออกได้โดยที่คุณไม่ต้องออกแรงเท

ปั๊มน้ำ คืออะไร? ปั๊มน้ำแบบไหน? ปั๊มแรงดัน? เหมาะใช้งานกับบ้านคุณ
"ปั๊มน้ำ - ปั๊มน้ำอัตโนมัติ" Automatic water pump เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับงานระบบประปาที่ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำให้มีความเสถียรและแรงสม่ำเสมอในระหว่างการใช้น้ำ โดยยุคสมัยนี้แทบทุกบ้านต้องมีติดตั้งปั๊มน้ำและ "แทงค์น้ำ" นอกจากช่วยในเรื่องช่วยแรงดันน้ำที่สม่ำเสมอโดยเฉพาะการใช้น้ำหลายจุดพร้อมกันแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาเมื่อประสบปัญหาน้ำไม่ไหลหรือไหลอ่อน ปั๊มน้ำจะช่วยดึงน้ำออกจาก "ถังพักน้ำ" มาให้คุณใช้ได้อย่างไร้กังวลใจ
และหากบ้านคุณติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง "เครื่องทำน้ำอุ่น" หรือ "เครื่องทำน้ำร้อน" ก็ควรติดตั้งปั๊มน้ำและแทงค์น้ำควบคู่กัน เพื่อความแรงสม่ำเสมอระหว่างการใช้น้ำ และยังช่วยป้องกันระบบเครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อนเกิดชำรุดเสียหายได้ หากระบบการจ่ายน้ำไม่มีความเสถียร ซึ่งการติดตั้งปั๊มน้ำ ไม่สามารถต่อตรงกับท่อประปาสาธารณะได้ ต้องติดตั้งควบคู่กับแทงค์น้ำหรือถังเก็บน้ำ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและป้องกันผลกระทบการใช้น้ำส่วนรวมและความเสียหายของตัวเครื่องที่อาจตามมา
ปั๊มน้ำ มีกี่แบบ? ปั๊มน้ําแบบไหนดี?
ปั๊มน้ำอัตโนมัติ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
-ปั๊มแรงดันสูง หรือ ปั๊มน้ำถังกลม จะมีตัวถังแรงดันติดกับชุดมอเตอร์ แรงดันน้ำดี แต่ไม่คงที่และสม่ำเสมอหากเปิดใช้น้ำพร้อมกันหลายจุด ไม่เหมาะกับบ้านที่ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเครื่องทำน้ำร้อน หากน้ำขาดช่วงอุปกรณ์อาจทำอุณหภูมิไม่คงที่และระบบตัดการทำงานบ่อยๆ
-ปั๊มแรงดันคงที่ หรือ ปั๊มน้ำถังเหลี่ยม ส่วนใหญ่จะใช้ก๊าซไนโตรเจนบรรจุในถังโลหะขนาดเล็กภายในตัวเครื่องเรียกว่าถังไนโตรเจน ให้น้ำสม่ำเสมอทุกจุดการใช้งาน แต่น้ำไม่แรงเท่ากับปั๊มน้ำแรงดันสูง เหมาะกับบ้านที่ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเครื่องทำน้ำร้อน ซึงปั๊มน้ำแรงดันคงที่ราคาสูงกว่าปั๊มน้ำแรงดันสูง
-ปั๊มแรงดันคงที่อินเวอร์เตอร์ ปั๊มน้ำ Inverter ใช้ไมโครโปรเซสเซอร์ควบคุมการทำงานและความแม่นยำการจ่ายน้ำ ประหยัดพลังงาน 40% ทำงานเงียบสนิท โดยปั๊มน้ำอินเวอร์เตอร์ราคาสูงกว่าปั๊มน้ำประเภทอื่น (2-3 เท่า)
ปั๊มจุ่ม-ปั๊มแช่ หรือเรียกว่า ปั๊มไดโว่ มีทั้งแบบฐานเปิดและฐานปิด ใช้ระบบการดึงน้ำความแรงของน้ำขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์ ปั๊มจุ่มปั๊มแช่มีอยู่ 2 แบบคือแบบมีลูกลอยกับไม่มีลูกลอย
-ปั๊มหอยโข่ง เป็นปั๊มจุ่มอีกประเภทที่นิยมใช้ตามบ้านเรือน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม เนื่องจากปั๊มมีแรงม้าสูงเหมาะใช้งานต่อเนื่อง ปั๊มน้ำราคาถูกกว่าปั๊มชนิดอื่นๆ ใช้งานง่ายและง่ายต่อการบำรุงรักษา

ถังปั่นและซักไม้ม็อบ ชุดถังปั่น ไม้ม็อบ ไม้ม็อบปั่นแห้ง
ไม้ม็อบและอุปกรณ์ (Mops & Accessories) เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดพื้นหลังจากขั้นตอนการกวาดพื้นบ้านที่จะช่วยทำให้บ้านของคุณสะอาดมากขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ในการถูพื้นก็จะประกอบไปด้วยไม้ม็อบหรือไม้ถูพื้น ไม้ม็อบปั่นแห้ง ถังปั่นหรือถังซักม็อบ และน้ำยาถูพื้น หรือหลายๆ คนอาจจะเลือกซื้อเป็นชุดถังปั่นที่จะมีทั้งไม้ม็อบและถังปั่นหมาดมาให้ครบเซตเลยก็ได้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำความสะอาดบ้านของคุณเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเมื่อก่อนคุณอาจจะต้องใช้มือในการบิดไม้ถูพื้นให้หมาดด้วยมือ ทำให้มือต้องสัมผัสกับน้ำสกปรกโดยตรง แต่ปัจจุบันมีการออกแบบชุดถังปั่นหมาดออกมาให้ใช้งาน ก็จะยิ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการปั่นหมาดไม้ถูพื้นได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้มือสัมผัสกับน้ำสกปรกแบบเดิม

การเลือกซื้อถังปั่นหมาดและไม้ม็อบ หรือไม้ม็อบปั่นแห้ง
เนื่องจากไม้ม็อบ และถังซักม็อบ รวมถึงไม้ม็อบปั่นแห้ง ก็มีให้เลือกใช้งานอยู่หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็อาจมีรูปแบบ คุณภาพ และวัสดุที่แตกต่างกันออกไป จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากที่สุด เพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน คุ้มค่า เพื่อให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างราบรื่น

เลือกวัสดุถังปั่นหมาดและไม้ม็อบที่แข็งแรงทนทาน เพราะปกติแล้วอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านจะถูกใช้งานค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะชุดถังปั่นที่จะต้องใช้แรงในการกดปั่นไม้ม็อบ ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกถังปั่นหมาดและไม้ม็อบที่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เช่น พลาสติก PP, พลาสติก ABS หรือสแตนเลส ที่โดดเด่นในเรื่องของความทนทาน ไม่แตกหักง่ายเมื่อโดนกระแทก

เลือกถังปั่นหมาดที่ใช้งานได้ทั้งปั่นแห้งและปั่นน้ำ เพราะการปั่นแห้ง จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ไม้ม็อบหมาดได้โดยไม่ต้องบิด ส่วนการปั่นน้ำจะอยู่ในส่วนเดียวกับถังน้ำ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยซักให้สิ่งสกปรกออกไปจากไม้ม็อบได้โดยที่ไม่ต้องใช้มือขยี้ให้เปลืองแรง

ตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติมของถังปั่นหมาด ไม่ว่าจะเป็น ถังปั่นมีหูจับ หรือถังปั่นมีล้อ ก็ล้วนแต่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะถังที่เต็มไปด้วยน้ำก็จะมีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น หากมีหูหิ้วหรือล้อเสริมเข้ามา ก็จะช่วยทุ่นแรงให้เคลื่อนย้ายได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนั้นหากคุณต้องทำการเปลี่ยนน้ำเพื่อทำความสะอาดไม้ม็อบบ่อยๆ ก็แนะนำให้เลือกถังปั่นไม้ม็อบที่มีรูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำระบายออกได้โดยที่คุณไม่ต้องออกแรงเท

ไส้กรองเครื่องกรองน้ำ อุปกรณ์ในเครื่องกรองน้ำที่คุณต้องดูแล
เครื่องกรองน้ำ นั้นเป็นอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าแทบจะค่อนข้างสำคัญกับทุกครัวเรือนในปัจจุบัน เพราะสามารถเป็นตัวช่วยในการป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่างๆ ที่แฝงมากับน้ำประปาที่เราใช้กันอยู่ทุกวันได้ เนื่องจากท่อน้ำประปานั้นอาจจะมีการรั่วไหลทำให้น้ำที่ไหลออกมานั้นไม่สะอาด สำหรับการใช้เครื่องกรองน้ำนั้นก็ต้องมาควบคู่กับ ไส้เครื่องกรองน้ำ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเครื่องกรองน้ำเลยก็ได้เพราะจะทำให้น้ำมีความใสและสะอาดมากขึ้น โดยกระบวนการของไส้เครื่องกรองน้ำนั้นจะคอยทำหน้าที่ดักจับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่าง ๆ ในระบบน้ำประปา
หากพูดถึงไส้กรองเครื่องกรองน้ำในปัจจุบันนั้นมีให้ผลิตมาให้เราเลือกกันหลากหลายแบรนด์มากมาย ทำให้มีตัวเลือกในท้องตลาดค่อนข้างเยอะ แล้วเราจะมีวิธีการเลือกไส้เครื่องกรองน้ำอย่างไรดีให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
ประเภทของไส้เครื่องกรองน้ำที่เราควรรู้เบื้องต้น
-ไส้เครื่องกรองน้ำคาร์บอน ไส้กรองน้ำชนิดนี้จะทำมาจากสารคาร์บอนเป็นหลัก เป็นไส้กรองที่มีความสำคัญและขาดไม่ได้เลยในเครื่องของกรองน้ำของเรา เนื่องจากสามารถช่วยกรองสิ่งสกปรกต่างๆ ได้แล้ว ยังช่วยดูดซับสารพิษและสารเคมีที่แฝงตัวมากับน้ำด้วย ทั้งนี้อาจจะทำให้เราสามารถช่วยลดกลิ่นและสีของคลอรีนในน้ำได้อีกด้วย
-ไส้เครื่องกรองน้ำหยาบ ไส้กรองชนิดนี้ทำมาจากเส้นใยขนาดเล็กที่มาพันกันเป็นเส้นในขนาดเล็กมาพันกันเป็นตาข่ายเพื่อให้ช่วยดักจับสารต่างๆ ได้แก่ กรวด หิน ดิน โคลนและทราย เป็นการกรองน้ำลำดับต้นๆ ดังนั้นจึงมีความสามารถในการกรองอนุภาคขนาด 1-10 ไมครอน ขนาดส่วนใหญ่ที่เจอและสามารถซื้อได้ง่ายจะเป็นขนาด 5 ไมครอน ซึ่งราคาไม่แพงมากนัก แต่ไส้กรองชนิดนี้จะอายุค่อนข้างสั้น ประมาณ 3-6 เดือนเท่านั้น ทำให้เราต้องคอยเปลี่ยนไส้กรองอยู่บ่อยๆ
-ไส้เครื่องกรองน้ำเซรามิก ผลิตจากเซรามิกนำมาอัดเป็นแท่ง มีช่องว่างขนาด 0.1 - 0.3 ไมครอน จึงสามารถกรองเชื้อโรคต่างๆได้ แต่จะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไส้กรองชนิดอื่นๆ อายุการใช้งานนั้นสามารถใช้ได้ตั้งแต่แต่ 1 ปีขึ้นไป สามารถล้างทำความสะอาดได้ ทำให้เราไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยๆ
ไส้เครื่องกรองน้ำแบบเมมเบรน เป็นไส้กรองที่มีราคาสูงที่สุด ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ สามารถกรองสิ่งสกปรกที่มีอนุภาคเล็กถึงได้ถึง 0.0001 ไมครอน สามารถกรองได้ทั้งสารอินทรีย์ เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียและไวรัสต่างๆได้ ทั้งนี้ยังเปลี่ยนน้ำเค็มหรือน้ำสกปรกให้กลับมา มีสภาพเป็นกลางสามารถใช้อุปโภคและบริโภคได้ ทำให้ได้น้ำที่ใสสะอาดมีคุณภาพ เป็นไส้กรองน้ำของระบบที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตน้ำสำหรับดื่มแบบขวด ยาและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกด้วย มีอายุการใช้งานยาวนานมาก ๆ ประมาณ 1 - 2 ปี โดยขึ้นอยู่สภาพน้ำและการดูแลรักษา

ดัมเบล อุปกรณ์ยกน้ำหนักยอดฮิตติดเทรนด์ทุกสมัย
ดัมเบล (Dumbbell) เป็นอุปกรณ์ยกน้ำหนักและฟรีเวทสุดฮิตสำหรับการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพื่อกระชับสัดส่วน และลดไขมันส่วนเกิน สามารถนำไปประยุกต์ออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ โดยลักษณะของดัมเบลจะคล้ายกับบาร์เบล แต่มีขนาดของแท่งจับที่สั้นกว่ามาก ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ดัมเบล 2 ชิ้นในการยกขึ้น-ลงพร้อมกัน หรือสลับซ้าย-ขวาไปมา ซึ่งแต่เดิมหลายๆ ท่านอาจคิดว่าดัมเบลเหมาะสำหรับผู้ชายเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วผู้หญิงก็สามารถใช้งานได้ด้วยเช่นกัน แต่อาจจะต้องเลือกใช้ดัมเบลในน้ำหนักที่น้อยลง เพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ มีความสวยงามตามโครงสร้างร่างกายที่เหมาะสม และจุดเด่นที่ทำให้ดัมเบล กลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายนั่นก็คือ การที่คุณสามารถยกทีละข้างได้ ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อแขนแข็งแรงไม่เท่ากัน เพราะคุณสามารถใช้แขนข้างที่แข็งแรงน้อยกว่ายกดัมเบลให้มากกว่าอีกข้างก็ได้ นอกจากนี้การที่ต้องยกด้วยแขนคนละข้าง ทำให้คุณต้องออกแรงกลางลำตัวมากขึ้นเพื่อทรงตัวไม่ให้ยืนเอนไปมา ซึ่งหากคุณมีการโฟกัสได้อย่างถูกต้อง คุณอาจได้กล้ามเนื้อท้องมาเป็นของแถมอีกด้วย

การเลือกดัมเบล และท่าออกกำลังกาย
หลายท่านอาจคิดว่าดัมเบลจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ Fixed Dumbbells ที่ไม่สามารถปรับน้ำหนักได้ และ Adjustable Dumbbells ที่สามารถปรับน้ำหนักได้

Fixed Dumbbells เป็นดัมเบล ที่ไม่สามารถปรับน้ำหนักได้ ซึ่งเป็นประเภทที่พบเห็นได้บ่อย และนิยมใช้งานกันทั่วไป โดยดัมเบลแบบ Fixed Dumbbells เหมาะที่จะใช้ในการฝึกแบบ Drop Sets หรือการฝึกท่าออกกำลังกายโดยเริ่มจากดัมเบลที่หนักไปหาเบาโดยไม่พัก แถมยังสามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 แบบ คือ ดัมเบลแบบหัวเหลี่ยม (Hex Dumbbells) จะช่วยให้คุณทรงตัวได้ดี เพราะมุมจะเกาะกับพื้นไม่กลิ้งไปกลิ้งมา ส่วนดัมเบลแบบหัวกลม (Round Dumbbells)จะกลิ้งไปกลิ้งมาได้ง่าย จึงจำเป็นต้องมีที่วาง หรือ Rack เฉพาะด้วย

Adjustable Dumbbells เป็นดัมเบล ที่สามารถปรับเปลี่ยนน้ำหนักตามความเหมาะสมของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ ซึ่งข้อดีคือประหยัดพื้นที่ เพราะมีแค่ตัวแกนกลางของดัมเบล และแผ่นเหล็กก็สามารถออกกำลังกายได้แล้ว โดยดัมเบลแบบ Adjustable Dumbbells จะมีอยู่ 2 แบบเช่นกัน นั่นก็คือ ดัมเบลแบบ Loadable ที่คุณจะต้องหมุนตัวยึดออก แล้วเอาแผ่นเหล็กใส่เข้าไปเพื่อให้ได้น้ำหนักที่ต้องการ ส่วนอีกแบบคือ ดัมเบลแบบ Selector Pin ที่จะยิ่งช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่ เพราะมันสามารถปรับขนาดได้เอง เพียงแค่เลือกขนาด หรือกดตัว Pin เท่านั้นเอง

ประโยชน์ที่มากมายของการเลือกใช้งานเสื่อโยคะ
ด้วยความที่เทรนด์การรักษาสุขภาพในปัจจุบันก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มให้ความสนใจกับการออกกำลังกายในประเภทต่างๆ กันมากขึ้น รวมไปถึงการเล่นโยคะและพิลาทิสด้วยเช่นกัน เนื่องจากมันเป็นกีฬาที่ทำได้ง่าย และไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ แต่สามารถเพิ่มสมาธิ ช่วยผ่อนคลายจิตใจ และฟื้นฟูความสมดุลให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นโยคะและพิลาทิส นั่นก็คือ "เสื่อโยคะ (Yoga Mat)" หรือเสื่อแพลงค์ เนื่องจากอุปกรณ์ออกกำลังกายชิ้นนี้จะช่วยรองรับแรงกดของน้ำหนักตัวที่ลงสู่พื้น ไม่ว่าจะเป็น คอ หลัง เอว สะโพก หรือไหล่ เพื่อให้คุณสามารถวาดลวดลายโยคะในท่าทางต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้คุณเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ถึงแม้ว่าเสื่อโยคะจะมีพื้นผิวที่เรียบสม่ำเสมอ แต่เสื่อโยคะนั้นให้การยึดเกาะที่มีประสิทธิภาพอย่างมากเพื่อป้องกันการบาดเจ็บระหว่างการเล่น จึงถือได้ว่าเสื่อโยคะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานอันดับต้นๆ ที่ผู้เล่นควรให้ความสำคัญ ดังนั้นคุณควรเลือกซื้อเสื่อโยคะที่ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย

วิธีการเลือกซื้อเสื่อโยคะ หรือเสื่อแพลงค์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เสื่อโยคะ หรือเสื่อแพลงค์ที่วางจำหน่ายในปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ แตกต่างกันทั้งในเรื่องของคุณสมบัติ ขนาด และความหนา ฉะนั้นคุณจึงจำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับสไตล์การเล่นโยคะ ทั้งในแง่ของสรีระส่วนบุคคล และท่าทางที่ต้องใช้ในการฝึก

ประเภทของการเล่นโยคะ โดยปกติแล้วการเล่นโยคะ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ Static Yoga หรือโยคะแบบหยุดนิ่งที่เน้นการทำสมาธิ และฝึกฝนการหายใจเป็นหลัก ไม่ได้มีการเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ จึงทำให้คุณอาจจะต้องค้างอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน จึงเหมาะกับการใช้งานเสื่อโยคะแบบหนาตั้งแต่ 6 มม. ขึ้นไป เพื่อให้รองรับแรงกดได้อย่างเต็มที่ และอีกประเภทหนึ่งคือ Dynamic Yoga หรือโยคะแบบเคลื่อนไหวที่เน้นท่าทางในการออกกำลังกาย จึงเหมาะที่จะใช้งานเสื่อโยคะแบบที่พื้นผิวไม่ลื่น และสามารถยึดเกาะกับพื้นได้เป็นอย่างดี

วัสดุของเสื่อโยคะ หรือเสื่อแพลงค์ ควรพิจารณาในเรื่องความแข็งแรงทนทาน และความสะดวกในการดูแลรักษาควบคู่กันไป โดยส่วนใหญ่เสื่อโยคะจะผลิตมาจากวัสดุ 3 ประเภทหลักๆ คือ

-เสื่อโยคะ PVC หรือเสื่อโยคะโพลีไวนิลคลอไรด์ เป็นเสื่อโยคะที่มีน้ำหนักกำลังพอดี มีความสามารถในการยึดจับสูง อีกทั้งยังมีความทนทานสูง สามารถนำไปใช้เล่นโยคะได้หลากหลายสไตล์ แต่ไม่ควรใช้น้ำในการทำความสะอาด เนื่องจากเป็นวัสดุที่ไม่ทนน้ำเท่าไรนัก

-เสื่อโยคะ TPE หรือเสื่อโยคะยางสังเคราะห์ เป็นเสื่อโยคะที่มีผิวสัมผัสที่นุ่ม มีความยืดหยุ่น คืนตัวได้ดี และมีน้ำหนักเบา ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบเน้นการพกพา แต่ด้วยความที่ TPE จะไวต่ออุณหภูมิสูง จึงไม่แนะนำให้ใช้งานในสถานที่ที่มีอากาศร้อน

-เสื่อโยคะยางพารา เป็นเสื่อโยคะที่มีความนุ่ม และมีความแข็งแรงทนทานมาก แถมยังมีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม แต่จะมีน้ำหนักมากกว่าเสื่อโยคะประเภทอื่น จึงไม่แนะนำให้ใช้งานสำหรับการพกพา

สีสเปรย์ ใช้งานอย่างไรให้ปลอดภัย
หากพูดถึง สีสเปรย์ (Spray Paint) หรืออีกชื่อที่หลายๆ คนเรียกกันอย่างคุ้นหูว่า สีพ่น สีลักษณะแบบนี้จะถูกบรรจุอยู่ในภาชนะใต้แรงดันก๊าซ อย่างเช่น ขวดสเปรย์ หรือกระป๋องสี ในส่วนของการใช้งานสีสเปรย์นั้น เวลาที่คุณทำการกดเปิดออกมาใช้งาน ตัวเนื้อสีจะถูกปล่อยออกมาจากกระป๋อง โดยแรงดันของก๊าซจะดันเนื้อสีขึ้นมาผ่านหัวฉีดสเปรย์ ทำให้สีที่ออกมามีลักษณะเป็นละออง และกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการใช้งานสีสเปรย์หรือสีพ่นนั้นก็มีข้อควรระวังอยู่บ้าง และถือได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เพราะสีสเปรย์จะมีความไวไฟมาก จึงไม่ควรนำไปใช้งานใกล้ไฟเป็นอันขาด และยังประกอบไปด้วยสารพิษ และสารก่อมะเร็งหลายชนิด ฉะนั้นคุณควรสวมเครื่องมือป้องกันทุกครั้งก่อนใช้งาน เนื่องจากสารบางชนิดอย่างไซลีน สามารถเข้าสู่ร่างกายไปสะสมในกระแสเลือด และทำให้เกิดอันตรายได้ ในปัจจุบันสีสเปรย์ที่จำหน่ายตามท้องตลาดก็มีอยู่หลากหลายชนิด และคุณสามารถหาซื้อสีสเปรย์คุณภาพดีได้ที่ HomePro

สีสเปรย์อเนกประสงค์ สีสเปรย์รองพื้น สีสเปรย์เคลือบเงาพิเศษ
สีสเปรย์ มีหลายชนิด และมีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนประกอบ ที่เหมือนกันคือ ตัวทำละลาย แต่ส่วนที่ทำให้แตกต่างกันคือ สารที่ทำให้เกิดสี โดยทั่วไปมักพบสารที่ทำให้เกิดสี ได้แก่ เม็ดสีสังเคราะห์ เป็นชนิดที่ใช้ส่วนผสมของเม็ดสีที่มีโทนสีทั่วไปเป็นหลัก เช่น สีเหลือง สีแดง สีเขียว สีดำ หรือสีขาว เป็นต้น และผงโลหะสีต่างๆ เป็นชนิดที่ใช้ผงโลหะผสม ทำให้เกิดโทนสีโลหะ เช่น สีอลูมิเนียม สีทอง สีตะกั่ว สีโครเมียม หรือสีเหล็ก เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถแยกสีสเปรย์ได้เป็นอีก 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ

-สีสเปรย์อเนกประสงค์ หรือสีสเปรย์สำหรับงานพ่น ใช้งานได้ภายนอกและภายใน สามารถยึดเกาะได้ดีบนทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็น ไม้ พลาสติก ไวนิล หนัง เหล็ก หรือสเตนเลส เป็นต้น

-สีสเปรย์รองพื้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของฟิล์มสีกับพื้นผิวต่างๆ โดยจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เช่น สีสเปร์ยรองพื้นป้องกันการเกิดสนิมบนพื้นผิวโลหะ หรือสีสเปรย์รองพื้นป้องกันความชื้นบนพื้นผิวไม้ เป็นต้น

-สเปรย์เคลือบเงาพิเศษ เป็นสีสเปรย์ที่ส่วนใหญ่นำมาใช้ในงานเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น สีสเปรย์ลายหิน เป็นสเปรย์เคลือบเงาพิเศษสำหรับสร้างลวดลายที่สวยงาม สีสเปรย์แลคเกอร์ เป็นสเปรย์เคลือบเงาพิเศษสำหรับเพิ่มความเงางามเป็นประกายให้กับชิ้นงาน และสีสเปรย์สะท้อนแสงที่เหมาะสำหรับใช้พ่นทำเครื่องหมาย หรือสัญญาณความปลอดภัย เป็นต้น

สุขภัณฑ์อัตโนมัติ (Automatic Toilets)
สุขภัณฑ์อัตโนมัติ หรือ ชักโครกเซ็นเซอร์ เป็นโถสุขภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ระบบการทำงานเป็นระบบไฟฟ้าที่สามารถปรับการใช้งานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบการชำระล้าง ทั้งถ่ายหนักและเบา ที่คุณสามารถปรับทิศทางของน้ำได้ตามสะดวก ระบบชำระล้างนี้จะเหมือนกับสายฉีดชำระที่ใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ยังมีระบบเป่าลมหลังจากชะล้างเพื่อลดความอับชื้นได้อีกด้วย รวมถึงระบบอุ่นฝารองชักโครก ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายเมื่อนั่งสัมผัสลงบนฝารองนั่งชักโครก เรียกได้ว่าสุขภัณฑ์อัตโนมัติ หรือ ส้วมไฟฟ้า จะเข้ามาช่วยอัพเกรดความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้อย่างดีเยี่ยม
โดยชักโครกเซ็นเซอร์ ที่มีวางจำหน่ายปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้งานอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน คือ สุขภัณฑ์อัตโนมัติที่มีระบบในตัวเอง ทุกอย่างพร้อมติดตั้งใช้งาน เหมาะสำหรับบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่หรือคนที่คิดจะเปลี่ยนชักโครกที่บ้าน สามารถนำชักโครกอัตโนมัติไปติดตั้งใช้งานได้เลยทันที แต่หากคุณไม่ได้มีแผนที่จะเปลี่ยนชักโครกที่บ้าน ก็สามารถเลือกเป็นฝารองนั่งชักโครกเซ็นเซอร์มาติดตั้งทดแทนได้แช่นกัน ลักษณะการใช้งานก็จะมีความคล้ายกับชักโครกอัตโนมัติ แต่ต่างกันตรงที่การติดตั้ง สำหรับฝารองนั่งอัตโนมัติทำเพียงแค่ติดตั้งร่วมกับชักโครกก็สามารถใช้งานได้เลย ไม่จำเป็นต้องรื้อชักโครกใหม่
ชักโครกเซ็นเซอร์รุ่นแนะนำ
- สุขภัณฑ์อัตโนมัติ MOYA 2013 6L สีขาว โดดเด่นด้วยนวัตกรรมสุดล้ำของสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ จาก MOYA ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์สวยงาม หรูหรา และใช้งานง่ายด้วยรีโมทคอนโทรล คือทั้งยังนั่งสบายด้วยฝารองนั่งปรับอุณหภูมิได้ รูปทรงโค้งมน รองรับทุกสรีระของผู้ใช้งาน มีระบบเป่าลมและสามารถปรับอุณหภูมิน้ำได้ 6 ระดับ พร้อมระบบหัวฉีดชำระแบบด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อสุขอนามัยที่ดีและให้คุณสัมผัสความสบายในการใช้สุขภัณฑ์ที่มากยิ่งขึ้น สั่งซื้อได้ที่ > ชักโครกเซ็นเซอร์ MOYA 2013 6L
- สุขภัณฑ์อัตโนมัติ AMERICAN STANDARD 2026-WT-9 6L สีขาว นิยามของสุขภัณฑ์อัตโนมัติเจอเนอเรชั่นใหม่ ที่มากกว่าความสะอาด จาก อเมริกันสแตนดาร์ด ชิ้นงานผ่านออกแบบ Full skirt design สะท้อนภาพลักษณ์ที่สวยงาม สมบูรณ์แบบ พร้อมฝารองนั่งแบบหน้ายาว นั่งสบาย เปิด-ปิดนุ่มนวล ผ่านกระบวนการผลิตจาก Aqua Ceramic ที่ได้คุณภาพ ผิวหน้าเคลือบสาร Anti-Bacteria เพื่อป้องกันเชื้อโรคและสิ่งสกปรก มาพร้อมประสิทธิภาพการชำระล้างที่ดีเยี่ยมด้วยระบบ Siphon Max ฟลัชเดียวทรงพลัง ชำระล้างได้อย่างสะอาดหมดจด และยังใช้งานง่ายด้วยรีโมทคอนโทรล ตอบโจทย์ Lifestyle คนรุ่นใหม่ ชื่นชอบเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย สั่งซื้อได้ที่ > สุขภัณฑ์อัตโนมัติ AMERICAN STANDARD 2026-WT-9 6L

เครื่องมือช่างและฮาร์ดแวร์ (Power Tools)
เครื่องมือช่าง เป็นอุปกรณ์งานช่างสำหรับงานซ่อมแซมทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกบ้านจะต้องมีไว้ใช้งานเบื้องต้นใช้สอยตามสถานการณ์ เครื่องมือช่างเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ชื่นชอบงาน DIY หรืองานซ่อมแซมแบบง่ายๆ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลาได้มากยิ่งขึ้น โดย เครื่องมือช่างประจำบ้านที่ควรมีติดบ้านไว้ใช้งาน ก็มีอยู่หลากหลายประเภทด้วยกัน ดังนั้นเครื่องมือช่างประเภทไหนที่คู่ควรมีเก็บไว้ใช้งานภายในบ้านบ้าง ? มาดูกัน !
ค้อน เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่เชื่อว่าทุกบ้านจะต้องมีไว้ใช้งานอย่างแน่นอน ซึ่งค้อนที่มีวางจำหน่ายโดยทั่วไปแล้วมีให้เลือกอยู่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ค้อนหัวกลม ค้อนไม้ ค้อนยาง ค้อนปอนด์ ค้อนช่างทอง ค้อนเคาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค้อนประเภทค้อนหงอน เป็นค้อนที่ควรมีติดบ้านไว้ใช้งาน เพราะสามารถใช้ได้ทั้งงานตอก งานทุบ และส่วนหัวยังสามารถใช้เป็นง่ามสำหรับแงะ ตะปู ได้อีกด้วย
ไขควง เป็นเครื่องมือช่าง อีกประเภทที่ควรมีไว้ใช้งานที่บ้านเป็นอุปกรณ์งานช่างใช้สำหรับการขันน็อต ขันสกรูให้แน่นและคลายสกรูออก ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ต่างๆภายในบ้าน ต้องมีน็อตสำหรับยึดติดส่วนประกอบอย่างแน่นอน ซึ่งในบางครั้งเราก็จะเป็นที่จะต้องแกะส่วนประกอบเหล่านั้นออกมาเพื่อซ่อมแซมหรือทำความสะอาด ตัวอย่างเช่น การทำความสะอาดพัดลม เป็นต้น ดังนั้นไขควงจึงเป็นเครื่องมือช่างที่ใช้ขันน็อตออกและเมื่อทำความสะอาดเสร็จก็ใช้ไขควงขันน็อตประกอบส่วนต่างๆเข้าด้วยกันดังเดิม โดยใขไควงที่มีวางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้อยู่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ไขควงหกเหลี่ยม ไขควงปากแบน ไขควงสลับหัว ไขควงชุด และไขควงอเนกประสงค์ให้เลือกใช้งานอีกมากมาย สั่งซื้อได้ที่ โฮมโปรออนไลน์
-ประแจเลื่อน เป็นเครื่องมือช่างสำหรับงานขันเกลียวน็อต จัดว่าเป็นเครื่องมือช่างที่ควรค่าแก่การมีไว้ใช้งานภายในบ้าน ลักษณะของประแจเลื่อนจะเป็นด้ามยาว ส่วนหัวจะมีรูปทรงที่พอดีกับเกลียวน็อต ส่วนใหญ่จะผลิตจากเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงทนทาน สามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับขนาดแป้นเกลียวได้ เรียกได้ว่ามีประแจเลื่อนตัวเดียวก็สามารถใช้งานได้เกือบทุกขนาด
-สว่านไฟฟ้า เป็นเครื่องมือช่างสำหรับการเจาะวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เจาะผนัง เจาะไม้ เจาะเหล็ก หรือ เจาะพลาสติก ก็สามารถทำได้ง่ายโดยคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง สามารถทำการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ เจาะรูเพื่อแขวนชั้นวางของ แขวนกระจก แขวนรูปภาพ ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โดยสว่านไฟฟ้าก็มีให้เลือกใช้งานอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ สว่านไฟฟ้า, สว่านกระแทก, สว่านโรตารี่ และ สว่านไร้สาย ซึ่งการเลือกสว่านไฟฟ้าประเภทใดถึงจะเหมาะสม ก็ควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งานเป็นหลัก
-ตลับเมตร เป็นอุปกรณ์เครื่องมือช่างที่ใช้สำหรับการวัดระยะ วัดขนาดสิ่งของต่างๆ ไม่อย่างถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งมีขนาดความยาวให้เลือกใช้งานตั้งแต่ 1-5 เมตร โดยขนาดของตลับเมตรที่เป็นที่นิยมในการใช้งานคือ ระยะวัด 2 เมตร มีขนาดเล็กกะทัดรัดสามารถพกพาได้สะดวก เหมาะกับงานช่างทั่วไป ซึ่งการเลือกซื้อตลับเมตรให้สังเกตุที่ตัวเลขบนแถบวัดค่าว่ามีความคมชัดหรือไม่ ขอเกี่ยวตรงปลายสายติดแน่นและตัวล็อคตลับเมตรสามารถล็อคได้แน่นไม่ลื่นหลุด
-คีม เป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่ควรมีเก็บไว้ใช้งานที่บ้าน สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจับชิ้นงาน ตัดลวด ตัดสายไฟ หรืองานดัดงอลวด ซึ่งคีมที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้อยู่หลากหลายประเภท เช่น คีมปากจระเข้ คีมปากแหลม คีมตัดสายไฟ คีมปอกสายไฟ คีมปากเฉียง คีมย้ำหางปลา คีมปากขยาย เป็นต้น
-กล่องเครื่องมือช่าง ก็เป็นอีกอุปกรณ์เครื่องมือที่ต้องหาซื้อไว้ใช้งานที่บ้าน สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆอย่างเป็นระเบียบ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องนำออกมาใช้งานก็สามารถหยิบเครื่องมือและอุปกรณ์ออกมาได้อย่างง่ายและสะดวกมากกว่าเดิม เครื่องมือช่างที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลายขนาดและผลิตจาก 2 วัสดุหลักคือ กล่องเครื่องมือช่างพลาสติก และ กล่องเครื่องมือช่างเหล็ก ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อกล่องเครื่องมือช่างราคาถูกได้ที่ Homepro Online