• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - fairya

#8356
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน
#8357
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#8358
ลงทองเรียกจิต เป็นการเรียกจิตให้อีกฝ่ายคิดถึง

ด้วยการเสกแผ่นทองคำเปลวแท้  100 %  ด้วยคาถาเรียกจิต  เพื่อเรียกจิตบุคคลที่ต้องการมาไว้ในแผ่นทอง  จากนั้นนำแผ่นทองที่ผ่านการเสกแล้ว  ไปติดตรงตำแหน่งกึ่งกลางหน้าผาก  โดยใช้สีผึ้งเรียกจิตทาก่อน  แล้วท่องคาถาเรียกจิตจนบุคคลที่ต้องการ  คิดถึงเรามากๆ 

ค่าครู 99  บาท
สนใจติดต่อ
โทร 0846623662
lide id : teerapat999

ลาซาด้า  คลิก
https://pdp.lazada.co.th/products/i2641064456.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.7dfb4edfDYXNoK
#8360



เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทโฮลดิ้งคอมพานีในเครือธนาคารไทยพาณิชย์เดินหน้าภารกิจ Moonshot Mission (มูนช็อต มิชชั่น) มุ่งลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ประกาศเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนหลักในการระดมทุนรอบ Series D ของ Fireblocks แพลตฟอร์มผู้ให้บริการเทคโนโลยีสำหรับการดูแลความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ร่วมกับกลุ่มผู้ลงทุนชั้นนำ ได้แก่ Sequoia Capital, Stripes, Spark Capital, Coatue และ DRW โดย SCB 10X นับเป็นบริษัทในเครือธนาคารรายที่ 3 ที่ร่วมลงทุนใน Fireblocks ต่อจาก BNY Mellon และ SVB Capital โดยการระดมทุนในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Fireblocks มีมูลค่าบริษัท (Valuation) พุ่งทะยานสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
 
การเพิ่มเงินทุนใหม่ในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความโดดเด่นของ Fireblocks ในการเป็นแพลตฟอร์มผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่ช่วยให้องค์กรใหม่ๆ สามารถเข้ามาในสนามของสินทรัพย์ดิจิทัลได้มากขึ้น นอกจากนี้เทคโนโลยีของ Fireblocks จะช่วยในการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ White Label สำหรับลูกค้าสถาบันที่ต้องการให้บริการดูแลและรับฝากสินทรัพย์ประเภทคริปโตเคอร์เรนซี (Crypto Custody) โดยที่ลูกค้าสถาบันสามารถให้บริการดูแลและรับฝากสินทรัพย์แก่ลูกค้าของตนได้โดยตรงโดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สาม

นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า Fireblocks นับเป็นตัวเลือกที่เป็นที่ต้องการขององค์กรชั้นนำมากมาย ทั้งองค์กรขนาดใหญ่ และองค์กรขนาดเล็ก เนื่องจากแพลตฟอร์มของ Fireblocks จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถนำเสนอโซลูชันการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำหนดเองได้ แทนที่จะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าพวกเขากำลัง outsource การดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งเป็นความสามารถที่สำคัญของการดำเนินธุรกิจประเภทนี้

SCB 10X ในฐานะหนึ่งในผู้ลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจและลูกค้าของ Fireblocks เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า Fireblocks มีความเชี่ยวชาญในระดับโลกในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ยากจะหาใครเทียบได้ในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในด้านเครือข่ายการถ่ายโอนสินทรัพย์ดิจิทัล (Asset Transfer Network) และโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลและรับฝากสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซี (Crypto Custody Infrastructure) เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการลงทุนในครั้งนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือในการนำเอาองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญและโซลูชันระดับโลกของ Fireblocks มาใช้ในการพัฒนาและต่อยอดเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับเทรนด์การให้บริการทางการเงินดิจิทัลแห่งโลกอนาคต
 
Fireblocks ในฐานะผู้บุกเบิกเทคโนโลยี MPC สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่น่าเชื่อถือซึ่งเป็นแกนหลักสำคัญของแพลตฟอร์มที่ถูกนำมาใช้กับองค์กรมากกว่า 500 แห่งทั่วโลก และช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยมากกว่า 1 ล้านล้านในสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้โครงสร้างพื้นฐานของ Fireblocks นับเป็นตัวขับเคลื่อนพื้นฐานที่สำคัญในการเติบโต และถูกนำมาปรับใช้ทั้งในสถาบันการเงินรูปแบบใหม่และดั้งเดิม ปัจจุบัน Fireblocks ขยายบริการไปทั่วโลก รองรับสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่ง นอกเหนือจากการให้บริการแก่ตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ  (Crypto-Native Exchanges), Lending Desks, Hedge Funds, OTC Desks และผู้ดูแลสภาพคล่องของตลาด (Market Maker) เช่น Revolut, BlockFi, Celsius, PrimeTrust, Galaxy Digital, Genesis Trading, Crypto.com และ eToro เป็นต้น
 

Fireblocks ก่อตั้งในปี 2562 โดยระดมทุนได้กว่า 489 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก Venture Capital (VCs) ชั้นนำระดับโลกด้านฟินเทค, บล็อกเชน และความปลอดภัยทางไซเบอร์ อาทิ Cyberstarts, Eight Roads, Tenaya Capital, Swisscom, Paradigm, Ribbit Capital และ Coatue
 
มร. ไมเคิล ชอลอฟ (Michael Shaulov) CEO Fireblocks กล่าวว่า เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะสามารถขยายบริษัทและโครงสร้างพื้นฐานผ่านการระดมทุนครั้งใหม่นี้ การเติบโตที่เราเห็นมาจนถึงปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในทุกช่วงของบริษัท ด้วยเทคโนโลยีของเราที่มีความโดดเด่นนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และความสำเร็จของเรานั้นได้ปรากฏอย่างชัดเจน เมื่อมองไปข้างหน้าสู่การเติบโตของอุตสาหกรรม เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจด้านการดูแลความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัลมีศักยภาพมหาศาล เราพร้อมจะเติบโตและเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับสถาบันการเงิน และองค์กรอื่นๆ ที่ต้องการจะเข้าสู่แวดวงนี้ได้อย่างปลอดภัยและราบรื่นมากยิ่งขึ้น
#8361
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#8362
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน
#8363



และร่วมกันนำองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยไปต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงนโยบาย เชิงสาธารณะ และเชิงพาณิชย์ ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีและส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการกับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานได้มีการดำเนินงานในการวิจัยพัฒนาและส่งเสริมในเรื่องของกัญชงมาอย่างต่อเนื่อง


นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยและและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ร่วมกับ มูลนิธิโครงการหลวง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้วิจัยและพัฒนากัญชง (Hemp) เพื่อให้เป็นพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี พ.ศ.2549 จนถึงปัจจุบัน ผลการวิจัยและพัฒนา ทำให้จากอดีตที่แม้แต่การใช้ประโยชน์ตามภูมิปัญญาและวิถีของชนเผ่าม้ง เพื่อทำเครื่องนุ่งห่มและใช้สอยในครัวเรือนนั้น ยังผิดกฎหมาย คือ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มีข้อมูลและองค์ความรู้ที่นำมาสู่แก้ไขกฎหมาย เพื่อส่งเสริมกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ  

โดยอาศัยความร่วมมือของหลายภาคส่วน และผลการวิจัยและพัฒนาจำนวนไม่น้อย นับจากปีพ.ศ. 2549-จนถึงปัจจุบัน กว่า 15 ปี เริ่มจากการพัฒนาพันธุ์เพื่อให้มีสารเสพติดต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด การพัฒนาวิธีการเพาะปลูก การแก้กฎหมาย และสร้างการตลาด เพื่อให้สามารถปลูกเป็นอาชีพได้จริง ในช่วงแรกๆ มุ่งการใช้ประโยชน์จากเส้นใยสำหรับในครัวเรือน ต่อมาขยายการศึกษาวิจัยสู่การใช้ประโยชน์จากแกน ลำต้น เมล็ด และเส้นใยในเชิงอุตสาหกรรม และนำไปสู่การศึกษาวิจัยที่มุ่งการใช้ประโยชน์ครอบคลุมทุกส่วน ทั้งเส้นใย เมล็ด และช่อดอก สำหรับอาหาร เวชสำอาง และการแพทย์ ในขณะนี้ โดยมีผลงานที่สำคัญคือ

ระยะที่ 1 ปี พ.ศ.2549-2554 ปรับปรุงและขึ้นทะเบียนพันธุ์ 4 พันธุ์ เป็นพันธุ์ที่มีปริมาณ THC ต่ำกว่า 0.3% คือ RPF1, RPF2, RPF3 และ RPF4 ควบคู่กับวิจัยและพัฒนาวิธีการเพาะปลูกที่เหมาะสม ได้แก่ ระยะปลูก ช่วงเวลาปลูก อายุเก็บเกี่ยว และระบบการปลูกเฮมพ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การตลาด และนำข้อมูลไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการปลูกเฮมพ์เป็นพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง (2552-2556) แผนปฏิบัติการพัฒนาเฮมพ์บนพื้นที่สูง ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2553-2557) และแผนปฏิบัติการพื้นที่นำร่องส่งเสริมการปลูกเฮมพ์ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่น่าน เชียงราย ตาก และเพชรบูรณ์


ระยะที่ 2 ปี พ.ศ.2555-2559 สวพส. ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ วิจัยและพัฒนาตามแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการปลูกเฮมพ์เป็นพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง ได้แก่ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ดำเนินการเพื่อแก้ไขกฎหมายให้สามารถปลูกเฮมพ์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พัฒนาระบบควบคุมการปลูกที่เหมาะสม และสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Institute of Small and Medium Enterprises Development, ISMED) กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนิน "โครงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเฮมพ์อย่างสร้างสรรค์แบบครบวงจร" เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากส่วนต่างๆ ของกัญชงที่เชื่อมโยงสู่ภาคปฏิบัติในโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และ สวพส. ได้ศึกษาวิจัยต่อเนื่อง ในด้านการศึกษาระบบส่งเสริมการปลูกภายใต้ระบบควบคุม ในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด

การพัฒนาระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์เฮมพ์ภายใต้ระบบควบคุม การพัฒนาชุดตรวจปริมาณ THC ภาคสนาม (THC test kit) ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเส้นใยเฮมพ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เช่น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้าง การวิจัยและพัฒนาต้นแบบอาหารสุขภาพจากเมล็ดเฮมพ์ เช่น น้ำมันในแคปซูล และโปรตีนอัดเม็ด ซึ่งพบว่าเมล็ดกัญชงที่มีอยู่ในปัจจุบัน 4 พันธุ์ มีน้ำมัน 28.06-29.62 % และเมื่อสกัดด้วยวิธีการบีบเย็นจะได้ผลผลิตน้ำมัน 22.29% ซึ่งมีกรดไขมันได้แก่โอเมก้า 3, โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 เท่ากับ 20.91, 58.23, 9.74 กรัมต่อน้ำมันเฮมพ์ 100 กรัม และมีโปรตีนที่ในกากเมล็ดเฮมพ์ 33.25 % 


ระยะที่ 3 ปี พ.ศ.2560-ปัจจุบัน มุ่งศึกษาวิจัยเพื่อปรับปรุงพันธุ์และพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะปลูก ในการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ประโยชน์ โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานรัฐ และเอกชน เพื่อขยายผลและผลักดันเฮมพ์เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทยตามนโยบายรัฐบาล ทั้งด้านเส้นใย อาหาร เวชสำอาง และการแพทย์ เช่น ร่วมกับสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบก และกรมพลาธิการทหารบก วิจัยและพัฒนาเครื่องแต่งกายทหารจากเส้นใยเฮมพ์ 3 ชนิด คือ ชุดพราง เสื้อยืด และถุงเท้า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่ พัฒนาชุดตรวจวัดปริมาณ THC อย่างง่าย (THC strip test) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการส่งตัวอย่างตรวจในห้องปฏิบัติการ ประมาณ 15-25 เท่า รวมทั้งการถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ให้กับเกษตรกร ภาครัฐ และเอกชน ผ่านการจัดฝึกอบรม สัมมนา ศึกษา ดูงาน ผลงานทางวิชาการ เอกสาร และคู่มือต่างๆ

ข้อจำกัดที่สำคัญของการสนับสนุนให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศไทยคือ ข้อมูล พันธุ์ และ การเตรียมการด้านการตลาด ซึ่งกฎหมายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเปิดโอกาสให้ใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น แต่ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน เป็นผลการวิจัยที่เน้นใช้ประโยชน์จากเส้นใยเป็นหลัก จึงยังไม่สมบูรณ์มากพอสำหรับวัตถุประสงค์อื่นๆ ซึ่งความสนใจปลูกขณะนี้ส่วนใหญ่มุ่งใช้ประโยชน์จาก CBD และเมล็ด และข้อจำกัดที่สำคัญมากอีกประการหนึ่ง คือเมล็ดพันธุ์ที่ยังผลิตได้ปริมาณน้อยมากสำหรับปี พ.ศ.2564 นี้ 

เพราะมีการผลิตจำนวนน้อยเพื่อใช้ในงานวิจัย ไม่สอดคล้องกับความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน ทั้งนี้จะสามารถการผลิตเมล็ดพันธุ์ให้พอเพียงได้เร็วที่สุด คือในปี พ.ศ.2565 การใช้ข้อมูลและเมล็ดพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศอาจจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามคงต้องทำอย่างรอบครอบ โดยมีการศึกษาทดลองก่อนนำมาใช้อย่างจริงจัง
#8364



นายธีระพงษ์ ลิมป์ประเสริฐ หัวหน้าสายงานจัดส่งสินค้าและบริหารค้าปลีก บริษัท เอบีพีโอ จำกัด ในเครือ บมจ.ทีวี ไดเร็ค (TVD) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการจัดส่งสินค้าครบวงจร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้สร้างผลกระทบต่อระบบขนส่งพัสดุของกลุ่มเอสเอ็มอี ผู้ค้าออนไลน์ หรือลูกค้าทั่วไป ให้มีความล่าช้าลง อันเนื่องจากผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุจำเป็นต้องชะลอการให้บริการบางสาขาลงชั่วคราว

บริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญของผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี บริษัทฯ มีการเตรียมตัวรับกับสถานการณ์ไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี บริษัทฯ จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถเดินหน้าต่อไปในวิกฤตินี้

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้นำกลุ่มธุรกิจให้บริการจัดส่งสินค้าครบวงจร (Fulfillment Service) ร่วมช่วยเหลือการจัดส่งพัสดุของกลุ่มเอสเอ็มอี ผู้ค้าออนไลน์หรือลูกค้าทั่วไป ตั้งแต่สินค้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่น้ำหนักไม่เกิน 30-150 กิโลกรัม โดยสามารถรองรับการขนส่งพัสดุสูงสุด 10,000 ชิ้นต่อวัน ซึ่งบริษัทฯ จะนำศูนย์กระจายสินค้าในทุกภูมิภาคของประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ นนทบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี ชลบุรี และระยอง ฯลฯ ให้บริการรับ-ส่งพัสดุทั่วประเทศ ทั้งจากผู้ค้าออนไลน์ กลุ่มเอสเอ็มอี และลูกค้าทั่วไป ด้วยอัตราค่าบริการที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย รวมทั้งจัดเตรียมส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่ส่งพัสดุจำนวนมาก 300 ชิ้นขึ้นไปต่อวัน (ตามข้อตกลง) โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทร 0-2793-2022 กด 3


สำหรับประเภทการจัดส่งสินค้า บริษัทฯ เปิดให้บริการฝากส่งสินค้าทุกประเภท เช่น อาหารสำเร็จรูป กล้าพันธุ์ไม้  เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องออกกำลังกาย เป็นต้น สามารถจัดส่งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภายใน 2 วัน ส่วนในต่างจังหวัดใช้ระยะเวลาโดยเฉลี่ยกว่า 3 วัน และกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาบริการส่งพัสดุด่วน 1 วัน (SAME DAY)


ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยลูกค้าที่เข้าใช้บริการโดยเจ้าหน้าที่จะสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาระหว่างให้บริการ ระบบการคัดกรองก่อนเข้าทำงาน และเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนคาดว่าจะครบทุกคนในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ยังพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนพัสดุทุกชิ้น เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19


"ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นช่องทางหลักที่สร้างรายได้ในสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก ผู้ค้าออนไลน์ และลูกค้าทั่วไป ซึ่งหลังจากประกาศล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว อัตราการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เติบโตเพิ่มขึ้น จากปกติอัตราขนส่งพัสดุในประเทศไทยโดยเฉลี่ย 4 ล้านชิ้นต่อวัน ดังนั้นทีวี ไดเร็คขอเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมต่อโลกการช้อปปิ้งออนไลน์ให้สามารถเดินหน้าต่อไป ด้วยบริการจัดส่งพัสดุถึงมือลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย โดยพร้อมยืนอยู่เคียงข้างและร่วมฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน"

สำหรับภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซของทีวี ไดเร็ค บนเว็บไซต์ หลังจากประกาศล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้ยอดขายสินค้าในช่องทางดังกล่าวมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยสัดส่วนรายได้จากลูกค้าอีคอมเมิร์ซเพิ่มจาก 10% เป็น 15% และจากการเพิ่มรายการสินค้าให้มีความหลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้สัดส่วนรายได้จากลูกค้าอีคอมเมิร์ซจะเพิ่มเป็น 20% ส่วนรายได้อีก 80% จะมาจากลูกค้าในช่องทางทีวีโฮมช้อปปิ้งและคอลล์เซ็นเตอร์
#8365



ความไม่แน่นอนของดิน ฟ้า อากาศ ส่งผลให้เกษตรกรของไทยเสียโอกาสที่จะได้ผลผลิตแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย  รวมถึงผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าจากแรงงานที่ลงทุน และยังส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยติดกับดักอยู่กับการทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม ซึ่งการแก้ปัญหาความไม่แน่นอนหลาย ๆ ด้านที่เกษตรกรต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านฤดูกาล ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน หรือการใช้สารเคมีในภาคการเกษตรจะทำให้เกษตรกรมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


วันนี้ "เอ็นไอเอ" ได้จุดประกายความว้าวจาก 3 สตาร์ทอัพ ผู้พัฒนา "ดีพเทค" ด้านเกษตรกรรมที่สามารถช่วยพี่น้องเกษตรกรให้รอดพ้นจากสภาพปัญหาความไม่แน่นอน พร้อมเปิดมิติใหม่ทางนวัตกรรมที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมหลักของประเทศก้าวไปสู่ทิศทางที่ดียิ่งขึ้น โดยเริ่มกันที่ ดร.มหิศร ว่องผาติ ประธานกรรมการ บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด ผู้ริเริ่มโครงการระบบวิเคราะห์การเจริญเติบโตของอ้อยด้วยโดรนแบบ TAILSITTER เล่าว่า จากปัญหาผลผลิตตกต่ำของเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่พบว่า ในแต่ละปีเกษตรกรได้ผลผลิตจากการปลูกอ้อยต่ำมาก ทำให้ผลตอบแทนที่ได้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งจากการเก็บข้อมูลจากเกษตรกรชาวไร่อ้อยพบว่าปัญหาที่ส่งผลให้ผลผลิตในแต่ละปีต่ำกว่าที่ควรจะเป็น คือเกษตรกรวางแผนการตัดอ้อยในระยะเวลาที่ไม่เหมาะสมทำให้ค่าน้ำตาลในต้นอ้อยต่ำกว่าค่ามาตรฐาน

จนเกษตรกรขายอ้อยได้ในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุน รวมไปถึงการที่เกษตรกรไม่สามารถตรวจสอบจุดที่อ้อยล้มและไม่เจริญเติบโตได้ เนื่องจากการปลูกอ้อยแต่ละครั้งจะปลูกเป็นจำนวนหลายไร่ การใช้แรงงานคนในการตรวจสอบไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง ส่งผลให้แต่ละปีเกษตรกรไร่อ้อยได้รับผลผลิตไม่มากพอ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาที่เกษตรกรกำลังเผชิญ ทางบริษัทจึงได้ทำระบบการวิเคราะห์การเจริญเติบโตของอ้อยด้วยอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน เพื่อตรวจสอบปัญหาที่เกษตรไม่สามารถทำได้ด้วยตาเปล่า

 โดยการทำงานของระบบจะใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพถ่ายโดยโดรน ซึ่งมีความละเอียดสูงทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ส่งผลให้อ้อยเจริญเติบโตได้ไม่ดีพอ รวมไปถึงตรวจหาบริเวณที่อ้อยล้มหรือไม่เจริญเติบโตเพื่อทำการปลูกทดแทน โดยปกติเกษตรกรจะไม่สามารถมองได้จากระดับสายตา เนื่องจากอ้อยที่โตแล้วจะสูงถึง 2-3 เมตร ดังนั้นการใช้ภาพถ่ายมุมสูงจากโดรนจึงสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างดี ทั้งนี้ ในปัจจุบันได้มีการทดลองใช้ระบบนี้ในพื้นที่จ.อุทัยธานี และจ.ขอนแก่น โดยมีพื้นที่ที่ใช้บริการเฉลี่ยแล้วกว่า 50,000 ไร่ และพบว่าเกษตรกรสามารถส่งอ้อยไปขายได้ราคาดีมากยิ่งขึ้น  โดยบริษัทคาดหวังว่าระบบนี้จะช่วยให้เกษตรกรรมเพาะปลูกอ้อยมีความแม่นยำ สามารถช่วยเพิ่มปริมาณของผลผลิตต่อพื้นที่ รวมไปถึงสามารถกะระยะเวลาในการตัดอ้อยได้อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยในประเทศไทยได้ดีมากยิ่งขึ้น


ต่อกันที่ นางสาวรัสรินทร์ ชินโชติธีรนันท์ ประธานกรรมการบริษัท  บริษัท ลิสเซินฟิลด์ จำกัด ผู้ริเริ่มระบบบริหารจัดการการเพาะปลูกข้าวแบบรวมกลุ่มด้วยดิจิทัลเทคโนโลยีและภาพถ่ายจากดาวเทียม กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของโครงการมาจากปัญหาของเกษตรกรที่ปลูกข้าวและมักจะได้ผลผลิตต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งจากการเก็บข้อมูลทำให้เราพบว่า สภาพดินเป็นตัวแปรหลักในการสร้างผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นทางบริษัทจึงได้มีการวางแผนตรวจสอบสภาพดินผ่านระบบฟาร์ม AI ให้แก่เกษตรกรที่ทำนาข้าว โดยการเก็บตัวอย่างดินและนำมาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีเชิงลึก เพื่อหาว่าดินในที่นาแต่ละแปลงของเกษตรกรจะต้องปรุงดินอย่างไรให้เหมาะสม นอกจากการตรวจสภาพดินแล้ว ทางบริษัทได้มีการเก็บบันทึกข้อมูลพร้อมทั้งจัดทำโมเดล เพื่อทำการวิเคราะห์และพยากรณ์สภาพอากาศ ประเมินประสิทธิภาพการเจริญเติบโตแบบอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูลกรณีฝนทิ้งช่วงและปริมาณน้ำในดินจากน้ำฝน รวมไปถึงมีระบบการเตือนอัตโนมัติในพื้นที่ที่การเจริญเติบโตต่ำด้วยระบบ AI ซึ่งเทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้นช่วยให้เกษตรมีข้อมูลมากพอสำหรับนำไปวางแผนเพราะปลูกข้าวได้อย่างเหมาะสมมากกว่าการคาดคะเนจากประสบการณ์ของตัวเกษตรกรเอง   


โดยปัจจุบันได้มีการทดลองใช้ระบบนี้กับเกษตรกรที่ปลูกข้าวในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีที่นาเข้าร่วมการทดสอบประมาณ 200 ไร่ มีทั้งเกษตรกรที่ทำนาข้าวแบบดั้งเดิม และเกษตรกรที่ทำนาข้าวแบบอินทรีย์  เป้าหมายหลักในการทำโครงการครั้งนี้ทางบริษัทคาดหวังว่าจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกระบวนการทำนาข้าวให้แก่เกษตรกร ตั้งแต่การเริ่มต้นปลูกข้าวไปจนถึงการหาช่องทางการจำหน่ายใหม่ ๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมไปถึงการลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการเกษตรกรรมไม่ว่าจะเป็นการซื้อปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ข้าว สารเคมี ให้ได้ประมาณ 20 % จากรายจ่ายเดิมที่เกษตรกรต้องจ่าย สำหรับช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลนั้น ผู้เพาะปลูกสามารถเข้าถึงได้ทางแอปพลิเคชันฟาร์มเอไอ-เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ นอกจากนี้ระบบยังมีการเก็บและรายงานข้อมูลผ่านบน Web Dashboard สำหรับให้วิสาหกิจชุมชน กลุ่มสหกรณ์ เกษตรจังหวัดได้เข้าไปไปใช้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการปลูกข้าวเพื่อนำไปวางแผนในการเพิ่มผลผลิตและมูลค่าให้แก่เกษตรกรผู้ทำนาข้าวต่อไป


ปิดท้ายกันที่บริษัทสตาร์ทอัพ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ใบไม้-รีคัลท์ แอปพลิเคชันที่จะช่วยเกษตรกรจัดการกระบวนการเพาะปลูกอย่างครบวงจร โดยนายอุกฤษ อุณหเลขกะ กรรมการผู้จัดการบริษัท รีคัลท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตนเองและทีมต้องการเห็นเกษตรกรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะจากการหาข้อมูลก่อนที่จะเริ่มทำสตาร์ทอัพ พบว่ามูลค่าการเกษตรในประเทศไทยสูงมาก และประเทศไทยมีคนประกอบอาชีพเกษตรกรรมมากกว่า 40% ของจำนวนประชากรทั้งหมด แต่ทำไมเกษตรกรยังคงมีรายได้ต่ำกว่าอาชีพอื่น ๆ ดังนั้นตนจึงอยากยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรด้วยเทคโนโลยีเหมือนในต่างประเทศ

โดยทางบริษัทจึงเริ่มต้นเก็บข้อมูล และศึกษาปัญหาที่เกษตรกรไทยจะต้องเผชิญทุกปี ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาสภาพอากาศเป็นตัวแปรสำคัญในการทำเกษตรกรรม รวมไปถึงช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลด้านการเกษตรที่มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน ใบไม้-รีคัลท์ ขึ้นมา เพื่อช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกตั้งแต่ต้นทาง โดยเริ่มจากการเช็คปริมาณฝนซึ่งแอปฯสามารถคำนวณได้ล่วงหน้านานกว่า 9 เดือน  การวิเคราะห์ปัญหาที่เกษตรกรจะต้องเผชิญในแต่ละช่วงฤดู ไปจนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยวและขายสินค้าทางการเกษตร โดยเกษตรกรสามารถบริหารจัดการกระบวนการทำการเกษตรผ่านแอปพลิคชันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย  


นายอุกฤษ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้ามาใช้บริการแอปพลิคชันมากกว่า 4 แสนราย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ทำพืชไร่ เช่น นาข้าว ไร่อ้อย มันสำปะหลัง และจากการติดตามผลพบว่าระบบสามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้มากขึ้นกว่า 30 % นอกจากนี้ระบบยังมีการเก็บข้อมูลของเกษตรกร และเชื่อมโยงข้อมูลกับโรงงานอุตสาหกรรม หรือธนาคาร เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างถูกกฎหมาย เกษตรกรไม่ต้องอาศัยการกู้เงินนอกระบบเพื่อมาลงทุน นอกจากนี้ ในอนาคตยังจะมีการขยายบริการด้านการเกษตรให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อปุ๋ยผ่านแอปพลิเคชัน การเรียกใช้งานโดรนฉีดพ่น และช่องทางการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบอีคอมเมิร์ซได้ด้วย
#8366



แฟนคลับทนไม่ไหวอยากรู้มากๆกับข่าวลือที่ถูกโยงมาเป็นสาว กระต่าย พรรณนิภา โดยในข่าวโยงว่าท้องกับผู้จัดการส่วนตัว งานนี้ชาวเน็ตจี้ถามมากมาย

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ขึ้นมาทันที หลังล่าสุดมีคนขุดเรื่องราวของนักร้องสาว กระต่าย พรรณนิภา ลูกทุ่งอีสานอินดี้ชื่อดัง โดยเม้าท์ว่าซุ่มคลอดลูกเงียบๆ โดยหลายคนจับสังเกตจากรูปร่างของเธอที่อวบขึ้น ใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่มากขึ้น ซึ่งต่อมามีการชี้เป้ามา ผู้จัดการของเธอก็คือพ่อของเด็ก และมีการขุดเรื่องแฟนเก่าของผู้จัดการมาคอมเมนต์แตกยอดมากมาย

หลังมีข่าวดังกล่าวออกมา สาวกระต่ายก็ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร มีเพียงโพสต์โปรโมทเพลงก่อนหน้านี้ไปเท่านั้น งานนี้ชาวเน็ตและแฟนคลับเลยอดรนทนไม่ไหวต้องออกมาจี้ผ่านคอมเมนต์ถามสาวกระต่ายแบบรัวๆว่าเรื่องราวจริงไหม ให้ตอบด้วย ถ้าจริงจะเลิกติดตามทุกอย่าง บ้างก็มีคนยุให้ฟ้อง จากนั้นก็มีการสาดน้ำลายกันไปมาอย่างดุเดือดจนกลายเป็นดราม่ากลางไอจีสาวกระต่ายทันที นอกจากนี้ก็มีชาวเน็ตมาให้กำลังใจอีกด้วย




ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @kratai_phannipha
#8368



สมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี) ร่วมกับเดอะมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และเดอะอาร์แอนด์เอ ผู้จัดการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ (เอเอซี) ร่วมแถลงข่าวยืนยันการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ครั้งที่ 12 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2021 ที่สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ในนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากต้องยกเลิกไปในปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

การแข่งขันกอล์ฟกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2009 เพื่อเป็นเวทีพัฒนานักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยแชมป์รายการนี้จะได้รับเชิญเข้าร่วมแข่งขันในระดับเมเจอร์ รายการเดอะ มาสเตอร์ส และ ดิ โอเพน ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์ลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายลุ้นตั๋วลุยศึก ดิ โอเพน โดยในปี 2020 การแข่งขันถูกยกเลิกเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด -19 ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันเผยกำหนดการแข่งขันในปี 2021 จะกลับมาดวลวงสวิงระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายนนี้ ณ สนามดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกอล์ฟรายการนี้ โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งใน 42 ประเทศสมาชิกของสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก และนครดูไบก็เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟระดับอาชีพและระดับสมัครเล่นทุกปี รวมถึงการแข่งขันรายการ ดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ของยูโรเปียนทัวร์ และรายการดีพี เวิลด์ทัวร์ แชมเปียนชิพ

ไทมูร์ ฮัสซัน อามิน ประธานสหพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก เฟร็ด ริดลีย์ ประธานมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และ มาร์ติน สลัมเบอร์ส ประธานบริหารของอาร์แอนด์เอ กล่าวร่วมกันถึงการจัดการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2021 ว่า "การสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เมเจอร์รายการ เดอะ มาสเตอร์ส ในปีนี้ของฮิเดกิ มัตสึยามา ซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 สมัย เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการแข่งขันรายการนี้ในฐานะที่เวทีสำหรับการพัฒนากีฬากอล์ฟและความสามารถของนักกอล์ฟสมัครเล่นในภูมิภาค เราขอขอบคุณเป็นอย่างสูงสำหรับสมาพันธ์ฟอล์ฟเอมิเรตส์ และดูไบ ครีก กอล์ฟ แอนด์ ยอชต์ คลับ ที่ให้การสนับสนุนจัดการแข่งขันในปีนี้ และเรามุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการแข่งขันในปีนี้ได้อย่างปลอดภัยตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อมอบโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่น ที่สมควรได้รับโอกาสเหล่านี้ ขณะที่สนามดูไบครีกจะช่วยยกระดับมาตรฐานสนามที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ และเราก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นการประชันฝีมือของนักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแถวหน้าของเอเชีย-แปซิฟิกในเดือนพฤศจิกายนนี้"

สำหรับสนามดูไบ ครีก เปิดบริการในปี 1993 เป็นสนาม 18 หลุม พาร์ 71 ซึ่งเริ่มแรกออกแบบโดยคาร์ล ลิตเท่น ก่อนจะมีการออกแบบใหม่ในปี 2004 นำทีมออกแบบโดย โธมัส บียอร์น สนามแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการดูไบ เดเสิร์ต คลาสสิค ในปี 1999 และ 2000 และรายการ ดูไบ ครีก โอเพ่น ซึ่งเรย์ฮัน โธมัส รองแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปี 2018 โชว์ฟอร์มทำสถิติสนามในปี 2017 เมื่อเร็วๆนี้ สนามดูไบ ครีก เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ดูไบ แชมเปียนชิพ รายการในเวิลด์ อเมเจอร์ ทัวร์ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ด้าน ชีค ฟาฮิม บิน สุลต่าน อัล กอซิมี ประธานสมาพันธ์กอล์ฟเอมิเรตส์ กล่าวว่า "หลังจากได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ มาหลายปีในฐานะสมาชิกของสมาพันธ์กอล์ฟ เอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกตื่นเต้นยินดีมากที่จะได้ต้อนรับการแข่งขันอันทรงเกียรตินี้สู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นครั้งแรก การแข่งขันรายการนี้มีความหมายอย่างมากกับบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นในเอเชีย-แปซิฟิก เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมสนับสนุนสมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซฟิก, มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และอาร์แอนด์เอ ในความพยายามจัดการแข่งขันที่ปลอดภัยและประสบความสำเร็จร่วมกันในการสร้างเวทีเพื่อพัฒนาและส่งเสริมเกมกีฬากอล์ฟ"

คริสโตเฟอร์ เมย์ ประธานประธานกรรมการบริหารของดูไบกอล์ฟ กล่าวว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ เป็นการรวมตัวกันของเหล่านักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและทั่วโลก เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรผู้ก่อตั้งทัวร์นาเมนต์ เลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าการแข่งขันเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ ปีนี้ จะเป็นบททดสอบที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟที่เข้าร่วมชิงชัย และเรากำลังเฝ้ารอที่จะได้เป็นเวทีแห่งการประชันฝีมือของบรรดานักกอล์ฟมือสมัครเล่นระดับแนวหน้าจากทั่วโลกและมีส่วนร่วมในการพัฒนาเกมกีฬากอล์ฟ"

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 12 ปีของการแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ การแข่งขันรายการนี้คือบันไดก้าวแรกสู่การเป็นผู้เล่นชั้นนำของโลกของนักกอล์ฟหลายคน รวมถึง มัตสึยามา ซึ่งคว้าแชมป์เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ 2 ครั้ง และมาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์เมเจอร์หลังชนะเลิศรายการมาสเตอร์ส ในปี 2021

ทางด้าน หลิน ยู่ซิน นักกอล์ฟมือสมัครเล่นจากจีน ดีกรีแชมป์ปี 2017 และ 2019 หวังสร้างสถิติเป็นนักกอล์ฟคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ 3 สมัย หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ ทำผลงานผ่านการตัดตัวในรายการเมเจอร์ ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 149 ที่สนามรอยัล เซนต์ จอร์จส

นักกอล์ฟถนัดซ้ายมือสมัครเล่นอันดับ 16 ของโลก กล่าวกว่า "การแข่งขันกอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพเป็นทัวร์นาเมนต์ที่วิเศษมากที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ลงเล่นรายการเมเจอร์ทั้งในมาสเตอร์ส และดิ โอเพน ซึ่งผมรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณรายการนี้อย่างมาก"
#8369
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#8370
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน