• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. บัตรกรุงศรีอยุธยา”

Started by Chigaru, October 30, 2022, 12:53:40 PM

Previous topic - Next topic

Chigaru

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน "บ. บัตรกรุงศรีอยุธยา" ที่ "AAA" แนวโน้ม "Stable"

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด ที่ระดับ ?AAA? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทลูกหลัก (Core Subsidiary) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทบัตรกรุงศรีอยุธยาอยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยา (ระดับ ?AAA/Stable? ซึ่งจัดอันดับโดยทริสเรทติ้ง)

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาในฐานะที่เป็นบริษัทลูกที่สำคัญ

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและแหล่งเงินทุนอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาในฐานะที่บริษัทเป็นบริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจหลักของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทและได้วางตำแหน่งให้บริษัทเป็นหน่วยธุรกิจหลักของธนาคารที่ให้บริการด้านบัตรเครดิตภายใต้ตราสัญลักษณ์

?กรุงศรี? บริษัทมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและมีแนวทางการดำเนินงานที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ ?กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์? ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตหลากหลายประเภท

บริษัทมีระบบปฏิบัติการร่วมกับธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ โดยบริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสาขาของธนาคารที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นช่องทางในการขยายฐานลูกค้าบัตรเครดิตรวมทั้งใช้เป็นช่องทางการชำระเงินและให้บริการ ทั้งนี้ จำนวนบัตรเครดิตใหม่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น เกือบ 50% ของจำนวนบัตรเครดิตใหม่มาจากการแนะนำผ่านสาขาของธนาคารเป็นช่องทางหลัก นอกจากนี้ ธนาคารยังให้การสนับสนุนบริษัทในด้านการรวมศูนย์ระบบปฏิบัติการทั้งในด้านการบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบภายใน และเทคโนโลยีสารสนเทศที่ได้มาตรฐานอีกด้วย ในฐานะที่เป็นบริษัทลูกประเภท Solo Consolidation ของกลุ่มฯ บริษัทจึงได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาในรูปแบบของวงเงินสินเชื่ออีกด้วย

มีสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจบัตรเครดิต

บริษัทยังคงรักษาสถานะทางการตลาดของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถึงแม้ว่ามูลค่าสินเชื่อคงค้างจะหดตัวอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับประมาณ 10% ของมูลค่าสินเชื่อคงค้างของบัตรเครดิต โดยยอดสินเชื่อบัตรเครดิตคงค้างของบริษัทอยู่ที่ระดับ 4.5 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2564 ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของบริษัทในปี 2564 อยู่ที่ระดับ 1.64 แสนล้านบาท (หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับ 11% ของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในอุตสาหกรรม) ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าเนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำ

พัฒนาการของบริษัทในปี 2565 เป็นไปในเชิงบวก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 สินเชื่อคงค้างบัตรเครดิตขยายตัว 5.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ฟื้นตัวด้วยการเติบโต 11.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการฟื้นตัวของการบริโภคจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด 19 ทริสเรทติ้งคาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีแรงผลักดันมาจากกิจกรรมทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพและความร่วมมือกับธนาคารแม่

คุณภาพของสินทรัพย์ยังคงแข็งแรง

บริษัทสามารถรักษา NPL Ratio (ลูกหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน) สำหรับบัตรเครดิตให้อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 2% เช่นเดียวกันกับสินเชื่อส่วนบุคคลทีมี NPL Ratio ที่ 2.4% ณ สิ้นปี 2564 ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 3.1% คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่รัดกุมและข้อมูลเครดิตที่ใช้ร่วมกันของลูกค้าภายในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์

สถานะเงินทุนมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น

ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาระดับฐานทุนให้แข็งแรงและอยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับแผนการขยายธุรกิจในระยะปานกลางและจะช่วยรองรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายหลังจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สิ้นสุดลงได้ โดยบริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 24% ณ สิ้นปี 2564 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 21% ณ สิ้นปี 2563 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากกำไรที่สะสมอย่างต่อเนื่องและนโยบายงดการจ่ายเงินปันผลของบริษัท

ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา

บริษัทมีสถานะเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ในระดับที่เพียงพอจากการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาในรูปแบบของวงเงินสินเชื่อ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่น ๆ ได้อีก เช่น การออกหุ้นกู้ในตลาดทุน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 บริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารเป็นจำนวน 4.05 หมื่นล้านบาท โดยที่ 97% ของวงเงินดังกล่าวนั้นยังไม่ได้เบิกใช้

?

แรงกดดันจากการแข่งขันของอุตสาหกรรมยังคงมีต่อเนื่อง

การทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด 19 ตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมา ทำให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและผู้บริโภคกลับมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ธุรกิจสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนได้จากปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในครึ่งแรกของปี 2565 ที่อยู่ที่ระดับ 0.94 ล้านล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ยอดคงค้างของบัตรเครดิตในอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 9.7% ในครึ่งแรกของปี 2565

อย่างไรก็ดี คุณภาพสินทรัพย์ทั้งในส่วนของบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลอ่อนแอลงเล็กน้อย โดย NPL Ratio สำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตทั้งระบบอยู่ที่ 2.1% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก 1.8% ณ สิ้นปี 2564 ในขณะที่ NPL Ratio ของสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งไม่รวมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.8% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 จาก 3.1% ณ สิ้นปี 2564 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ในมุมมองของทริสเรทติ้งคุณภาพสินทรัพย์ทั้งระบบยังคงมีความเปราะบางและมีแนวโน้มอ่อนแอลงภายหลังจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สิ้นสุดลง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยังคงได้รับแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมทางการแข่งขัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่เรียกเก็บจากลูกหนี้ การเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงิน และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การกระจายตัวไปยังธุรกิจอื่น ๆ เพื่อช่วยลดแรงกดดันจากการสร้างรายได้ยังคงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งตั้งอยู่บนความคาดหมายที่บริษัทจะยังคงดำรงสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลักของธนาคารกรุงศรีอยุธยาต่อไป

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสถานะความเป็นบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาเอาไว้ได้และจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่ต่อไป

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

สถานะเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลงในกรณีที่สถานะเครดิตของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปลี่ยนแปลงไป หรือมุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับความสำคัญของบริษัทที่มีต่อกลุ่มหรือระดับของการสนับสนุนที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีต่อบริษัทเปลี่ยนแปลงไป

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด (KCC)

อันดับเครดิตองค์กร: AAA

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

KCC233A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA

KCC239A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 AAA

KCC249A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 AAA

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html