ตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าพักตัวตามภูมิภาคขาดปัจจัยหนุนใหม่-กลับมากังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย

[Chanapot]

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้พักตัวลงเล็กน้อย เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียหลังก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมาแรง ประกอบกับปัจจัยแวดล้อมของต่างประเทศขาดแรงสนับสนุน และนักลงทุนกลับมากังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม วันนี้จับตาประเด็นในประเทศ โดยเฉพาะผลการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ด กสทช.) ที่จะมีการพิจารณาการควบรวมกิจการของบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ว่าจะออกมาอย่างไร และการเก็งกำไรในผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/65 ให้แนวรับไว้ที่ 1,576 จุด และแนวต้าน 1,600 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (19 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,423.81 จุด ลดลง 99.99 จุด หรือ -0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,695.16 จุด ลดลง 24.82 จุด หรือ -0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,680.51 จุด ลดลง 91.89 จุด หรือ -0.85%¶
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,981.75 จุด ลดลง 275.63 จุด หรือ -1.01% , ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 16,230.79 จุด ลดลง 280.49 จุด หรือ -1.70% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,029.30 จุด ลดลง 15.08 จุด หรือ -0.50%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,588.72 จุด ลดลง 1.64 จุด, -0.10%
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 309.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ต.ค.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.(19 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 2.73 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 85.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ต.ค.) อยู่ที่ 5.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 38.42 แนวโน้มอ่อนค่า หลังดอลลาร์แข็งค่า รับบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง
"อาคม" เตรียมถก "สภาพัฒน์-ธปท." ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า เพื่อรักษาระดับการใช้จ่ายในประเทศ ด้าน "สุพันธุ์" ระบุชัดมาตรการภาครัฐยังไม่ตรงจุด แนะควรเน้นลดค่าครองชีพ ปลุกกำลังซื้อ
ลุ้นบอร์ด กสทช.โหวต ดีลทรูควบรวมดีแทควันนี้ คาดมติไฟเขียวให้รวมกิจการพ่วงมาตรการเข้ม หลังบอร์ดยื้อการพิจารณามานานกว่า 3 เดือน เชื่อ 3 เสียงให้ผ่าน ยกเหตุผลอุตฯโทรคมเป็นกิจการเฉพาะ หากไม่ควบประเทศอาจสะดุด และยึดตามประกาศปี 61 ทำได้เพียงแค่รับทราบ หวั่นหากยังเลี้ยงไข้จะโดนอาญา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ด้านสภาฯผู้บริโภคขู่ฟ้องทุกคน รับไม่ได้ลอยแพประชาชน รับชะตากรรมค่าโทรแพงลิ่ว
กบง. นัดถกวันนี้ (20 ต.ค.) หาข้อสรุปแนวทางการทบทวนราคา LPG ภาคครัวเรือนที่จะสิ้นสุดการตรึงราคาไว้ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กก.ภายใน 31 ต.ค. นี้ลุ้นตรึงต่อหรือขยับ ตามแผนเดิมอีก 1 บาทต่อ กก. 3 เดือน ขณะที่กองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดติดลบทะลุ 1.25 แสนล. แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 84,126 ล้านบาท บัญชี LPG ติดลบ 42,564 ล้านบาท
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปก 2022 (ABAC) เปิดเผยถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของนักธุรกิจไทยต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในเขตเศรษฐกิจไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยสำรวจผ่านตัวแทนผู้ประกอบการไทย451รายพบว่าธุรกิจขนาดใหญ่มีสัดส่วนเป็น 58.9% ของจีดีพีอีก 34.6% คือธุรกิจเอสเอ็มอี โดยเอสเอ็มอีมีมูลค่าในจีดีพีสูงถึง 4.2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ผลสำรวจสถานะทางธุรกิจในปัจจุบันเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่ายอดขายกำไร สภาพคล่อง การจ้างงาน การลงทุน และภาพรวมธุรกิจทรงตัวเท่ากับปีก่อน โดย 40.4% สถานะเท่าเดิม 30.3% ตอบว่าน้อยลงและ 24.4% ตอบว่าเพิ่มขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้

PRM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 7.90 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/65 สดใสเบื้องต้นคาด +3% Q-Q, +38% Y-Y เพราะเรือที่ทยอยเข้ามาใน 1H22 จะทำงานเต็มที่ตั้งแต่ไตรมาส 3/65 และรับเรือใหม่อีก 1 ลำในไตรมาส 4/65 บาทอ่อนกระทบสุทธิเป็นบวกเล็กน้อย เพราะมีเงินกู้เป็น USD ราว $40 กว่าล้าน ชดเชยได้จากรายได้ที่เป็น USD ประมาณ 60% ของรายได้ทั้งหมด เป็นหุ้นเปิดเมืองที่ยัง Laggard ปัจจุบันเทรด 2023PER เพียง 12 เท่า
AWC (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.00 บาท แนวโน้มผลประกอบการ H2/65 ฟื้นตัวหลัง COVID-19 คลี่คลาย คาดเห็นยอดจองห้องพักเพิ่มขึ้นทั้งใน กทม.เชียงใหม่ และเกาะสมุย นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากธุรกิจ MICE จากที่มีโรงแรมร่วมเป็นพันธมิตรกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ส่วนธุรกิจให้เช่าพื้นที่ค้าปลีกและสำนักงานฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับตามอัตราการใช้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการให้ส่วนลดค่าเช่าลดลง ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรปี 65 ราว 1.2 พันล้านบาท +46% และในปี 66 จะฟื้นตัวต่อเนื่องเป็น 1.6 พันล้านบาท +33%YoY
CHAYO (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 9.00 บาท ลุ้นราคาหุ้น Bottom out หลังปรับฐานมากว่า 5 เดือนหรือ -33% นับจากเดือน มิ.ย.สะท้อนความเสี่ยงและการปรับลดประมาณการกำไรของตลาดไปแล้ว ไตรมาส 4/65-ไตรมาส 1/66 เตรียมซื้อกองหนี้ใหม่เข้าพอร์ตตามการขายหนี้และบริการความเสี่ยงของธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีผลต่อ CHAYO ในปี 65-66 จำกัด บ.มีเงินทุนเพียงพอจาก Warrant การขาย NPA และ IPO CHAYO Capital โดย DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 262 ลบ. และ 396 ลบ. +1.4%YoY, +38%YoY ตามลำดับ